“สมศักดิ์” ยังปากแข็ง ยันชาติไทยไม่หวั่นไหวมติ กกต.เสนอยุบพรรค มั่นใจมีพยานหลักฐานต่อสู้ในชั้นศาลได้ ยังหวังอัยการสูงสุดอาจไม่ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หรือขอหลักฐานเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากพรรคชาติไทย ระหว่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาคดียุบพรรคในวันนี้ (11 เม.ย.) ว่า ตลอดทั้งวันไม่มีผู้บริหาร หรือแกนนำพรรคเดินทางเข้าพรรคแต่อย่างใด ห้องต่างๆ ปิดไฟและปิดแอร์ มีเพียงเจ้าหน้าที่ รปภ.1 คน และเจ้าหน้าที่ประจำพรรคอีก 2 คน ที่อยู่ในภายพรรค แม้กระทั่งหลังจากที่ กกต.มีมติให้ส่งเรื่องถึงอัยการเพื่อเสนอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคแล้ว ก็ไม่มีแกนนำเดินทางเข้าพรรคเลย
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนก่อนว่า กกต.ไม่มีสิทธิที่จะสั่งยุบพรรคการเมืองได้ เพราะมีคนโทรศัพท์มาสอบถามที่ตนมากมาย กกต.สามารถทำได้เพียงมีมตินำผลสรุปของที่ประชุม กกต.ส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน คือ ทางอัยการต้องพิจารณาว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายในกรอบเวลา 30 วัน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า มีทางออกมีได้ 3 ทาง คือ 1.ถ้าทางอัยการมีความเห็นว่าไม่สมควรยื่นคำร้องก็ต้องตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ระหว่างตัวแทนของสำนักงานอัยการสูงสุดและนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งในกรณีนี้หากคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ยังยืนยันว่า มีความเห็นต่างกัน คือ ทางอัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ควรยื่นร้องต่อศาล แต่ทางนายทะเบียนพรรคการเมืองยืนยันว่า สมควรยื่นต่อศาล ท้ายที่สุดตัวนายทะเบียนพรรคการเมืองจะเป็นผู้ดำเนินการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง 2.ถ้าอัยการสูงสุดมีความเห็นสมควรยื่นคำร้องฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เราก็ไปว่าต่อกันที่ศาลตามกระบวนการไต่สวน และ 3.หรือถ้าทางอัยการสูงสุดมีความเห็นว่ายังขาดหลักฐาน พยาน ไม่เพียงพอ ก็สามารถที่จะขอข้อมูลหรือทำการสอบเพิ่มเติมได้ โดยทางอัยการเป็นผู้ดำเนินการเองได้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทางพรรคเองเราเคยวิเคราะห์มาแล้ว ว่าต้องออกมาแนวนี้ ขณะนี้จึงทำได้เพียงรอเวลาให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาว่าจะมีความเห็นอย่างไร เราก็ว่าไปตามขั้นตอน ยืนยันว่า สมาชิกพรรคชาติไทยไม่ระส่ำกับข่าวนี้ และไม่มีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย
“ผมยังยืนยันว่า ถ้าเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างนี้ เรามั่นใจในหลักฐาน เอกสาร พยานข้อเท็จจริงที่จะใช้ต่อสู้ในชั้นการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ จะดีกว่าในชั้นของ กกต.ที่ใช้แค่เชื่อๆ ได้ว่า” นายสมศักดิ์ กล่าว