นักวิชาการจุฬาฯ ชี้เหตุบึ้ม รร.ซีเอส ปัตตานี คนร้ายบรรลุผลทำลายจุดปลอดภัย แนะออก พ.ร.บ.ความมั่นคงฉบับใหม่แก้ลำ ด้าน ส.ว.สรรหาเจ้าของ รร.ที่เกิดเหตุ ยอมรับอาจเกี่ยวข้องการเมืองท้องถิ่น แต่วอนรัฐอย่าด่วนสรุป ให้ทำอย่างรอบคอบ
จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และบาดเจ็บอีก 11 รายนั้น วันนี้ (19 มี.ค.) นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล สมาชิกสภาวุฒิสภาประเภทสรรหา และกรรมการผู้จัดการโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี ได้ให้ให้สัมภาษณ์ในรายการ "คมชัดลึก" ดำเนินรายการโดย นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นแชลแนล โดยแสดงความคิดเห็นว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะทำให้คนได้รับความเดือดร้อนในวงกว้าง ทั้งในด้านของทรัพย์สิน ผู้เสียชีวิต รวมไปถึงการสร้างความหวาดกลัวให้กับคนทั่วไป
กรณีที่มีการวิเคราะห์ว่าการกระทำครั้งนี้อาจมุ่งหวังทำร้ายนายอนุศาสน์เองนั้น เจ้าของโรงแรม ซี.เอส.กล่าวว่า ไม่อยากคาดเอาเอง แต่โดยส่วนตัวก็คิดว่ามีความเป็นไปได้อยู่บ้าง เนื่องจากตนถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ค่อนข้างมีบทบาทในท้องถิ่นพอสมควร อาจเป็นไปได้ว่ามีเรื่องของอิทธิพลท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวโยง แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ตนไม่อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรีบสรุปเรื่องนี้ อยากให้หาสาเหตุด้วยหลักฐานอย่างรอบคอบ
ด้าน ศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การกระทำของคนร้ายในครั้งนี้ มีความมุ่งหวังเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะแต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าหวังผลอะไร จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะสืบหาข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม การกระทำครั้งนี้ถือว่าคนร้ายบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นการยืนยันได้ว่าพื้นที่ปลอดภัยในภาคใต้แทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ภาครัฐต้องหาวิธีรับมือใหม่ เครื่องมือใหม่ เช่น พ.ร.บ.ความมั่นคงฉบับใหม่มาใช้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ถือว่าเป็นกฎหมายที่ดี มีเจตนารมณ์ที่ดี มีสมดุลในโครงสร้างของตัวเอง เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“สถานการณ์ครั้งนี้ยืนยันได้ว่า เราทำงานได้ไม่ดีพอ เราเปิดช่องว่างให้เกิดความเสียหายทางจิตวิทยามวลชนอย่างมหาศาล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่จะภาครัฐจะต้องแก้ไข และเรียกความเชื่อมั่นกลับมา” ดร.ปณิธานกล่าว