มติ ก.พ.ร.ผ่านร่างกฤษฎีกาแผน-เงินผู้ว่าฯ ซีอีโอ “ชูศักดิ์” ระบุตั้งกรรมการระดับจังหวัดมีประชาสังคม ผู้ว่าฯบริหารแผน-เงินในจังหวัดเอง เผยบอร์ดใหญ่นายกฯคุมทั้งแผนและงบประมาณเหมือนเดิม
วันนี้ (14 มี.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างพระราชกฤษฏีกา (พ.ร.ฎ.) ว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.... หรือผู้ว่าฯ ซีอีโอ เพื่อสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและแผนพัฒนาชาติ โดยจังหวัดจะสามารถบริหารงบประมาณของตัวเองได้และให้เกิดความคล่องตัวเป็นลักษณะของการดูแลท้องถิ่นของตัวเองได้ ทั้งนี้จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับ ก.พ.ร.กล่าวว่า ร่างพ.ร.ฎ.ฉบับนี้มีสารสำคัญ ตามมาตรา 10 ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) มีคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ ทุกคน ผู้แทนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำหนดพิเศษให้มีตัวแทนภาคประชาสังคมในจังหวัด เช่น ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด เป็นต้น ทั้งนี้ ความหลากหลายของกรรมการจะให้ครอบคลุมในแค่ของพื้นที่เพื่อสะท้อนความต้องการของกลุ่มต่างๆ ที่อยู่ในขังหวัดนั้นๆ
นอกจากนี้ยังให้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารงานและงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.ง.จ.) มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งกรรมการภาคเอกชน เช่น ประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณจังหวัด จากเดิมที่มีการนำไปฝากไว้ที่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี (สปน.) และกระทรวงมหาดไทย เมื่อ พ.ร.ฎเสร็จ การตั้งงบประมาณผู้ว่าฯ ซีอีโอก็จะใช้ตามร่างฉบับนี้ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ก้จะมีแผนและงบประมาณของตัวเอง
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร.กล่าวว่า หลักการของ พ.ร.ฎ. ฉบับนี้จะแตกต่างจากร่างจากรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่เสนอเป็นร่าง พ.ร.ฎว่าด้วยแผนและงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการเท่านั้น ประกอบกับร่างฉบับนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนนโยบายผู้ว่าฯ ซีอีโอ เชื่อว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ทันในปีงบประมาณ 2552
ทั้งนี้กำหนด เป็น 6 องค์ประกอบ ได้แก่ หมวดที่ 1 ว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการชุดใหญ่ จากเดิมที่กำหนดไว้ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น หมวดที่ 2 ว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาระดับจังหวัด หมวดที่ 3 ว่าด้วยการจัดกลุ่มจังหวัดและการจัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด หมวดที่ 4 ว่าด้วยงบประมาณจังหวัดได้ให้สำนักงบประมาณ กำหนดวงเงินให้ชัดเจน และหมวดที่ 5 ว่าด้วยการกำกับติดตามการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้ยังกำหนดให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีงบประมาณ ให้อำเภอมีอำนาจหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในคดีแพ่งและคดีอาญา ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการธรรมมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) รวมทั้งการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารงานและงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อาศัยช่องว่างของกฎหมายจัดงบประมาณลงไปในงบกลางปี ทำให้ถูกครหาว่า เป็นการนำเงินงบกลางไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และนำไปซื้อเสียงในพื้นที่ฐานเสียงของรัฐบาลขณะนั้น
