“สมัคร” ให้ท้าย “ณัฐวุฒิ” ใช้ทำเนียบสถานที่ราชการแถลงโต้เรื่องส่วนตัว แจงนายกฯ ใช้สื่อรัฐ เพราะเป็นผู้นำรัฐบาล อ้างต้องสร้างความเชื่อมั่น ปชช.หลังเสียรังวัดยึดช่องเอ็นบีที พล่ามตอก “ชวน” เทิดทูนนายใหญ่เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่อ่อนหัดด้านการเมืองจึงถูกโค่นล้ม
วันนี้ (21 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับสัญญาณไฟเขียวจาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีให้เปิดตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล แถลงชี้แจงกรณีที่นายสมัครใช้รายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ของกรมประชาสัมพันธ์ ตอบโต้ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า นายสมัคร เป็นนายกฯ ที่มีคดีความจนนายสมัครหยิบยกกรณีที่นายระลึก หลีกภัย น้องชายของนายชวนหนีคดีฉ้อโกงจนขาดอายุความมาเทียบกันตัวเองว่า มีทั้งระดับและระดับล่างของ ปชป.ออกมาตอบโต้และวิจารณ์นายกรัฐมนตรีอย่างหนาแน่น ซึ่งความจริงเรื่องนี้นายกฯ พูดเพราะว่าท่านถูกนายชวนระบุว่าเป็นคนที่มีคดีติดตัวและเข้ามาเป็นนายกฯ ดังนั้น นายกฯ จึงหยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมา
“เพื่อเป็นการเทียบเคียงว่าหากคุณชวนแสดงอาการรังเกียจผู้ที่คุณชวนกล่าวอ้างว่าต้องคดีต่างๆ แล้วนั้น ซึ่งคดีลหุโทษของนายกฯ คือคดีหมิ่นประมาท กับคดีของน้องชายตัวเองคือฉ้อโกงที่ต้องหลบหนีจนสิ้นอายุความนั้น อันใดที่จะสร้างความรู้สึกตะขิดตะขวงหนักใจให้กับคุณชวนในการทำงานร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันมากกว่า” นายณัฐวุฒิ กล่าว
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ประเด็นที่สมาชิก ปชป.ชี้แจงมารวมทั้งนายระลึกเองนั้นต้องทำความเข้าใจใหม่ เพราะพูดกันเหมือนว่านายระลึกถูกกระแสสังคมกดดันว่าเป็นคนโกงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งที่จริงเป็นเรื่องของข้อกฎหมายที่ชี้แล้วว่าผิดจึงต้องหนี เพราะหากมั่นใจว่าไม่ผิดและมั่นใจว่าพร้อมสู้คดีได้ในฐานะที่มีพี่ชายเป็นนักกฎหมายใหญ่อย่างคุณชวนก็จะต้องไม่หนีแล้วต้องสู้คดี รวมทั้งตนไม่อยากให้นายระลึกใช้โอกาสนี้ประกาศตัวเองว่าจะลงสนามการเมืองในการเลือกตั้งคราวหน้า
“ผมว่าดูจะเป็นการฉวยโอกาสเหมือนกับการวิ่งราวกันกลางวัน เหตุผลเพราะว่าคุณระลึกจะอ้างว่าเพราะท่านนายกรัฐมนตรีพูดถึงเรื่องนี้จึงเป็นความจำเป็นที่ตัวเองจะลงสนามการเมืองในคราวหน้า ฟังแล้วมันไม่เป็นเหตุไม่เป็นผลนะครับ ก็เปิดเผยออกมาว่าความจริงแล้วตั้งใจว่าจะลงการเมืองอยู่แล้ว แล้วพี่ชายก็ให้การสนับสนุนสังคมก็จะได้ทราบโดยพร้อมกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ต้องตั้งคำถามมีอีกว่าแล้วในระหว่างที่นายระลึกหลบหนีคดีที่นายชวนบอกว่าไม่ได้เป็นข้าราชการไม่ได้ฉ้อราษฎร์นั้น ตนถามว่าระหว่างที่น้องชายหลบหนีคดีจนขาดอายุความนั้น นายชวนได้พบเจอ ติดต่อกับน้องชายที่เป็นผู้ต้องหาหนีคดีความบ้างหรือไม่ และตลอดระยะเวลาได้หรือไม่น้องชายพักอยู่ที่ใด
“และหากทราบว่าผู้ต้องหาที่หนีคดีหลบหนีแล้วพักที่ใดแล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่ตัวเองแสดงตัวเองเป็นเจ้าหลักการมาโดยตลอด จะมีคำอธิบายต่อสังคมและกฎหมายของบ้านเมืองอย่างไร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่นายสมัครใช้สื่อของรัฐในการตอบโต้ว่า ขอให้เข้าใจตรงกันว่าตั้งแต่ต้นที่รัฐบาลทำงานอยู่ รัฐบาลและนายกฯไม่ได้มีความคิด นโยบาย หรือแนวทางที่จะไปรุกรานบุคคล หรือองค์กรหนึ่งองค์กรใดเลย เพราะกำลังตั้งใจปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้อยู่
