ผู้จัดการออนไลน์ – พระพยอมปากบอกไม่คัดค้าน ไม่ต่อต้าน แต่ไม่สนับสนุนบ่อนกาสิโนแต่ให้สัมภาษณ์หนุนเต็มๆ อ้างอบายมุขอยู่ในสันดานคนไทยอยู่แล้วไม่มีกาสิโนก็เล่นการพนันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นม้า-มวย-หวย ‘สังศิต’ หนุนเหมือนเดิมแต่เตือนถ้าคิดจะทำหน่วยงานยุติธรรมต้องมีความสุจริต ไม่งั้นประเทศเละ กลายเป็นแหล่งฟอกเงินของนักการเมืองและอาชญากรข้ามชาติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พระพยอมให้สัมภาษณ์หนุนกาสิโนในรายการกรองสถานการณ์ทางช่อง 11
วันนี้ (7 มี.ค.) รายการกรองสถานการณ์ทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ได้มีการเชิญพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) และรศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเรื่องเศรษฐกิจนอกระบบและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเปิดบ่อนกาสิโนอันเป็นนโยบายของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีโดยใช้หัวข้อของการสนทนาว่า “เปิดบ่อนกาสิโนใครได้-เสีย”
ในตอนหนึ่งพระพยอมได้แสดงความเห็นโดยตอนหนึ่งระบุว่า ท่านไม่คัดค้าน ไม่ต่อต้านและไม่สนับสนุน แต่ก็แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่าถ้ารัฐบาลต้องการจะเปิดต้องไม่ให้เรื่องนี้ตกไปอยู่ในความควบคุมของนักการเมือง
เมื่อพิธีกรถามว่าถ้ารัฐบาลบอกว่าพร้อมที่จะทำแล้ว ควรจะทำหรือไม่พระพยอมกล่าวตอบต้องรีบทำ “มันมีสองอย่างพร้อมก็คือจะไม่ให้มีเสรีแต่ปราบบ่อนให้มันจริงจัง ถ้าไม่พร้อมแต่พร้อมในแบบเปิด มันก็ต้องทำ อาตมาว่าอย่างนี้ประเทศที่เคร่งศาสนาเขาก็เปิดไปหมดแล้ว พุทโธ่! มาเลย์เนี่ยนะอิสลามมันเคร่งกว่าพุทธเราอีก ทำไมยอมล่ะ?”
ด้านนายสังศิตได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมของการจะตั้งบ่อนกาสิโนว่าต้องใช้หลักธรรมาภิบาลคือให้ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ มีส่วนในการทำประชาพิจารณ์ อย่างเช่น คนพัทยาอยากได้ คนภูเก็ตไม่อยากได้บ่อนกาสิโนเพราะต้องการให้นักท่องเที่ยวเป็นนักท่องเที่ยวที่มีระดับกว่าพัทยา กระนั้นนายสังศิตกลับไม่เห็นด้วยกับการทำประชาพิจารณ์แบบทั่วประเทศ โดยอ้างว่าจะเป็นการทำให้เสียงบประมาณมากเกินไปเนื่องจากการทำประชาพิจารณ์แบบทั่วประเทศนั้นต้องใช้เงินมากกว่า 2 พันล้านบาท โดยนายสังศิตแนะนำให้ใช้วิธีทำโพลที่ถูกหลักวิชาการสำรวจทั่วประเทศแทน เนื่องจากจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก
ซึ่งความเห็นเรื่องไม่ต้องทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศเกี่ยวกับการตั้งบ่อนกาสิโนดังกล่าวของนายสังศิต พระพยอมแสดงความเห็นด้วยอย่างมากโดยกล่าวว่า ตนเชื่อว่าหากทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศเรื่องนี้ไม่น่าจะผ่าน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจประโยชน์ของการตั้งบ่อนกาสิโน
“เออ ... ถ้าเอาคนหมู่มาก เขาเรียกหมู่มากลากไป แล้วหมู่มากจำนวนเราก็รู้อยู่คนบางคน มากจำนวนแต่คุณภาพทางความคิด สมอง สติปัญญา เห็นคุณเห็นโทษ อาตมาเราต้องเอาคนที่ เห็นคุณ เห็นโทษเป็นหลักใหญ่” พระพยอมกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมานายสังศิตเน้นย้ำว่า ถ้ารัฐบาลต้องการจะทำบ่อนกาสิโนรัฐบาลจำเป็นที่จะเริ่มการปฏิรูปองค์กรในระบบยุติธรรมต่างๆ ให้มีความสุจริตจริง เพราะหากหน่วยงานเหล่านี้ไม่มีความสุจริตจริงก็จะเกิดปัญหาการฟอกเงินของนักการเมือง อาชญากรข้ามชาติ ฯลฯ
“ถ้าไม่สุจริตจริงจะไม่ยอมไปป้องกันการฟอกเงิน ถ้าไม่ป้องกันก็จะมีพวกนักการเมือง มีพวกแก๊งค์อาชญากรข้ามชาติ กาสิโนทุกแห่งในโลกพวกอาชญากรข้ามชาติจะคอยดูว่าที่ไหนจะไปฟอกเงินได้ เพราะฉะนั้น ต้องอาศัยตำรวจ ต้องอาศัยดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ต้องอาศัยปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ต้องอาศัยสรรพสามิต ต้องอาศัยหลายหน่วยงาน ... ” นายสังศิตกล่าว และระบุว่าปัจจุบันหน่วยงานเหล่านี้ของไทยไม่พร้อม ซึ่งถ้าทำโดยไม่พร้อมจะทำให้เกิดปัญหาอีกมากมาย
ทั้งนี้แขกรับเชิญในรายการทั้งสองท่านก็แสดงความเห็นยอมรับว่าถ้าทำประชาพิจารณ์กับประชาชนแล้วประชาชนไม่ยอมรับกาสิโน รัฐบาลก็ไม่ควรดื้อดึงและควรจะเก็บโครงการนี้ไว้พิจารณาต่อไปในอนาคตเมื่อคนยอมรับได้
เป็นที่น่าสังเกตว่าในรายการกรองสถานการณ์ดังกล่าวเชิญเพียงแต่แขกรับเชิญที่เห็นด้วยกับนโยบายการเปิดบ่อนกาสิโนมาแสดงความเห็นในรายการเท่านั้น แต่กลับไม่ได้เชิญผู้ที่คัดค้านนโยบายมาแสดงความเห็นอีกด้านหนึ่งด้วยเลย
