xs
xsm
sm
md
lg

“ยามฯ” ถามกลับ “รมต.ไข่แม้ว” ได้ดีเพราะใคร - ท้าเผยท่อน้ำเลี้ยง - ขนลุก! “เหวง” นั่งบอร์ด อสมท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยามเฝ้าแผ่นดิน” สวนกลับ “นพดล” อ้างมาตามระบบรัฐสภา แล้วชนะเลือกตั้งหรือไม่ ถามจี้ใจได้เป็น รมต.เพราะใคร ยัน 400 ล้านไล่ “ทักษิณ” มาอย่างโปร่งใส ท้ากลับหัวโจก นปก.เผยแหล่งน้ำเลี้ยงบ้าง งง “แม้ว” บอกทุกคนเคารพ “เปรม” กลับปล่อยหัวโจกม็อบด่าป๋าได้ดิบได้ดี เผย “หมอเหวง” เตรียมนั่งบอร์ด อสมท

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ  ช่วงที่ 2


รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 11 มีนาคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกได้กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้น่าจะได้เรียนรู้แล้วว่า ไม่สามารถใช้ชีวิตในประเทศไทยที่ได้ตามปกติอย่างคนทั่วๆ ไป ดังนั้นจึงเลือกที่จะเดินทางไปประเทศที่ตัวเองคิดว่าอยู่แล้วปลอดภัยและสบายใจ อย่างเช่น ญี่ปุ่น หรืออังกฤษ

ส่วนกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงว่าอดีตแกนนำ นปก.ได้ดีเพราะความสามารถ ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า ทำไมไม่เคยเห็นอดีตแกนนำ นปก.ได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้ แม้แต่ตัวนายนพดลเอง ลงเลือกตั้งแล้วชนะกี่ครั้ง แล้วที่ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะการออกมาแก้ต่างให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณในทุกเรื่อง นายนภดลจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่

กรณีที่นายนพดลอ้างว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการยึดอำนาจ แต่มาตามวิถีประชาธิปไตย ขณะเดียวกันพันธมิตรก็เป็นสมาชิกพรรคการเมืองขอให้มาเล่นกันในระบบรัฐสภานั้น ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า นายนพดลห้ามพันธมิตรฯ เคลื่อนไหว แต่ขณะเดียวกัน นปก.กลับยังเคลื่อนไหวอยู่ และนายนพดลกำลังเข้าใจผิดว่า ประชาธิปไตยหมายถึงระบบที่ทุกคนมีสิทธิมีเสียงผ่านรัฐสภาเพียงเท่านั้น

กลุ่มพันธมิตรฯ แม้ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างชัดเจน แต่ก็ถูกรับรองโดยสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญให้ก่อตั้งเป็นองค์กร นี่เป็นประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิ์แสดงความคิดความเห็น การชุมนุมการเคลื่อนไหวโดยสงบอหิงสาและปราศจากอาวุธนั้นทำได้ ดังนั้นการที่ นายนพดล ชอบกล่าวพาดพิงพันธมิตรฯ ก็เพราะไม่เคยหยุดพูดเรื่องเหตุการณ์ในประเทศ ชอบพูดแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของมวลชน ถ้าอย่างนั้นรัฐธรรมนูญก็เขียนให้ตั้งกลุ่ม นปก.ได้เพียงกลุ่มเดียวในประเทศไทยไปเลย

“วันนี้ยังไม่เห็น รมว.ต่างประเทศ แสดงวิสัยทัศน์ในการบริหารงานแม่แต่น้อย เห็นแต่กระบวนการที่น่าสงสัยว่า เป็นการล้างแค้นทั้งนั้น ทำไมพันธมิตรฯ จะพูดถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีไม่ได้ ทีนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังใช้เวทีของรัฐสภาด่าพันธมิตรฯ ที่อยู่นอกสภาได้ รวมทั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ยังมาใช้เวทีการแถลงข่าวมติคณะรัฐมนตรีมาแขวะพันธมิตรฯ อีก คนพวกนี้คิดไม่เป็นระบบ ตอนเป็น นปก.พูดอย่าสง แต่พอมาเป็นรัฐมนตรีก็พูดอีกอย่าง ที่ นปก.ก่อความรุนแรง ทำไมไม่บอกว่าจะกระทบการลงทุน”

