1 ตุลาคม อัยการเตรียมส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคชาติไทย ขณะที่พรรคพลังประชาชน เตรียมถกรอบสอง 2 ตุลาคม โดยยึดหลักคำพิพากษาเชือด “ยงยุทธ” เชื่อส่งศาลได้ทัน 10 ต.ค.นี้แน่นอน
วันนี้ (30 ก.ย.) นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะหนึ่งในคณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนคดียุบพรรคชาติไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานอัยการที่มี นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยของเอกสาร และคำร้องต่างๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนจะนำสำนวนคำร้องยุบพรรคชาติไทย ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในตอนเช้าวันที่ 1 ต.ค.นี้ ภายหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะทำงานอัยการ ได้ส่งสำนวนคดียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว
สำหรับความคืบหน้าการพิจารณาสำนวนยุบพรรคพลังประชาชน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ส่งคำร้องมายังอัยการสูงสุดนั้น นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ในวันที่ 2 ต.ค. คณะทำงานอัยการได้นัดประชุมพิจารณาคำร้องเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาครั้งแรก
ขณะที่ด้านแหล่งข่าวคณะทำงานอัยการ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงในสำนวนคดียุบพรรคพลังประชาชน ที่เป็นมูลเหตุแห่งการกระทำผิดกฎมายเลือกตั้ง มีความชัดเจนอยู่แล้วตามสำนวนฟ้องและคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งซึ่ง กกต.ได้ส่งเอกสารทั้งหมดประกอบเข้ามาในสำนวนคดียุบพรรคที่มอบให้สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว แต่แม้คำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไว้โดยบรรยายถึงพฤติการณ์กระทำผิดของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เชื่อมโยงในฐานะกรรมการบริหารด้วย แต่ก็ยังมีประเด็นปลีกย่อยเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติมให้มีความชัดเจนครบถ้วนหากจะมีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคการเมือง
แหล่งข่าวคนเดิม กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่มีความซับซ้อนยุ่งยากเพราะพยานหลักฐานในสำนวน กกต.และข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลฎีกามีความชัดเจน ทำให้เชื่อมั่นว่าคณะทำงานอัยการจะสามารถมีความเห็นเสนอ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ภายใน 30 วันตามกฎหมาย ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 10 ต.ค.นี้ และเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องให้ตั้งคณะทำงานร่วม กกต.-อัยการ เหมือนคดียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย แต่อย่างใด