“พลังแม้ว” เริ่มรวนคุมกันไม่ติด ต่างคนต่างคิด พูดกันคนละทาง ล่าสุด กลุ่ม ส.ส.เลือดใหม่ค้านลุกลี้ลุกลนแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ถูกมองทำเพื่อตัวเอง เตือนให้เร่งแก้ปัญหาปากทอ้งชาวบ้านดีกว่า ชี้ คดียุบพรรคยังอีกไกล อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ พร้อมหนุนให้ “แม้ว” กลับมาสู้คดี
วันนี้ (27 มี.ค.) นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมพรรคเมื่อวันอังคารที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า มีเสียงเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งต้องการให้มีการแก้ไข และอีกส่วนไม่ต้องการให้แก้ไข โดยจากการหารือกันระหว่าง ส.ส.อีสาน ในพรรคพลังประชาชน มีประมาณ 51 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.หน้าใหม่ เห็นว่า ไม่ควรเร่งรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อว่าจะยังไม่มีการยุบพรรคในเวลานี้ แต่ควรพิจารณาหาเหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรค คือ กรณีคดีที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ศาลรับคำร้องให้ใบแดงของ กกต.
นายปัญญา กล่าวว่า ส.ส.หน้าใหม่ของพรรค ยังเสนอว่า ทีมกฎหมายของพรรคควรช่วยกันดูแล อย่าเพิ่งวิตกกับการพิจารณาในชั้นศาลว่าจะไม่มีความยุติธรรม การพิจารณาอาจไม่ถึงขั้นยุบพรรคก็ได้ ต้องดูว่า กกต.จะเอาอะไรมาเล่นงานหาทางยุบพรรคอีก ซึ่งยังใช้ระยะเวลาอีกนานกว่าจะมีการพิจารณายุบพรรค รวมทั้งจะต้องรอดูผลคดียุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมา ด้วย
ส.ส.ขอนแก่นผู้นี้ ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะยังพอใจที่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาต่อสู้คดีและแก้ข้อกล่าวหา รวมทั้งยังพอใจการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล แม้นายกรัฐมนตรีจะบอกว่าเป็นรัฐบาลขี้เหร่ แต่ทุกคนก็ให้โอกาสในการทำงาน วันนี้ราคาข้าวเปลือกก็ดีขึ้น ถูกใจชาวบ้าน และยังมีการอัดฉีดงบเอสเอ็มแอลลงไปอีก จึงไม่อยากให้เร่งรีบแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเหตุยังไม่เกิด โดยเฉพาะคดียุบพรรคหากเกิดจริง ส.ส.ก็ยังอยู่ แต่ต้องหาพรรคสังกัดใหม่
“คนที่เคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่อยู่ในกรรมการบริหารพรรค เราไม่อยากให้วิตกเกินไป เพราะมีมติให้ไปศึกษาว่าจะแก้ไขมาตราใดบ้าง ยังไม่ใช่มติให้แก้ไข ซึ่งวันนี้ถูกมองว่าฝ่ายการเมืองแก้เพื่อตัวเอง หนียุบพรรค ดังนั้น หากจะทำอะไรก็ต้องตอบประชาชน ควรสนใจต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและปัญหาปากท้องของประชาชนมากกว่า” นายปัญญา กล่าว
/0110