ส่วนการที่นายณัฐวุฒิ บอกว่าให้แกนนำพันธมิตรฯ ไปทำความเข้าใจกันเรื่องเงิน 400 ล้านบาท ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล บอกว่าได้นำมาใช้ในการเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า นายณัฐวุฒิ ไม่ควรนำประสบการณ์ส่วนตัวมาวัดคนอื่น กลุ่มพันธมิตรฯ ก่อตัวขึ้น ซึ่งค่ายผู้จัดการ โดยนายสนธิได้ตัดสินใจเข้าร่วมต่อสู้เพื่อยืนหยัดในความถูกต้อง ทำให้สปอนเซอร์รายใหญ่ต้องถอนตัว จนองค์กรเดือดร้อน ขณะที่การถ่ายทอดสดการชุมนุมของเอเอสทีวีต้องมีค่าใช้จ่าย โดยที่ไม่มีสปอนเซอร์เข้ามา ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 20 ล้านบาท สู้กันมาเป็นปีจะไม่ถึง 400 ล้านได้อย่างไร นายสนธิต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวไม่รู้เท่าไหร่

สำหรับเงินที่ได้จากสปอนเซอร์ อย่างทีพีไอนั้น ก็ไม่ใช่ได้มาฟรีๆ ทุกอย่างต้องมีเงื่อนไข การเปิดช่องสุวรรณภูมิต้องมีสัญญา คนต้องรู้จักปูนทีพีไอผ่านเอเอสทีวี ทุกอย่างทำตามระบบ

ส่วนเงินบริจาคจากผู้ร่วมชุมนุมนั้น 5 แกนนำไม่ได้แตะแม้แต่บาทเดียว เรามีคณะกรรมการที่รับบริจาคและทำการตรวจนับแล้วประกาศยอดรวมที่ได้รับและยอดรายจ่ายทุกคืน เป็นขั้นเป็นตอน ขณะที่การชุมนุมของ นปก.กล้าเปิดเผยหรือไม่ว่าได้ค่าใช้จ่ายมาอย่างไร แล้วการที่แกนนำได้ลงหุ้นกันก่อตั้งพีทีวีคนละ 10 ล้าน 20 ล้านนั้น ได้เงินมาจากไหน นปก.น่าจะประกาศด้วย เพราะฉะนั้นการที่นายณัฐวุฒิให้พันธมิตรฯ มาเคลียร์กันเรื่องเงินนั้น ไม่ควรจะพูด เพราะคนละมาตรฐานกันกับ นปก.

**จวก 2 ดร.ธรรมศาสตร์ ไม่อ่าน รธน.

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงกรณีที รศ.วรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา และ รศ.ดร.พิชิต ลิขิตจิตสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยกลุ่มคนอ้างเป็นตัวแทนนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี เข้าพบตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ไม่แน่ใจอาจารย์ทั้งสองท่านได้อ่านรัฐธรรมนูญดีแล้วหรือไม่

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญได้ให้สิทธิเสรีภาพประชาชนในการแสดงความคิดเห็น หากจะมาคิดว่า การติติงการทำงานรัฐบาลไม่สามารถทำได้ แล้วการละเมิดสิทธิประชาชนนอกรัฐสภา การประท้วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของกลุ่ม นปก.ในขณะนั้น อาจารย์ทั้ง 2 คนทำไมไม่ออกมาทำอะไรบ้าง จนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับอาจารย์ตัวเอง ถึงกับโพสต์แสดงความคิดเห็นตำหนิผ่านเว็บไซต์ผู้จัดการ

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวด้วยว่า แถลงการณ์ของพันธมิตรฯ ทุกครั้ง พันธมิตรฯ ไม่ได้เป็นตัวกำหนดเอง แต่สถานการณ์ และเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นของรัฐบาลเป็นตัวกำหนด ทั้งการโยกย้ายข้าราชการ การขัดขวางมาตรการซีแอล รัฐมนตรีมัวแต่รักษาผลประโยชน์ จนประชาชนต้องออกมาต่อต้านเข้าชื่อถอดถอนรัฐมนตรีกันเป็นจำนวนมาก แต่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข กลับไม่สนใจยังจะเดินหน้า

