อัยการพร้อมเดินทางเข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยพรรคพลังประชาชนเข้าข่ายถูกยุบหรือไม่ ในบ่ายวันนี้ หลังอัยการเห็นควรเสนอให้ยุบ พปช.-เพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตามที่ กกต.สรุปเรื่องให้อัยการตรวจสอบแล้ว
วันนี้ (10 ต.ค.) นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายในวันนี้อัยการจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าพรรคพลังประชาชนเข้าข่ายถูกยุบพรรคหรือไม่ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปเรื่อง และอัยการตรวจสอบแล้วเห็นควรยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ
“ผมจะไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เวลาประมาณบ่าย 2 โมง โดยความเห็นของอัยการเห็นควรเสนอให้ยุบพรรคพลังประชาชน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสำนวนคำร้องที่จะยื่นต่อศาล” นายเศกสรรค์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานรับผิดชอบคดียุบพรรคการเมือง ได้เรียกประชุมคณะทำงาน 11 คน เพื่อพิจารณาสำนวนคดียุบพรรคพลังประชาชน กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 1 และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เนื่องจากกระทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 มาตรา 53 กรณีแจกเงินให้กลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ช่วยเหลือให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชาชน โดยคดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำพิพากษาตามคำวินิจฉัยของ กกต.ให้ใบแดงนายยงยุทธ และเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี
ทางด้านแหล่งข่าวคณะทำงานอัยการ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในสำนวนคดียุบพรรคพลังประชาชน ที่เป็นมูลเหตุแห่งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีความชัดเจนอยู่แล้วตามสำนวนฟ้องและคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งซึ่ง กกต.ได้ส่งเอกสารทั้งหมดประกอบเข้ามาในสำนวนคดียุบพรรคที่มอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว แต่แม้คำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยทั้งประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายไว้โดยบรรยายถึงพฤติการณ์กระทำผิดของนายยงยุทธ เชื่อมโยงในฐานะกรรมการบริหารด้วย แต่ก็ยังมีประเด็นปลีกย่อยเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนครบถ้วนหากจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคการเมือง
ทั้งนี้ คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากเพราะพยานหลักฐานในสำนวน กกต.และข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกามีความชัดเจน ทำให้เชื่อมั่นว่าคณะทำงานอัยการจะสามารถมีความเห็นเสนอ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ภายใน 30 วันตามกฎหมาย