“รมต.สำนักฯ” คุยโวดีเดย์ปรับผังช่องรายการข่าวช่อง 11 วันที่ 1 เม.ย.นี้ พูดชัดจะใช้เป็นเครื่องมือรัฐบาลแฉผู้เบื้องหลังจ้องล้มรัฐบาล เกลียดชัง คตส.เข้ากระดูก เตรียมใช้สื่อรัฐแจงที่มาคณะกรรมการชุดนี้ เบือนหน้าหนีเชื่อล่า 2 หมื่นชื่อไม่กระทบรัฐบาล
วันนี้ (10 มี.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าชื่อเพียง 2 หมื่นคนเพื่อยื่นถอดถอนรัฐมนตรีว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐมนตรีหรือรัฐบาลหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่เลย รัฐบาลทำงานอยู่ได้เพราะมีเสียงข้างมาก ถ้าประชาชนแสดงออกอย่างชัดเจน พิสูจน์ได้ว่าประชาชนทุกคนที่ลงชื่อนั้นด้วยความบริสุทธิ์สมัครใจอย่างแท้จริง รัฐบาลก็ต้องฟังไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนไหนกรทะรวงใด ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นรัฐบพร้อมรับ ส่วนล่าชื่อถอดถอน รมว.สธ.นั้นก็ไม่มีปัญาอะไร หากมีความไม่พอใจก็แสดงความไม่พอใจนั้นตามกฎหมาย สิ่งที่เราทำก็จำเป็นต่อการบริการราชการแผ่นดิน
เมื่อถามว่า คตส.ยื่นฟ้องเรื่องหวยบนดินซึ่งก็มีรัฐมนตรีในรัฐบาลเกี่ยวข้องอยู่ 3 คนจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าทุกคนนึกได้ว่าคตส.มาจากไหนก็จะเข้าใจว่าทำถึงมาสู่จุดนี้ ตนย้ำว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำตามกฎหมาย อะไรที่มาตามกฎหมายรัฐบาลจะให้ความเคารพทำตามอย่างเคร่งครัด ส่วนประชาชนจะมองว่ารัฐบาลไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้นต้องใช้เวลาเป็นเครื่อพิสูจน์ แต่บอกได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ ใครที่อยู่ในกระบวนการตรงกลางต้องทำตามกฎหมายเช่นกัน
เมื่อถามว่ารู้สึกหรือไม่ว่า คตส.เป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของรัฐบาล นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่เป็นอุปสรรค แต่อุปสรรคที่แท้จริง คือการที่ประชาชนยังไม่ทราบเบื้องหลังของการเมืองที่มารุมเร้ารัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน ตนในฐานะที่ดูแลสื่อภาครัฐก็จะทำให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้อย่างครบถ้วน เพราะขณะนี้มีคนที่อยู่เบื้องหลังอะไรต่างๆ อยู่มาก แต่เราก็ต้องมาบริหารจัดการเพื่อให้สามารถทำงานได้
นายจักรภพ กล่าวถึงการปฏิรูปช่อง 11 ว่า ขณะนี้กำลังเดินหน้าอย่างดี ที่กำลังได้รับการปรับปรุงทั้งภายในระบบราชการ และภายนอกคือผู้เชี่ยวชาญที่เข้าไปช่วย ในวันที่ 24 มิ.ย. จะเป็นงานเปิดตัวช่อง 11 โฉมใหม่ และในวันที่ 1 เม.ย. ก็จะเป็นการเปิดช่อง11ใหม่เป็นวันแรก ถือเป็นดีเดย์จะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของข่าวสารก่อน ในส่วนที่สองอีกประมาณ 3 เดือนนั้น จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของรายการ นอกจากนี้ ตนได้สั่งการให้รักษาการอธิบดีกรมประชาฯ เชิญผู้จัดรายการที่ได้รับความเดือดร้อนมาคุยเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะเป้าหมายคืออยากให้ทุกคนส่วนในการปฏิรูปช่อง 11 ส่วนคณะกรรมการที่จะมาศึกษาเนื้อหานั้น ในสัปดาห์นี้จะเห็นหน้าคณะกรรมการชุดนี้แน่นอน และรวมถึงเรื่องโทรทัศน์กีฬา เรื่องทีวีอาเซียน ที่จะมีคณะกรรมการออกมาหลายชุด
เมื่อถามว่าทำช่อง 11 เพื่อแข่งกับช่องไทยพีบีเอสใช่หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่จริง แต่ได้ให้นโยบายไว้ว่า ถ้าหากช่อง 11 จะยึดไทยพีบีเอสเพื่อเป็นธงในการแข่งขันอย่างสร้างสรรค์กันตรงนี้ไม่ผิดจากนโยบาย แต่ไม่ใช่เพื่อให้ชนกัน