คณะกรรมการสรรหาบอร์ด “ไทยพีบีเอส” ยืนยันกระบวนการสรรหาโปร่งใส ไร้การเมืองแทรก ตอก “จักรภพ” เล่นคำ อ้าง “เอ็นบีที” เกิดยุคประชาธิปไตย เหน็บแนมไทยพีบีเอสไม่ชอบธรรม เชื่อช่อง 11 โฉมใหม่เป็นกลางได้ยาก เหตุยังรับงบประมาณจากรัฐ ชี้อยากมีทีวีเป็นเครื่องมือของตัวเองมากกว่า
คลิกที่นี่ เพื่อฟังคณะกรรมการสรรหาไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก
การสรรหาคณะกรรมการบริหารทีวีสาธารณะ (ไทยพีบีเอส) กำลังเป็นที่จับตามองว่าจะถูกการเมืองแทรกแซงหรือไม่ รวมถึงนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กำลังปรับเปลี่ยนช่อง 11 ให้เป็นสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ โดยจะเริ่มออกอากาศวันแรกในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะส่งผลกระทบอย่างไร
ต่อกรณีดังกล่าว นายสุวัฒน์ ทองธนากุล หนึ่งในประธานกรรมการสรรหาคณะกรรมการบริหาร ไทยพีบีเอส และประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ กล่าวในรายการ “คม-ชัด-ลึก” ทางเนชั่นแชนแนล เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.ว่า การสรรหาคณะกรรมการฯ ประเด็นแรกที่จะมอง ก็คือดูวิสัยทัศน์ว่า มีความคิดเห็นตรงกับแนวคิดของสถานีหรือไม่ รวมไปถึง ประวัติ และผลงานที่ประจักษ์ต่อสังคม ซึ่งการสรรหานั้นจะทำด้วยความโปร่งใสที่สุด และที่สำคัญจะไม่คัดเลือกคนที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง หรือเป็นคนของกลุ่มการเมืองใด มาเป็นคณะกรรมการอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายจักภพ ประกาศว่าจะปรับสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 ให้เป็นสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ โดยอ้างว่า สถานีเอ็นบีทีเกิดขึ้นในยุคประชาธิปไตย ส่วนไทยพีบีเอส เกิดในช่วงเผด็จการนั้น นายสุวัฒน์กล่าวว่า หากเป็นคำพูดจริงๆ มันก็ถูกเพราะตามเวลาแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง แต่ตนคิดว่าคำพูดดังกล่าวเป็นการเล่นคำ นายจักรภพ พยายามพูดเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าสถานีไทยพีบีเอส เกิดมาอย่างไม่ชอบธรรม ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่ ต้องดูที่เจตนารมณ์การก่อตั้งมากกว่า
ด้าน ผศ.ดร. วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.สำนักรณรงค์สื่อสาธารณเพื่อสังคม (สสส.) หนึ่งในคณะกรรมการสรรหาฯ กล่าวว่า การที่นายจักรภพประกาศว่า เอ็นบีทีจะไม่เป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลนั้น โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากด้วยงบประมาณแล้ว เอ็นบีทีจะได้รับงบประมาณจากรัฐบาล การวิพากษ์วิจารณ์จึงไม่น่าจะทำได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ผิดที่ที่คิดปรับปรุงให้เป็นเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีด้วยซ้ำ หากทำได้จริง มีความเป็นกลางจริง เพราะเชื่อว่าประชาชนก็คงไม่อยากเห็นสื่อที่เอียงข้าง เสนอเรื่องดีๆ ของรัฐฝ่ายเดียว
ต่อกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า ตนพร้อมที่จะไปออกรายการ “ตัวจริงชัดเจน” ทางช่อง 11 ในวันที่ 1 เมษายน ให้ช่อง 11 เป็นหนึ่งในช่องทางที่จะตรวจสอบได้ตลอด เพื่อเป็นการบ่งบอกได้ถึงเอ็นบีทีสามารถเป็นสื่อของรัฐบาลได้ นางสารี อ๋องสมหวัง อีกหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาฯ กล่าวว่า หากจริงอย่างที่นายสมัครบอกก็ดี ประชาชนก็ได้ประโยชน์ในการที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ แต่สิ่งที่เราเห็นขณะนี้มันอาจจะไม่ใช่ เพราะรัฐบาลกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกเล่นงาน จึงอยากมีเครื่องมือของตัวเองหรือเปล่า ซึ่ง เอ็นบีที ก็ต้องตอบคำถามนี้ให้ได้ เช่น คุณกล้าจัดรายการเรื่องทบทวนสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (ซีแอล) หรือไม่ หรือแม้กระทั่งท่าทีของรัฐบาลในเรื่องของการยุบพรรคจะกล้าจัดหรือไม่ ดังนั้นตนจึงอยากให้ประชาชนเฝ้ามองว่าแท้ที่จริงแล้ว เอ็นบีที ใหม่ที่เกิดขึ้นจากช่อง 11 เดิมกำลังจะทำอะไรกันแน่