ขณะเดียวกัน นายไชยายังแสดงวุฒิภาวะ ทัศนะคติที่แปลก โดยเฉพาะคำพูดที่ภูมิอกภูมิใจที่มือปืนเรียกตัวเองเป็นหัวหน้า จะไปที่ไหนก็มาเคลียร์ว่าอย่ายิงพวกเรา มันแปลกเป็นถึงรัฐมนตรีทำไมถึงกล้าพูดคำนี้ออกมา จึงไม่แปลกที่คนทั่วไปจะไม่มั่นใจกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อนาคตของกระทรวงจะเดินหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

**“แม้ว”เคารพ “ป๋า” จริงหรือ

ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ โดยอ้างว่านายสมัคร สุนทรเวช ไม่ใช่นอมินี แต่เป็นนอมินีของนายสมัครต่างหาก ว่า การพูดเช่นนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน ถ้าอย่างนั้น แสดงว่า ใครจะติดต่ออะไรกับนายสมัครที่เป็นนายกฯ ตัวจริง ก็ให้ไปคุยพับ พ.ต.ท.ทักษิณใช่หรือไม่

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณบอกกับสื่อต่างประเทศว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนที่คนไทยทุกคนให้ความเคารพนั้น ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า คนไทยทุกคนที่ว่านั้นรวมทั้งตัว พ.ต.ท.ทักษิณด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณลืมหรือยังว่าเคยกล่าวหาพล.อ.เปรมไว้อย่างไร ตอนที่พูดกับคนไทยในออสเตรเลีย แล้วคนที่ไปเปิดเวทีตั้งลำโพงเข้าไปในบ้านพัก พล.อ.เปรมแล้วด่าทดอย่างเสียๆ หายๆ ทำไมได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี บางคนก็ได้เป็นรองโฆษกรัฐบาล

**ตะลึง “เหวง” นั่งบอร์ด อสมท

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำ นปก.จะเข้าไปเป็นบอร์ด อสมท.ด้วยซ้ำ ซึ่งก็ทำให้มีข้อสงสัยว่า ตอนหลังการปฏิวัติ 19 ก.ย.นั้น พอจะมีสื่อที่ตรงข้ามกับ พ.ต.ท.ทักษิณจะไปออกทีวีบ้าง กลับมีการกล่าวหาว่าแบ่งเค้ก แต่ตอนนี้ทำไมไม่เรียกแบ่งเค้กบ้าง หรือไปเรียกกันว่ารุมทึ้ง

ที่เห็นชัดเจน คือ ช่อง 11 ซึ่งนายจักรภพ เพ็ญแข บอกว่ากำลังปรับปรุงเป็นโมเดิร์น 11 โดยจะแบ่งช่วงเวลาใหม่ ก็จะเอาอดีตคนไอทีวีที่ยังเชียร์ระบอบทักษิณเข้าไปทำ และมีข่าวว่า คนเก่าๆ ของไอทีวีที่ได้งานในไทยพีบีเอสแล้วกำลังลาออกกันยกใหญ่ เพื่อรอเข้าทำงานในช่อง 11 เนื่องจากได้เงินเดือนมากกว่าเดิมตอนอยู่ไอทีวีด้วยซ้ำ หลังจากนายจักรภพให้มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนใหม่

**งง “สมชัย” สอดโยกย้าย ตร.

ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงการโยกย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ซึ่งกำลังทำคดีของผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในพื้นที่หลายคดี ไปช่วยราชการที่จังหวัดศรีสะเกษว่า ล่าสุด นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านการสืบสวนสอบสวน ออกมาให้ความเห็นว่า คงไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นเพราะมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีที่ไม่จับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ยามวิกาลและเอามาเป็นพยานในคดีซื้อเสียง จนทำให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชนถูกใบแดง

เรื่องนี้ พ.ต.อ.สังวรณ์ ได้ตอบโต้ว่า นายสมชัยน่าจะเข้าใจผิด เพราะเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระกัน เนื่องจาก สภ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ดไม่ได้ประสานมาว่านายเตียงที่เป็นพยานใบแดงนั้นเป็นผู้ต้องหาลักทรัพย์ในยามวิกาล และตนไม่รู้จักนายเตียงมาก่อน แต่เมื่อนายเตียงมาร้อง กกต.ว่า มีการซื้อเสียง ตนในฐานะเป็น กกต.จังหวัดด้วย จึงนำมาเป็นพยาน

