“หมัก” หักดิบค้านแก้ ม.309 - ตบหน้า “เหลิม” ไม่ปรับ ครม.

“สมัคร” หักหน้ารัฐบาลยันไม่เห็นด้วยแก้รัฐธรรมนูญ ม.309 ชี้ทำให้ขายขี้หน้า ปัดวุ่นหนีบ ผบ.ทบ.ไปต่างประเทศเพราะกลัวโดนปฏิวัติ ก่อนปฏิเสธปรับ ครม.ตบหน้า “เหลิม” หลังขอเปลี่ยนตัว มท.3

คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียง สมัคร สุนทรเวช

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 16.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางกลับถึงประเทศไทยจากการเยือนประเทศอินโดนิเซีย พร้อมแถลงถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า เรื่องอย่างนี้ขอพูดให้ชัดเจน แต่ฟังแล้วมันน่าเบื่อหน่ายจริงๆ กระแนะกระแหนะ คำก็เห็นแก่ตัว สองคำก็เห็นแก่ตัว เห็นแก่พรรค ดูในพรรคสิว่าตนก็ทำงานทำการ ไม่ได้ประชุมกับเขาด้วย เขาบอกว่าจะแก้มาตราด 309 แต่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่าไม่เห็นด้วย

“ผมกลับมา ผมไม่ได้ประชุม แต่ผมบอกว่าผมไม่เห็นด้วย แล้วผมก็จะพูดกับในพรรค เขาเขียนไปแก้ 309 แล้วมันจะทำอะไรได้ มันจะย้อนหลังได้ไหม เขาก็หัวเราะเยาะเอากันตาย บอกกันจะเอาแค่ 237 ผมจะบอกให้ฟัง แก้ให้มันได้ใช้ตอนนี้แหละครับ แต่ถ้าไม่ถือโอกาสว่าไอ้ความร้ายกาจทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน จะเสียหายนั้น ถ้าไม่ฉวยโอกาสทำเสียตรงนี้ โธ่ กระแนะกระแหน ผมก็บอกว่าไอ้สมัครมันชอบใช้ดัดจริต ดัดจริตกันจริงๆ มันเหมือนกับมองไม่เห็นความร้ายกาจของรัฐธรรมนูญฉบับนี้” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวอีกว่า ตนย้ำให้ฟังอีกทีว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ตอนเขียน เขาก็บอกว่าเขาต้องการให้รัฐบาลมันอ่อนแอในอนาคต เขาพูดไว้ชัดเจน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถ้าคนไม่มีอะไรอื่น ต้องบอกว่าเขียนด้วยความเกลียดชังนายกฯ คนที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอาไอ้ความเกลียดชังมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่อับอายด้วย

“หัวหน้าพรรคการเมืองบางพรรค โอ้โห ทำเหมือนกับว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น มันใช้ได้ยังไงครับ เขียนรัฐธรรมนูญแบบนี้ เขียนให้เสียหาย เขาเลือกตั้งกันดีดี ทำให้มันเลือกตั้งยุ่งยาก เขาจะมาแทน จะเลือกว่ามีพรรคไม่มีพรรค ดันขยับเป็น 76 กับ 74 คนมีความคิดเขาไม่ทำอย่างนี้ครับ นี่ผมวิพากษ์วิจารณ์ให้ฟังเลย พรุ่งนี้พาดหัวเลยสมัคร ฉะเรืองรัฐธรรมนูญอีก แน่นอนครับ มีคนบอกว่าจะไปพูดถึงเขาทำไม ตั้งหน้าตั้งตาทำงานไป ตนบอกว่าไม่ได้หรอก งานผมผมก็ทำ แต่มีโอกาสอย่างนี้ ผมต้องบอก เพราะผมต้องบอกว่าผมทำอย่างอื่นด้วย” นายสมัคร ระบุ

