“ภูวดล” ลากไส้ รมต.พันธุ์ถ่อย! ใช้กลลวงฟื้นหวัง “ระบอบทักษิณ” อัดซ้ำพวกเคลื่อนไหวป่วนกระแสแค่สุนัขรับใช้ ก่อนหยัน “รมต.ปากห้อย” ด่าเช้า-เย็น หวังเพียงเบี่ยงเบนประเด็น ด้าน “ไชยวัฒน์” ตอกหน้า “เหลิม” ไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ “พันธมิตรฯ” เย้ยจบถึงด็อกเตอร์แต่กลับไม่รู้ รธน.
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี คืนวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเปิดประเด็นซักถาม ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.) ถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 รวมทั้งจะมีการยุบ 3 พรรคการเมือง
โดย นายไชยวัฒน์กล่าวถึงกรณีเหมาเข่งยุบพรรคว่า เมื่อพรรคไม่เป็นนิติบุคคล บางท่านก็ต้องถูกตัดสิทธิเพื่อควบคุมพฤติกรรมไม่ให้เคยชิน ส่วนคนที่ไม่ถูกตัดสิทธิก็ไปรวมตัวกันใหม่ จดทะเบียนใหม่ ซึ่งโทษก็คือแค่ถูกตัดสิทธิ 5 ปี และไอ้ที่บอกจะตายกันก็เพราะว่าลงแดง ที่เถียงกันอยู่คือ หน้ามืดตามัวจะไปไขรัฐธรรมนูญ เพราะสำคัญผิดไปคิดว่าพรรคเป็นของตัวเอง ทั้งๆ ที่เป็นคณะบุคคลที่รวมกันสร้างเจตนารมณ์เพื่อประชาชน ดังนั้น วันนี้ถ้าเราตระหนักถึงว่าเขาเขียนกันอย่างไร ก็จะรู้ว่าการยุบพรรคเป็นเรื่องธรรมดา
“เขาจะยุบพรรค แต่คุณกลับไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้ยุบพรรค ประชาชนใครเขาจะไปรับคุณได้ แสดงว่าพรรคคุณนั้นเนื้อหาไม่มี ที่สำคัญวันนี้ชาวบ้านกำลังติดหล่มเรื่องข้าวยากหมากแพง คือ หมู 98 บาทนั้น เป็นเพียงเศษหมู กับข้าวจานหนึ่งจาก 25 บาท เป็น 40 บาท ประชาชนก็เลยไม่กินข้าวนอกบ้าน ซึ่งพอเปิดทีวีดูก็เจอรัฐมนตรี” นายไชยวัฒน์ กล่าว
นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนห่วงรัฐมนตรีมหาดไทย เพราะมีแต่ประเด็นการเมือง วันดีคืนดีรัฐมนตรีมหาดไทยก็มาใส่ตนว่าป่วนเมือง แล้วตนจะมาป่วนอะไร ดังนั้นการที่จบด็อกเตอร์แล้วจะไปแก้รัฐธรรมนูญ ให้ไปดูมาตรา 87 จะไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมได้อย่างไร และการที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติจัดกิจกรรม เขาทำตามมาตรา 87 ซึ่งคนที่เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์ด้วยคำหยาบคายอย่างนี้ ฉะนั้นไม่ต้องมาพูดท้าใคร เพราะถ้าอ่านรัฐธรรมนูญจะไม่ออกมาพูดเช่นนี้
ส่วนจุดอ่อนของระบอบประชาธิปไตยนั้น นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า เกิดจากเวทีเลือกตั้งที่ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม ซึ่งที่ตนแพ้การเลือกตั้งเพราะถูกแจกใบเหลือง ถ้าไม่เช่นนั้นตนก็เป็น ส.ส.ไปแล้ว ส่วนมาตรา 237 ที่พูดกันมากๆ ซึ่งสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือ เรื่องการแจกซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเข้าข่ายผิดมาตรา 53 อนุฯ 1 กับ อนุฯ 5 โดยหลอกลวง หรือจูงใจให้ประชาชนเข้าใจผิดในคะแนนนิยม ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในทำนองว่าถ้าเลือกพรรคพลังประชาชนแล้ว จะสามารถกลับประเทศได้ ทั้งๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศเมื่อใดก็ได้ ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ถ้าพรรคพลังประชาชนหลุดคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ก็จะมาเจอคดีแจกซีดี พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหนีไม่พ้น โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ด้าน ดร.