“สุริยะใส” ยันพันธมิตรฯไม่มีทางเลือก จะเคลื่อนไหวคัดค้านทั้งในและนอกสภา หาก “พลังแม้ว” ดันทุรังแก้ รธน.โดยมีวาระซ่อนเร้นมีส่วนได้เสีย ใช้เสียงข้างมากลากไป เชื่อตั้ง ส.ส.ร.ภาค 3 เลี่ยงวิกฤต รธน.หวั่นเผชิญหน้า ขณะเดียวกัน ข้องใจ “เติ้ง” เคยริเริ่มทำคลอด ส.ส.ร.ชุดแรก แต่ครั้งนี้กลับไม่สนใจที่มา ตั้งหน้าตั้งตาแก้ไข รธน.อย่างเดียว
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวกรณีที่รับบาลจะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า นับวันแนวคิดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนยิ่งเผยธาตุแท้ว่าต้องการฟอกผิดระบอบทักษิณ และขจัดขวากหนามต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่าย มาวันนี้ก็จะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อลดวาระขององค์กรอิสระที่ตั้งโดยคำสั่ง คมช.เช่น ป.ป.ช.และ กกต.โดยอ้างว่ามาตราเหล่านี้ไม่เป็นประชาธิปไตย
ปากอ้างว่าเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตย แต่วิธีการหรือกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญกับจะปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเฉพาะข้อเสนอเรื่องให้มี ส.ส.ร.ภาค 3 นั้น น่าจะเป็นทางออกของวิกฤตรัฐธรรมนูญ และทุกฝ่ายรับได้ เพื่อให้สังคมเป็นเจ้าภาพแทนสภา เพราะถือว่า ส.ส.เป็นผู้มีส่วนได้เสีย หากมี ส.ส.ร.ภาค 3 จะทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการเรียนรู้และสร้างความสมานฉันท์ในสังคมแทนที่จะเป็นการเผชิญหน้าจนเกิดความแตกแยกมากขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า หากพรรคพลังประชาชนดึงดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยอาศัยเสียงในสภา ปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน ก็เป็นเรื่องน่าละอาย จะอ้างได้อย่างไรว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะขนาดยุค คมช.ที่ประณามกันว่าเป็นยุคเผด็จการยังออกแบบให้กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญทำโดย ส.ส.ร.รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย กระทั่งจัดให้มีการลงประชามติ หรือแม้แต่ที่มาของรัฐธรรมนูญ 2540 ในสมัยรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา ก็ยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2538 มาตรา 211 เพื่อให้มี ส.ส.ร.ชุดแรก ซึ่งต้องยกประโยชน์ให้อดีตนายกฯ บรรหาร ที่เป็นผู้ทำคลอด ส.ส.ร.ทำให้เกิดแบบอย่างที่ดีของการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้รับการยอมรับจากทั้งในและนอกประเทศ
“แต่ครั้งนี้น่าแปลกใจเหมือนกันทำไม นายบรรหาร และพรรคชาติไทย สนใจแต่ประเด็นที่จะแก้ไข แต่ไม่ให้ความสำคัญกับวิธีการแต่อย่างใด ถ้าวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ทำโดยมีวาระซ่อนเร้น ผู้มีส่วนได้เสีย และใช้เสียงข้างมากลากไป พันธมิตรฯ ก็คงไม่มีทางเลือก ที่ต้องเคลื่อนไหวคัดค้านทุกรูปแบบทั้งช่องทางในสภาและนอกสภา” ผู้ประสานงานพันธมิตรฯกล่าว