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการโยกย้ายตำรวจ นายสมชัยเป็น กกต.แล้วมาช่วยอธิบายเหตุผลการโยกย้าย ไม่ทราบว่านายสมชัยเกี่ยวอะไรด้วย นายสมชัยเองยังบอกว่า เมื่อมีคำสั่งย้ายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชัดเจนแล้วว่าเป็นเพราะบกพร่องต่อหน้าที่ กกต.เข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ แล้วนายสมชัยออกมาพูดทำไม

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า มีวาทกรรมที่ชอบพูดกันว่า การโยกย้ายข้าราชการที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะรัฐบาลก่อนที่มาจากการรัฐประหารก็มีการโยกย้ายกันมาก แต่จริงๆ แล้วการโยกย้ายอย่างผิดปกติเกิดขึ้นมาตั้งสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

และการโยกย้ายครั้งนี้ก็เกิดขึ้นอย่างโจ๋งครึ่ม ดังกรณีการย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์ที่เป็นคนทำคดีสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น ดคีการบุกรุกที่ดินรถไฟของตระกูลชิดชอบ คดีใบแดงของผู้สมัคร ส.ส.พลังประชาชน รวมไปถึงกรณีการย้ายตำรวจที่เชียงรายก็เกี่ยวข้องกับการให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ กันหลายครั้ง จะให้เรียกว่าเป็นการโยกย้ายที่เป็นธรรมได้อย่างไร

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ก่อนที่จะพูดว่าเป็นเรื่องปกติของการโยกย้าย ทำไมไม่ดูเนื้อหาก่อนว่าคนที่ถูกย้ายกำลังทำคดีอะไรอยู่บ้าง ไม่ใช่พูดง่ายๆ แค่ว่าทุกยุคทุคสมัยก็มีการโยกย้าย แต่ควรจะมองว่าเป็นการข้าราชการที่ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่

สำหรับการย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์นั้น มีการเสนอย้าย พ.ต.อ.สมบัติ คงพิบูลย์ รอง ผบก.ภ.สกลนครไปทำหน้าที่แทน อ้างว่าเพื่อเป็นการเหมาะสม แต่ก็มีคำถามว่าตำรวจคนนี้มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ใช่เรือไม่ สิ่งเหล่านี้ ทำให้มองเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมต้นน้ำจะมีมาตรฐานให้คนเชื่อมั่นในความยุติธรรม หรือไม่ถูกกลั่นแกล้ง ได้หรือไม่

“ทำไมสื่อไม่สนใจว่า การโยกย้าย พ.ต.อ.สังวรณ์เป็นธรรมหรือไม่ เขาเป็นตำรวจที่ตรวจสอบการรุกที่ดินรถไฟบุรีรัมย์แล้วบอกว่าผิด หลังจากนั้นก็ถูกย้าย เรื่องนี้คงต้องถาม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร.ด้วยว่า พร้อมที่จะยืนหยัดนำคดีต่างๆ ทั้งที่บุรีรัมย์ และเชียงราย ให้เกิดความเป็นธรรมได้หรือไม่ จะอ้างว่าเป็นเรื่องของระดับล่างไม่ได้ เพราะการโยกย้ายเกิดขึ้นทั่วไปหมด พล.ต.อ.พัชรวาท จะทำให้เชื่อมั่นได้หรือไม่”

**เตือน ขรก.รับคำสั่ง รมต.โยงคดีหวย ผิดกฎหมาย

ต่อมา ผู้ดำเนินรายการกล่าวถึงกรณีที่ คตส.ยื่นฟ้องคดีหวยบนดินต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง โดยมีรัฐมนตรี 3 คนของรัฐบาลชุดนี้เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย คือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช.แล้ว เมื่อมีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้จนกว่าวุฒิสภาจะมีมติ หรือศาลฎีกาฯ จะมีคำพิพากษา แล้วแต่กรณี

ผู้ดำเนินรายการกล่าวว่า โดยความเห็นส่วนตัว ถือว่ารัฐมนตรีทั้ง 3 คนปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่สนองรับคำสั่งของรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ระมัดระวังการทำผิดกฎหมายไว้ด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น