นายสมัคร ยังกล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ที่ตนเองหนีบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ร่วมเดินทางไปเยือนต่างประเทศด้วยทุกครั้ง เพราะกลัวการปฏิวัติ ว่า สาเหตุที่ต้องเอา ผบ.ทบ.ไปด้วย เพราะเวลาเดินทางไปต่างประเทศ จะต้องมีการพบปะกับผู้บัญชาการทหารของแต่ละประเทศ ซึ่งตนในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ค่อยรู้เรื่องทหารเท่าไรนัก ผบ.ทบ.ก็มาช่วยให้ทำงานเจรจาความต่างๆ ได้เรียบร้อย โดยเฉพาะที่ประเทศลาว และพม่า ที่มีการเจรจากันถึงเรื่องการปักปันเขตแดน อีกทั้งประเทศสิงค์โปร และอินโดนีเซีย ที่ต้องพบกับผู้นำเหล่าทัพของประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตามในการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในเร็วๆ นี้ ทาง ผบ.ทบ.จะไม่ร่วมเดินทางไปด้วย ก็โปรดอย่างเข้าใจอย่างโน้น อย่างนี้

นายสมัคร ยังกล่าวตำหนิการเขียนการ์ตูนล้อเลียนตนเองโดยทำหน้าเป็นหมู ตัวเป็นแมว หมา ชะเง้อให้ช่วยดูว่าตัวอะไร ต้องมีวิธีป้องกันการเหลิงอำนาจ การหลงอำนาจ ภายใต้บทความชื่อ “วิธีการฝึกการหลงอำนาจ” ว่า จะบอกให้ฟัง นี่เป็นความในใจของตนแท้ๆ ใครจะลงข่าวไม่ลงก็ตาม ตนไม่ได้บ้าบอคอแตกอะไรขนาดนั้น การที่บอกว่าตนเป็นคนต้นทุนต่ำนั้น แสดงให้เห็นว่า ตนไปวันไหนก็ได้ แต่เขาบอกอย่าพูด บ้านเมืองกว่าจะกระโดกกระเดกมาถึงวันนี้แทบตาย ฉะนั้นไม่ให้พูดเรื่องนี้ และตนไม่ได้หลงใหลใฝ่ฝันอะไรทั้งสิ้น ที่ทำมาทั้งหมดมันกำไรทั้งนั้น ไม่ได้ต้องลงทุนอะไรเลย เป็นกำไรในชีวิตที่มาทำงานให้บ้านเมือง

“ใครเขียนบทความกระแนะกระแหนว่าทำเพื่อป้องกันตนเองนั้น ไม่ใช่ ยังยืนยันว่าที่ผมพูดนั้น ฆ่าพรรค 3 พรรค ยืนยันตามนั้นจริงๆ ต้องเข้าใจคำอุปมา อุปไม มันต้องตั้งแถวใหม่ ตั้งต้นใหม่ มันปั่นป่วน เสียหายทั้งหมด เขียนกันจริงทำนองว่า ทำเพื่อตัวเอง คนเขียนบทความแต่ละคนคิดอย่างเดียวกันหมด เป็นพวกคิดแบบหนังสือพิมพ์ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย แต่คิดถึงบ้านเมือง ทนทุกข์ทรมานเดินทาง อดหลับอดนอน ตื่นตี 4 ตี 5 เดินทางอยู่นี่ หลายประเทศ เบื่อหน่ายมั้ย ไม่พูด แต่ผมต้องทำหน้าที่ เพราะยิ่งไปยิ่งได้เห็น เรามีเพื่อนดี ได้รู้ว่า10 ประเทศทำไมเขาจับกลุ่มกัน ไม่ไปสัมผัสไม่รู้” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้อ่านหนังสือพิมพ์แล้วรำคาญใจจริงๆ ที่ว่าตนเหลิงอำนาจ อยากอำนาจ บ้าอำนาจ อยากทำรัฐตำรวจ จะทำโน่นทำนี่ พุทโธ่ ทาง ผบ.ทบ.ก็สมคบคิดกัน ใช้คำว่าหนีบไป ไอ้คำนี้มันแสลงใจจริงๆ โตๆ ด้วยกันขนาดนี้แล้ว ท่านเดินเอามือไว้ข้างหน้า ตนบอกให้เอามือไว้ข้างหลัง โตๆ ด้วยกัน อายุห่างกันรอบหนึ่ง แต่ถือว่าเขาช่วยงานส่วนโน้น ตนทำงานส่วนนี้ ท่านไม่ทำการเมือง ตนทำการเมือง ไปแล้วได้สัมผัสกัน ผบ.ทบ.ไม่ชอบไปตลาด แต่ตนชอบ ท่านก็บอกว่าชีวิตมีความสุขเล็กน้อยตอนไปเดินตลาดกับตน ได้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ที่เดินตลาดเพราะต้องการราคาค้าขาย คณะก็ไปกับตนด้วย จะได้ฟังและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องอย่างนี้ขอพูดให้ชัดเจน แต่คงไม่ห้ามหรอก จะเขียนก็เขียนไป แต่ฟังแล้วมันน่าเบื่อหน่ายจริงๆ กระแนะกระแหน คำก็เห็นแก่ตัว สองคำก็เห็นแก่ตัว

