xs
xsm
sm
md
lg

นักรัฐศาสตร์ มธ.ย้ำไม่ชอบธรรม หากแก้รัฐธรรมนูญที่ได้รับเลือกเข้ามา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ.ฉายภาพการเมืองไทย 76 ปี แห่งประชาธิปไตย ครึ่งทางหมดไปกับเผด็จการทหาร รัฐบาลล้มเหลวด้านการกระจายรายได้ คนรวยมีน้อย คนจนมีมาก เข้าหาประชาชนเพื่อซื้อเสียง ไม่เคยให้ความรู้ตามครรลอง เมื่อมีความผิดไม่เคยคิดลาออกกลับโทษอย่างอื่น ย้ำ “อย่าคิดแก้รัฐธรรมนูญเด็ดขาด” ถือว่าไม่ชอบธรรมเพราะเข้ามาด้วยฉบับนี้

คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง การอภิปราย "เหลียวหลังแลหน้าการเมืองไทย"

ระหว่างการอภิปรายเรื่อง “เหลียวหลังแลหน้าการเมืองไทย” บนเวทีสัมมนา “ยามเฝ้าแผ่นดินภาคพิเศษ” วันนี้ (28 มี.ค.) เวลา 18.45-20.15 น.ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ย้อนภาพการเมืองไทยว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 76 ที่ไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยแต่กลับมีปัญหาไม่สิ้นสุด

ทั้งนี้ ประเทศไทยที่ผ่านการปกครองในระบบประชาธิปไตยใช้เวลามากกว่าครึ่งอยู่ใต้อำนาจเผด็จการทหาร ขณะตลอดเวลาประชาชนไม่ได้รับการดูแลให้การศึกษาและอบรมเรื่องสิทธิเสรีภาพและระบบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ได้รับการอบรมเรื่องวัฒนธรรมที่ถูกต้อง

“76 ปีที่ผ่านมา การทำงานของรัฐบาลนั้น หากมองในระบบเศรษฐกิจถือว่ามีการกระจายรายได้ที่แย่มาก ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกระจายทั่วประเทศ นับเป็นความล้มเหลวที่สำคัญที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการซื้อเสียงและมีการใช้อำนาจเผด็จการ ทำให้คนจำนวนน้อยรวยมาก คนจำนวนมากยากจน คนรวยเหล่านี้ใช้เงินของเขาตั้งพรรคและซื้อเสียง ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่าการเลือกตั้งจึงไม่มีความหมาย”

ศ.ดร.สุรชัย กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้ประชาธิปไตยของไทยจึงไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเท่าเทียม พร้อมกับวัฒนธรรม “กินตามน้ำ” ส่งผลให้การพัฒนาของประเทศถดถอย

ส่วนหนทางนำไปสู่ประชาธิปไตยตามครรลองนั้น อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ.แนะว่าต้องให้ประชาชนมีความรู้ทางการเมือง ให้มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง เพราะที่ผ่านมาคนมีฐานะหรือนักการเมืองจะเข้าไปหาประชาชนก่อนการเลือกตั้งเท่านั้น มีแต่การโฆษณานโยบายต่างๆ ของรัฐบาล แทนที่จะให้ความรู้ประชาชน เสริมสร้างประชาธิปไตยผ่านระบบการศึกษา

“หลักรัฐศาสตร์สมัยใหม่ประชาชนจะเป็นประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น ต้องให้ประชาชนมีบทบาททางประชาธิปไตยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งต้องคอยตรวจเช็กนักการเมืองว่าผู้ใดทำผิดกฎหมาย ผิดรัฐธรรมนูญ แต่เท่าที่ผ่านมาเมื่อพบความผิดนักการเมืองของเราไม่เคยจะลาออกไป มักจะโยนความผิดให้คนอื่นเสมอ”

อย่างไรก็ดี อาจารย์รัฐศาสตร์ มธ.ย้ำว่า “ห้ามแก้รัฐธรรมนูญโดยเด็ดขาด” เพราะนักการเมืองชุดนี้เข้ามาด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และถ้าแก้ก็ถือว่าไม่มีความชอบธรรม ซึ่ง ศ.ดร.สุรชัย ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลชุดนี้ตัดตอนระบบศาลยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือคนบางคนหรือไม่ และต้องระมัดระวังให้เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตย

ศ.ดร.สุรชัย ทิ้งท้ายไว้ว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ประชาชนมีความรู้ด้านประชาธิปไตยอย่างดีมาก ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษที่ใช้กฎหมายแบบคอมมอนลอว์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีลายลักษณ์อักษรก็อยู่มาได้ยาวนาน ดังนั้น เราต้องพัฒนาความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นจึงจะสามารถก้าวสู่ประชาธิปไตยตามครรลองได้

ทางด้าน ผศ.ดร.สุรัตน์ โหราชัยกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าประเด็นสำคัญ คือ เราไปไว้ใจลายลักษณ์อักษรไม่ได้ อย่างกรณีซื้อเสียงที่จับได้ในรัฐบาลปัจจุบัน แทนที่จะออกมาบอกว่าจะได้ไม่มีการซื้อเสียงต่อไป กลับบอกว่าเปลี่ยนรัฐธรรมนูญดีกว่า

ส่วนกรณีโยกย้ายข้าราชการเป็นจำนวนมากของรัฐบาลชุดนี้ ที่เมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็บอกว่าที คมช.ยังย้ายข้าราชการได้ ทำไมรัฐบาลกลุ่มนี้ถึงย้ายไม่ได้ ผศ.ดร.สุรัตน์ อธิบายว่า จริงอยู่ที่การย้ายข้าราชการเป็นอำนาจของนายกฯ แต่นั่นต่อเมื่อทำงานไปสักพักหนึ่งแล้วบุคลากรไม่สนองอำนาจนโยบายจึงจะย้ายได้ แต่ที่ผ่านมามีคำถามว่าข้าราชการไม่ทำงานตรงไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น