ทีม กม.พลังแม้ว ผนึกกำลังหนีตายลุ้นคดี “ยุทธ ใบแดง” พ่วงยุบพรรค ไม่วายกล่าวโทษแผนบันได 4 ขั้น ยุค คมช.ออก กม.เหมาเข่ง หวังขจัดขั้วอำนาจเก่า โยนบาปบางพรรคการเมืองชิงหนีตายส่งนอมินีนั่ง กก.บห.
วันนี้ (20 มี.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งรับคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลฎีกาฯ วินิจฉัยและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 พรรคพลังประชาชน ว่า กระบวนการต่อไปเป็นกระบวนการต่อสู้ในศาล ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล การดำเนินการในชั้นนี้เป็นหน้าที่ของนายยงยุทธและทนายความที่จะต้องต่อสู้คดี โดยตนจะปรึกษากับนายยงยุทธถึงแนวทางในการต่อสู้คดี และจะส่งทนายความเข้าไปช่วย แม้ว่านายยงยุทธจะมีทีมงานด้านกฎหมายอยู่แล้ว พรรคก็จะส่งผู้ที่มีประสบการณ์ไปช่วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้นัดหมายหรือพบปะหารือกับนายยงยุทธแต่ประการใด ซึ่งการต่อสู้คงสู้กันในประเด็นข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง ซึ่งสามารถอ้างพยานและหลักฐานที่เป็นประโยชน์เอามาสู้คดีได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงในเรื่องการยุบพรรคหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ห่วงเรื่องนี้มาก เรื่องการยุบพรรคต้องคิดกันให้รอบคอบต้องพิจารณา และตีความกฎหมายให้ดีและเป็นธรรม กฎหมายชนิดนี้เรียกว่าเป็นกฎหมายเหมาเข่ง ที่มักออกมาโดยเผด็จการ และมักใช้คำว่าให้ถือว่า ซึ่งมีหมายความว่า ไม่ว่าจะมีความผิดอะไรถ้าสงสัยให้ถือว่าใช่ไว้ก่อน การใช้กฎหมายเหล่านี้จึงต้องตีความด้วยความเป็นธรรม
“กฎหมายชุดนี้เกิดขึ้นในยุค คมช.คือ ยุคที่มีความพยายามมีบันได 4 ขั้น จึงสร้างกฎหมายทำนองนี้ คนใช้กฎหมายจึงต้องดูถึงความถูกต้องชอบธรรมด้วย พรรคทำจนสุดกำลังความสามารถแล้ว ถามว่า กังวลเรื่องยุบพรรคไหมก็ต้องบอกว่าเราผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก จึงอยากย้ำว่า บางทีเราพูดแต่ว่ากฎหมาย กฎหมาย แต่ไม่ได้ดูว่ากฎหมายตราขึ้นในสมัยใด ผมไม่เห็นด้วยกับกฎหมายเหมาเข่ง เอาง่ายๆ พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมากรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องด้วย ไม่ได้ทำอะไร ก็หมายความว่าเราถูกมัดมือชก” นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากบทเรียนกรณีนี้ เชื่อว่า เร็วๆ นี้ จะมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งลดจำนวนกรรมการบริหารพรรคจาก 90 คน เหลือไม่กี่คน โดยจะเอาตัวหลอกมาเป็น แต่ตัวจริงอยู่เบื้องหลังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ซึ่งทั้งหมด คือ ความพยายามที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหา ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีกฎหมายประเทศไหนเขียนเรื่องยุบพรรคไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วยังไปเขียนไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามบันได 4 ขั้น เมื่อเป็นเช่นนี้คนทำงานการเมืองก็ทำยาก