“ผมไม่ได้เหลิงไหลในอำนาจ ไปนู่นไปนี่ไปไหน กลัวจะถูกปฏิวัติต้องหอบ ผบ.ทบ.ไปด้วย ไม่หรอกครับ เข้าใจกันเรียบร้อยดี บ้านเมือง รัฐบาลกับทหารเข้าใจกันดี มันก็อยู่กันมีความสุข ทุกฝ่ายได้มีความสุข แต่บรรดาสื่อสารมวลชนเท่านั้นที่เห็นเป็นเรื่องน่าเกลียดน่าชัง ทำอะไรก็ไม่รู้ คำว่าหนีบไปด้วย ทีหลังเลิกพูดเสียทีเถอะ เพราะว่ามีเหตุผลที่จะต้องไป คนนั้นไป คนนี้ไป คนนี้ไปเซ็น ผมไม่ได้คิดว่าผมจะพูดอย่างนี้ แต่ว่าตนต้องพูด ถ้าไม่งั้นกลับใครๆ ก็อบรม ใครๆ ก็ว่ากล่าว ไปพูดถึงเขาทำไม” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวต่อว่า มันพังเพราะไม่พูดนี่แหละครับ พังเพราะเอาแต่ว่ากันไปว่ากันมา ตนไม่ยอมให้ใครมาด่าตนเปล่าๆ ว่าทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีแล้วประโยชน์ของตน ที่มีเสียงวิจารณ์ที่มีการมองว่าตนเป็นนายกฯ ที่มีต้นทุนต่ำนั้น ตนมีแต่กำไรทั้งนั้นที่อยู่ขึ้นมา แต่ทั้งนี้ตำแหน่งนายกฯ มันไม่ได้ใหญ่โต ไม่ได้เห่อเหิม และก็ไม่มีคนคิดจะเป็น แต่อยากจะบอกท่านทั้งหลายว่า ตนเป็นแล้วคิดว่าทำงานได้ แล้วไม่ได้อวดหรอก มีคนบอกว่าตนทำงานได้ดีกว่านายกฯ ที่ผ่านๆมา ไม่ต้องบอกว่าใครเขาพูด แต่เขาบอกว่าเขาดีใจที่ตนได้ทำมาทำหน้าที่นี้ ก็บอกว่าขอบคุณ แล้วไม่ได้บอกว่าตนสนุกกับงานที่ทำ แต่ว่าตนทำได้ แต่บางอย่างทำไม่ได้ จึงจะต้องมีสารคดีเรื่องทุกข์ของนายกฯ หน้าใหม่ วันอาทิตย์นี้จะปรับทุกข์ให้ฟังว่าเป็นยังไง

นายสมัคร ยังกล่าวย้ำถึงประสิทธิภาพการทำงานของตัวเองว่า ตนไม่ใช่คนเก่ง หรือคนวิเศษมาจากไหน แต่ในโลกนี้ ถ้างานที่เราสั่งสมมาตลอดชีวิต ปลายชีวิตจะเลิกแล้วยังอุตส่าห์ได้ทำงานนี้ ซึ่งคนที่เดินทางไปกับตนด้วย จะรู้เลยว่าจะต้องทำอะไรยังไง จะต้องคิดทันทีทันควันยังไง ต้องพูดที่ไม่ใช่ภาษาของเรา ต้องพูดผ่านลาม ต้องอ่านจิตใจคนที่เป็นคู่สนทนาของเรา