ภูวดล กล่าวว่า ก่อนที่สังคมไทยจะถูกนักการเมืองพันธุ์ถ่อยพาไปลงเหว เราต้องมองย้อนกลับไปเพียงสั้นๆ พอ ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 นั้น ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ปัญหาอยู่ที่การเมืองโดยกลุ่มระบอบทักษิณ ที่พยายามทำให้มันพัง ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจริงๆ แล้วรัฐบาลนี้ก็คือรัฐบาลนอมินีของระบอบทักษิณ ดังนั้นปัญหาก็คือ ขณะนี้การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กำลังดำเนินการอยู่ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ก่อนและหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับประเทศ เหตุผลก็เพื่อจะนำระบอบทักษิณกลับคืนมาให้ได้ ซึ่งกระบวนการที่กำลังเคลื่อนไหวโดยสุนัขรับใช้ทางการเมืองเหล่านี้ จริงแล้วก็คือต้องการให้ระบอบทักษิณกลับคืนมา
“ส่วนการเคลื่อนไหวอื่นๆ เป็นแค่กลลวงเท่านั้น โดยเฉพาะเขาพยายามอ้างเหตุผลความชอบธรรมเรื่องการเลือกตั้ง โดยไม่ยอมดูผลของการทำประชามติของประชาชน 14 ล้านเสียง คือ ผู้ที่กุมอำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้ กำลังสร้างตรรกะผ่านทางสื่อของรัฐ ทำการขับเคลื่อน มอมเมาประชาชนอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งวันนี้ชาวบ้านกำลังจะอดตายเพราะข้าวของราคาแพงขึ้น ซึ่งเงินเฟ้อที่เกิดจากรัฐบาลชุดนี้สูงถึงร้อยละ 5 กว่าๆ นั้น ชาวบ้านอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะถ้าคุณมีรายได้ 100 บาทก็จะเหลือเพียง 94 บาทกว่าๆ เท่านั้น แล้วคุณก็เบี่ยงเบนประเด็นด้วยการให้รัฐมนตรีปากห้อยมาด่าประชาชนเช้าเย็น เพื่อให้ชาวบ้านลืมความเจ็บปวด” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า ตนไม่เคยให้ความสำคัญกับรัฐมนตรีมหาดไทยคนนี้เลย เพราะวาจา กิริยาสามหาว มีปมด้อยทางภูมิปัญญาทั้งสิ้น ที่สำคัญคือนับวันยิ่งขยะแขยงรัฐมนตรีพันธุ์เหล่านี้มาก ก็คงดูกันไปว่าชาติบ้านเมืองจะไปรอดหรือไม่ ถ้ามีรัฐมนตรีพันธุ์เฮงซวยอย่างนี้ ซึ่งไม่มีราคา และรองเท้าคนละเบอร์กัน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำกันไป แต่อย่าไประรานชาวบ้าน วาจาโอหังสามหาว ทั้งๆ ที่เป็นถึงรัฐมนตรี ควรที่จะมีภาวะผู้นำ โดยให้เกียรติประชาชนในประเทศนี้บ้าง
“ประเด็นวันนี้คือ อยากบอกรัฐบาลว่าอย่าหลอกชาวบ้านอีกเลย และอย่าสร้างกระแสให้ประชาชนเกรงกลัว คุณเล่นอะไรของคุณ รัฐมนตรีคนนี้เจอกับผมได้ทุกเวที แต่คงไม่ลดตัวลงไปเล่นการเมืองต่ำๆ แบบนี้ เราอย่าลืมว่าถ้าการเมืองยังเป็นอยู่อย่างนี้ ประเทศนี้จะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมการเมืองชั่วช้า และประเทศนี้จะไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป ก่อนหน้านี้พอรัฐธรรมนูญประกาศให้มีการเลือกตั้ง ก็มีการหลอกลวงประชาชนกันแล้ว อย่าลืมว่าวันนี้คอมพิวเตอร์สามารถบันทึกอะไรได้มากมาย ดังนั้นจึงไม่มีทางหลอกชาวบ้านได้อีกต่อไป”
ส่วนกรณีที่จะมีการยุบ 3 พรรคการเมือง แล้วประเทศไทยจะอยู่ได้หรือไม่นั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า ต่อให้ยุบสัก 30 พรรค ประเทศนี้ก็อยู่ได้ เพราะนักการเมืองพันธุ์ชั่วจะได้ค่อยๆ หมดไป โดยถูกชักโครกให้หมดไปจากประเทศ”