นายทะเบียนพรรคการเมือง เตรียมเสนอความเห็นยุบ ชท.-มฌ.หรือไม่ พรุ่งนี้ “สดศรี” แบะท่าส่อวินิจฉัยไม่ยุบ ชี้ หากยุบถือเป็นเรื่องใหญ่ ด้านอนุสอบนอมินี ทรท.หมดท่า “แม้ว” แข็งกร้าวไม่ตอบรับจะเข้าแจงหรือไม่
วันนี้ (10 เม.ย.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงการทำความเห็นกรณีจะพิจารณายุบพรรคชาติไทย และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (10 เม.ย.) จะหารือกับฝ่ายกฎหมายของประธาน กกต.เพื่อจัดทำความเห็น คาดว่าในการประชุม กกต.วันที่ 11 เม.ย.จะได้ข้อยุติเรื่องนี้อย่างแน่นอน ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยแนวทางการทำความเห็นได้ ต้องหารือกันก่อน ถ้าเห็นว่ายุบ ก็จะส่งเข้าที่ประชุม โดยจะนำสำนวนการเพิกถอนสิทธิมาประกอบการทำความเห็นด้วยว่าพรรคมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ซึ่งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองจะสามารถชี้แจงต่อสังคมได้ หากนายทะเบียนเห็นควรยุบพรรคก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.โดยไม่จำเป็นต้องทำคำวิจฉัยกลาง แต่หากนายทะเบียนมีความเห็นไม่ยุบพรรค ก็ไม่ต้องเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม
สำหรับกรณีที่ นายไพฑูรย์ เนติโพธิ ประธานอนุกรรมการสอบสวนกรณีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยจะขอขยายเวลาออกไปอีก ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ต้องรอให้มีการเสนอที่ประชุมก่อน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้พยายามยื้อเวลา แต่จะทำให้เร็วที่สุด โดยจะดูเหตุผลของการขยายเวลาของอนุกรรมการว่ามีเหตุอันสมควรหรือไม่
ด้าน นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมือง กล่าวถึงการพิจารณาสำนวนยุบ 2 พรรค ว่า คงต้องรอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ทำความเห็นเข้ามาก่อน หากเสนอว่าไม่ควรส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อเสนอศาสรัฐธรรมนูญยุบพรรค เรื่องก็จบ ที่ประชุมก็ไม่ต้องพิจารณา และตนก็คงต้องเห็นตามนั้น เพราะต้องให้เกียรติผู้อาวุโส เชื่อว่า นายอภิชาต เป็นผู้มีประสบการณ์และทำงานศาลมากว่า 30 ปี ย่อมรู้ว่าสำนวนของทั้ง 2 พรรคนี้ สมควรยุบหรือไม่ แต่หากในที่ประชุมมี กกต.รายใดเห็นแตกต่างก็สามารถแสดงความเห็น เพื่อเป็นข้อสังเกตตามความเห็นแนบท้ายได้ ซึ่งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองถือเป็นที่สุด เพราะกฎหมายให้อำนาจไว้
“หากการประชุม กกต.ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอว่าให้ยุบ 2 พรรค ที่ประชุม กกต.ก็จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อ คาดว่า จะสามารถลงมติในวันเดียวกัน ในชั้นนี้ กกต.แต่คนอาจจะเห็นตรงหรือเห็นต่างจากประธาน กกต.ก็ได้ และยังไม่มีมติในใจ แต่ความเห็นส่วนตัวเห็นว่า แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 วรรคหนึ่งและวรรคสองจะมีคำว่า “การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งถ้าหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคผู้ใดรู้เห็นเป็นใจหรือปล่อยปละละเลยให้ถือว่าพรรคการเมืองมีส่วนเกี่ยวให้ดำเนินยุบพรรคนั้น” เรื่องนี้ต้องดูการกระทำก่อนคำว่า “ให้ถือว่า” ต้องดูพฤติกรรมและเจตนาของผู้กระทำผิดด้วย ซึ่งก่อนจะใช้กฎหมายคำว่า “ให้ถือว่า” นั้นกรรมการบริหารพรรคคนอื่นรับรู้ด้วยหรือไม่”
เมื่อถามว่า กรณีที่ผู้กระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งเป็นทั้งผู้สมัคร และกรรมการบริหารพรรคเป็นคนเดียวกัน ก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ นางสดศรี กล่าวว่า ต้องดูว่าการกระทำดังกล่าวนั้นจะต้องดูว่า กรรมการรายอื่นรู้เห็นการกระทำนั้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การวินิจฉัยครั้งนี้จะสามารถตอบคำถามของสังคมได้ เพราะต้องยอมรับว่าคำวินิจฉัยของ กกต.สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ไม่เหมือนศาลที่ไม่มีผู้เสียประโยชน์ไม่สามารถพูดได้ ถ้ากกต.ไม่ยุบพรรค ก็จะเป็นประโยชน์กับพรรคการเมือง แต่ถ้ามีคำวินิจฉัยให้ยุบก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้การที่หัวหน้าพรรคทั้งสองมาพิจารณาเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็จะเป็นข้อมูลที่ กกต.แต่ละคนจะนำมาพิจารณาด้วยเช่นกัน
ส่วนกรณีที่อนุกรรมการสอบพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เตรียมขอขยายเวลาสอบสวนเพิ่มเติม นั้น นางสดศรี กล่าวว่า การขอขยายเวลาไปก่อนหน้านี้ กกต.ก็ไม่ได้ระบุว่าให้ขอขยายเวลาเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งถ้าอนุกรรมการจะขอขยายเวลาก็ต้องแนบเหตุผลว่าเกิดปัญหาอย่างไร โดยเราจะฟังเหตุผลอีกครั้ง ทั้งนี้เบื้องต้นทราบว่าคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าวยังไม่สามารถติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถสรุปความเห็นได้ ซึ่งหากคณะอนุกรรมการเสนอเรื่องเข้ามาให้ กกต.ก็ต้องพิจารณา
ด้าน นายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มาให้ถ้อยคำ ว่า จนถึงขณะนี้ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่ตอบ ไม่แจ้ง และไม่รับหนังสือ ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ จะมีการหารือในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) อีกครั้ง และระหว่างนี้จะพยายามติดต่อ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการภายในอีกครั้ง เนื่องจากเรายังไม่ได้รับหลักฐานที่ยืนยันว่า มีการรับทราบเรื่องการเรียกตัวมาให้ถ้อยคำ เพราะหนังสือยังส่งไปไม่ถึงตัวผู้รับ หากยังไม่ได้รับคำตอบในวันพรุ่งนี้ (11 เม.ย.) ก็จะหารือว่าจะตัดสินใจปิดเรื่อง หรือจะขอเลื่อนเวลาไปหลังสงกรานต์อีก