เมื่อถามว่า วิตกกังวลกรณีต่อคดีของกรรมการบริหารพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยที่เชื่อมโยงถึงการยุบพรรคในคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ห่วงหรอก แต่เป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงต้องการรัฐธรรมนูญ เราทำเพื่อวันข้างหน้าทั้งนั้น พวกตนไม่มีปัญหาหรอก ไม่ต้องคิดถึงจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน แล้วจะแก้ประเด็นอื่นด้วย เช่น การเลือกตั้งก่อนหน้าที่เขาทำไว้ คือ เขตเดียวเบอร์เดียวดีอยู่แล้ว ใช้มา 10 ปี ดันทำกลับไปอย่างเก่า ถามหน่อยว่ามีความคิดไหมที่ทำแบบนี้ให้มันยุ่งยาก ให้มันปั่นป่วน

“400 เขตเรียบร้อยดี 100 คน ดันเอาไปทำเป็น 157 เขต บวกไปบวกมาได้ 480 คน จะ 500 ก็ไม่ 500 อย่างนี้คนคิดธรรมดาเขาทำได้ไหม อย่างนี้คือคนคิดผิดธรรมดา มันกระโดกกระเดกไหม ประหลาดไหม เมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ เลือกได้คนเดียว เล็กอย่างระนองก็เลือกคนเดียว เห็นไหมคนมีความคิดเขาทำไหม มันอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทั้งนั้น พอจะแก้รัฐธรรมนูญก็มาอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วทำไมตอนร่างบอกว่าแก้ง่าย เมื่อก่อนบอกถ้าไม่พอใจก็แก้ได้ ยังบอกอีก แล้วมาเลือกตั้งทำไม แล้วคนที่พูดอยู่ไอ้หน้าแหลมฟันดำหายใจทำไม อากาศไม่ดีมีควัน คนทางเหนือก็ต้องหายใจ เชียงใหม่ควันเยอะแยะแล้วไปอยู่ทำไม อ้าวก็มันต้องอยู่ ก็เหมือนกันเลือกตั้งทำไม ก็ผมนักการเมืองก็ต้องลงเลือกตั้ง” นายสมัคร กล่าว

ส่วนเหตุผลที่ไม่แก้มาตรา 309 นั้น นายสมัคร กล่าวว่า ให้เขาด่าทำไม มาตรา 309 เขาป้องกันพวกปฏิวัติ ก็เขาจบเรื่องไปแล้ว ไปทำไป แก้มันทำไม แก้แล้วมันย้อนหลังได้ไหม พูดขึ้นมาเขาก็หัวเราะ แล้วไปแก้ย้อนหลัง แก้ทำไม กกต.เขาก็หัวเราะคนเสนอแก้ เมื่อถามว่า ถ้าแก้ไข จะเป็นผลเสียต่อรัฐบาล และพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า มันเชย ขายหน้าเขา ไปแก้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อเราเลย เมื่อถามอีกว่า จะไปคุยกับคนในพรรคหรือไม่ เพราะมีบางคนต้องการให้แก้ นายสมัคร กล่าวว่า เขาพูดภาษาไทยเหมือนกับตน ไม่เป็นไรหรอก เป็นคนเหมือนกัน คงพูดกันเข้าใจ

“การประชุมพรรคที่ผ่านมา สมาชิกก็ไม่กล้าว่าผม ผมก็ไม่กล้าว่า ก็ไม่เป็นไร ต่างคนต่างคิด แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังบอกเลยว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 309 ผมก็บอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ทำไงได้ เขาประชุมกันไปแล้ว ออกความเห็นแล้ว เราก็ไม่ว่าอะไรเขา แต่ต้องค่อยๆ พูดกัน เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะแก้ มันต้องไปจัดการรวบหัวรวบหางอะไรกันอีก” นายสมัคร กล่าว

ส่วนกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ประกาศไม่จัดชุมนุมชนกลุ่มพันธมิตรฯ รู้สึกโล่งใจหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งเลย ถ้าเจอนายประชา ตนฝากขอบคุณด้วย เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ต้องการให้มีเปลี่ยนตำแหน่ง มท.3 เป็น นพ.แวมาฮาดี แวดาโอะ เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสมัคร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ เมื่อถามต่อว่า ถึงเวลาที่จะต้องปรับ ครม.หรือยัง นายสมัคร กล่าวว่า ยังหรอก ร.ต.อ.เฉลิมต้องมาพูดกับตนก่อน อะไร ยังทำงานไม่ครบ 2 เดือนก็จะปรับ ครม.แล้ว