xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมสื่อจ้องขย้ำ “เพ็ญ” สะบัดสะบิ้งแทรกแซงสื่อขัด รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สภาการหนังสือพิมพ์ฯ หนุน 2 สมาคมวิชาชีพสื่อ ปราม “จักรภพ” แสดงอำนาจบาตรใหญ่ เข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญแทรกแซงการทำหน้าที่สื่อ

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมัยที่ 5 ครั้งที่ 3/2551 ประจำเดือนมีนาคม โดยมี นายสุวัฒน์ ทองธนากุล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เป็นประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมปกติ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เสนอให้ที่ประชุมหยิบยกกรณีการดำเนินการของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพและการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาหารือเป็นวาระพิเศษ

จากนั้น นายประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ อุปนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ นายศุภชัย กฤตผลชัย อุปนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมกรรมการบริหารทั้ง 2 สมาคม ได้รายงานที่ประชุมว่า ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ คณะกรรมการของ 2 สมาคมวิชาชีพสื่อมวลชนได้ประชุมด่วนเพื่อร่วมกันพิจารณา กรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงพฤติกรรมข่มขู่คาดโทษ และสั่งตั้งกรรมการสอบกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และสั่งการให้ยึดคลื่นวิทยุ 5 สถานี ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์คืนจากภาคเอกชน ที่รับสัมปทานนั้น อาจเข้าข่ายการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และส่อเจตนาถึงการคุกคาม แทรกแซง และครอบงำการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ

ผู้แทนสมาคมวิชาชีพสื่อ กล่าวด้วยว่า แม้ว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานด้านประชาสัมพันธ์ของรัฐ แต่ก็มีขอบเขตอำนาจหน้าที่เพียงการกำกับดูแลเชิงนโยบายในภาพรวม ส่วนการดำเนินการในรายละเอียดเป็นอำนาจหน้าที่ของข้าราชการประจำ หรือหน่วยงานผู้ปฏิบัติที่จะรับนโยบายไปดำเนินการ อีกทั้งในกรณีของ บมจ.อสมท นั้น เป็นกิจการในตลาดหลักทรัพย์ มีคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้กำกับดูแลการบริหารให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมใหญ่ การที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสั่งการให้กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.อสมท พิจารณาตัวเอง หรือสั่งล่วงหน้าให้คณะกรรมการบริษัท เปลี่ยนแปลงตัวผู้อำนวยการใหญ่ เป็นการเข้าแทรกแซงก้าวก่ายให้พนักงาน หรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจพ้นจากตำแหน่งทั้งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งให้กรมประชาสัมพันธ์ ยึดคลื่นสถานีวิทยุมาบริหารเอง และเรียกบริษัทเอกชนที่เช่าคลื่นมาพบด้วยตนเองนั้น น่าจะเป็นการใช้สถานะความเป็นรัฐมนตรีก้าวก่าย หรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการประจำ อันเป็นการกระทำต้องห้ามตามมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญด้วยเช่นกัน ซึ่งพฤติกรรมที่เข้าข่ายการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญนี้ อาจทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามมาตรา 182 วรรค 7 ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติโดยสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สามารถดำเนินการยื่นเรื่องต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่งได้

ที่ประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง จากนั้นมีมติสนับสนุนการดำเนินการของทั้ง 2 สมาคมวิชาชีพสื่อ ในการดำเนินการใดๆ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น