“เพียงแต่ว่าที่ต้องชี้แจงหรือตอบโต้การกล่าวหาทางการเมืองผ่านรายการนั้นบ้าง เพราะว่าท่านเป็นผู้นำรัฐบาลครับ เมื่อท่านเป็นผู้นำรัฐบาลก็จำเป็นต้องใช้สื่อของรัฐบาลในการสร้างความเชื่อมั่น สร้างความศรัทธา ปกป้องเสถียรภาพของรัฐบาลที่มีอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของประชาชน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
รองโฆษกและอดีตแกนนำ นปก.กล่าวยกตัวอย่างว่า ก่อนยึดอำนาจเรามีรัฐบาลและผู้นำรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับว่ามีผลงานมากที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีมา และมีรัฐบาลที่อยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนมากที่สุดตั้งแต่เรามีรัฐบาลมา เพียงแต่ว่าผู้นำรัฐบาลชุดนั้นมุ่งหน้าที่จะทำงานพัฒนา แก้ปัญหา ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับการชี้แจงอธิบายประเด็นทางด้านการเมืองเท่าใดนัก จึงทำให้เวลาที่ผ่านมา ทำงานก็ทำงานไป แต่ฝ่ายโค่นล้มบ่อนทำลายก็โจมตี สร้างข้อความอันเป็นเท็จในทางการเมือง บ่อนเซาะเสถียรภาพความน่าเชื่อถือของัรฐบาลลงไป แล้วผลที่ปรากฏขึ้นคือประชาชนเขาอยู่กลางๆ แต่เขาฟังข้อมูลเดิมๆ ซ้ำๆ ทั้งที่แทบทุกเรื่องเป็นเรื่องโกหกยกเมฆ แต่ฟังซ้ำเข้า นานเข้าก็กลายเป็นความเชื่อ แล้วในที่สุดก็นำพาบ้านเมืองไปสู่การยึดอำนาจเป็นเผด็จการในที่สุด
“ดังนั้น นายกรัฐบาลชุดนี้ท่านนายกรัฐมนตรีก็ตั้งใจทำงานแก้ปัญหาพัฒนาประเทศ หากแต่จำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับการชี้แจง อธิบายทำความเข้าใจในด้านการเมืองด้วย แล้วจำเป็นที่จะต้องใช้สื่อของรัฐ และผมเรียนว่าไม่มีเลยที่นายกรัฐมนตรีจะไปรุกรานบุคคลอื่นก่อน แต่ท่านถูกรุกรานมาจากหลายทิศทาง ก็เป็นธรรมดาที่ท่านจะต้องปกป้องและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน เพราะหากนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความเข้าใจที่ถูกต้องจากประชาชนแล้ว ก็ยากที่รัฐบาลจะได้รับการยอมรับให้ปฏิบัติหน้าที่แก้ปัญหาพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาบ้านเมือง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องพร้อมกันว่าจะไม่มีการตอบโต้ พาดพิงใดๆ ในทางการเมืองเลยหากว่าทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างสร้างสรรค์ ถ้าฝ่ายค้านค้านอย่างสร้างสรรค์ เลือกประเด็นสาระประโยชน์อย่างแท้จริงของรัฐบาลมาวิพากษ์วิจารณ์ดีไม่ดีอย่างไรอธิบายอย่างเป็นหลักวิชาพร้อมข้อเสนอ ไม่ใช่ว่าหาเศษหาเลยทางการเมืองแล้วหยิบประเด็นที่ไม่เป็นสาระมาสร้างความคลางแคลงน่าสงสัย จึงเรียกร้องฝ่ายค้านถ้าทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ รัฐบาลยินดีและทำงานง่าย สงสัยตรงไหนชี้แจง และรับฟัง
“อยากเรียกร้องคุณชวนว่าถึงเวลาแล้วที่คุณชวนจะต้องวางมีดโกนเล่มนั้นเสียที คนที่ใช้มีดโกนแล้วผู้คนชื่นชอบและเป็นประโยชน์มีคนเพียงกลุ่มเดียวคือช่างตัดผมเท่านั้น แต่หากเป็นคนที่อยู่บนเวทีการเมืองแล้วใช้มีดโกนของตัวเอง ฉวัดเฉวียนคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามมาชั่วชีวิตก็ไม่แน่ว่าสังคมจะชื่นชอบและได้รับประโยชน์เท่าใดนัก” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนสบายใจว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานอยู่ ต้องชี้แจงในบางเรื่องบางประเด็นบ้าง เพราะจำเป็นที่จะต้องปกป้องมิให้เกิดชะตากรรมอย่างเช่นรัฐบาลก่อนยึดอำนาจ ที่มีผลงานมากมายแต่ทำงานต่อไม่ได้ เพราะถูกโจมตีและบ่อนทำลายทางการเมือง