กทม.เดินหน้าแก้ปัญหา “ชายฝั่งบางขุนเทียน” ตามบริษัทที่ปรึกษาแนะ-ไม่สนนักวิชาการท้วง

กทม.แจงบริษัทที่ปรึกษาสรุป แก้ปัญหา “ชายฝั่งบางขุนเทียน” วางทุ่นกระสอบทรายเหมาะสุดเลยทำตาม ด้านนักวิชาการท้วง ทำไปก็เสียเงินเปล่า เพราะแก้ไขปัญหาได้แค่ระยะสั้น

จากกรณีปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งบางขุนเทียน ที่สั่งสมมานาน จนล่าสุดเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทาง กทม.เตรียมทำโครงการแก้ไขดังกล่าวแล้ว โดยการสร้างทีกรอยน์ (T-Groin) หรือทุ่นกระสอบทราย ลักษณะไส้กรอก นำมาวางเป็นรูปตัวที จำนวน 10 อัน ขนานบริเวณชายฝั่งพื้นที่ 5 กิโลเมตร โดยการดังกล่าวอยู่ระหว่างการของบประมาณจากสภา กทม.จำนวน 316 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างเฟดแรกได้ภายใน 4 เดือน และก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 2 ปี

ล่าสุด วานนี้ (22 มี.ค.) รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเวทีสาธารณะ ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยทีบีเอส ดำเนินรายการโดย นางสาวนาตยา แวววีรคุปต์ ว่า แนวคิดการแก้ปัญหาดังกล่าวของทาง กทม.นั้น ไม่เหมาะสมเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นลักษณะหาดโคลน หากนำทุ่นทรายไปกั้นน้ำไว้เมื่อคลื่นซัดเข้ามาปะทะทีกรอยน์ คลื่นก็จะสะท้อน จะนำดินที่อยู่ใต้ฐานทีกรอยน์ลงไปด้วย ทำให้ในระยะยาวแผงทีกรอยน์เหล่านั้นก็จะพังลง ซึ่งการทำเช่นนี้ในระยะ 3-4 ปีอาจจะดูว่าดี แต่วิธีดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ การทำเช่นนี้จึงเหมือนการเอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ อีกทั้งการแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะในหาดโคลน ไม่เคยมีที่ไหนในโลกแก้ไขด้วยวิธีนี้

ด้าน นายสุรพล กฤษณามละ นักวิชาการอิสระ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของโครงป้องกันแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กล่าวว่า ถึงแม้การก่อสร้างทีกรอยน์อาจจะมีข้อเสีย และอาจแก้ไขปัญหาไม่ได้ผล อย่างที่นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาหลายท่านเตือน แต่ทางบริษัทที่ปรึกษาที่เชื่อถือได้ที่ทาง กทม.ว่าจ้าง ประมวลผลและยืนยันออกมาแล้ววิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวใช้ได้ผล จึงได้ตัดสินใจใช้วิธีการนี้ในการแก้ไขปัญหา

ด้าน นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากชาวบ้านบริเวณนั้นได้รับความเดือดร้อนมาก และต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ซึ่งแนวทางการดำเนินต่อไป ก็คือ นำผลการศึกษาที่บริษัทที่ปรึกษา มาวางแผนในรายละเอียดต่อไป ซึ่งถึงแม้หลายความคิดเห็นจะเป็นความคิดเห็นที่ดี แต่อย่างไรโครงการนี้ ก็จะดำเนินการต่อไปตามแผนที่วางไว้ ไม่ใช่ว่าใครทักหรือท้วงติงแล้วเราจะหยุดไปหมด