xs
xsm
sm
md
lg

อ้างเป็นเจ้าของเงินล้าน 5 ราย ยังไม่รู้ตัวจริงหรือเปรต!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

มีผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินล้านที่พบในหัวเตียง ซึ่งมีผู้นำไปบริจาคให้วัดสวนแก้ว แล้ว 5 ราย ล้วนสอบถามถึงลักษณะทรัพย์สินแต่ละรายการที่ทางวัดพบ บางรายอ้างอาจเป็นมรดกตกทอดของครอบครัว วัดแจงให้มาพบพระพยอมในวันมาฆบูชาเอง

วันนี้ (19 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีที่ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยเรื่องการพบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท และทองรูปพรรณอีกจำนวนหนึ่ง ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในช่องเก็บของบนหัวเตียงนอนไม้โบราณที่ถูกนำมาบริจาคให้กับทางวัดสวนแก้ว โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว หมู่ 1 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว ไม่พบกับพระพยอม ซึ่งเดินทางไปรับกิจนิมนต์ที่จังหวัดนครราชสีมา และจะเดินทางไปจำวัดที่มูลนิธิสวนแก้ว สาขาจังหวัดบุรีรัมย์ในช่วงเย็นนี้

นางดวงใจ ธิตยารักษ์ เลขานุการมูลนิธิสวนแก้ว กล่าวว่า หลังจากที่หลวงพ่อไปออกรายการและให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเรื่องการพบเงิน และของมีค่าที่ถูกซุกซ่อนมาในหัวเตียงนอนไม้โบราณแล้วนั้น มีบุคคลได้โทรศัพท์มาอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของด้วยกันแล้ว 5 คน โดยแต่ละคนพยายามที่จะสอบถามถึงลักษณะทรัพย์สินแต่ละรายการที่ทางวัดพบ แต่ตนไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่พบได้

นางดวงใจ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชายหญิงคู่หนึ่ง อ้างว่า เป็นนักธุรกิจเดินทางมายังวัดสวนแก้ว เพื่อขอเข้าพบกับหลวงพ่อ แจ้งว่า ต้องการมาขอดูทรัพย์สินที่ทางวัดค้นพบ เพราะสงสัยว่าจะเป็นทรัพย์สินมรดกของครอบครัวตนเอง แต่เนื่องจากหลวงพ่อไปกิจนิมนต์ข้างนอก และทรัพย์สินที่พบก็เก็บรักษาไว้กับตู้เซฟของทางธนาคาร ทำให้ไม่สามารถนำทรัพย์สินที่พบมาให้ดูได้ ทำให้ทั้งสองคนเดินทางกลับไป ทั้งนี้ ผู้ที่อ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าว สามารถเดินทางมาขอดูทรัพย์สินได้ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา ซึ่งหลวงพ่อจะเดินทางกลับมาวัด

สำหรับบรรยากาศทั่วไปภายในวัดในวันนี้ ปรากฏว่า มีประชาชนทยอยเดินทางนำสิ่งของมาบริจาคให้กับทางวัดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังสอบถามเรื่องราวกับทางเจ้าหน้าที่ที่รับบริจาคด้วยความสนใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ทุกคนทำการตรวจสอบสิ่งของที่นำมาบริจาคอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะบริจาคให้กับทางวัดต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายมานิต วงศ์บุญธรรม อายุ 48 ปี หัวหน้าฝ่ายรับบริจาคของวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 7-8 เดือนที่ผ่านมา ทางแผนกรับบริจาคของวัดได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 30 ปีต้นๆ ให้ทางวัดไปรับสิ่งของบริจาคจากตึกแถวแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งตึกแถวดังกล่าวเป็นตึกแถวเก่าที่กำลังตกแต่งก่อสร้างใหม่ ทางตนจึงได้มอบหมายให้ นายมนตรี ม่วงอ่อน อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่แผนกยานยนต์ของวัด ขับรถกระบะไปรับสิ่งของบริจาคดังกล่าว ถึง 2 รอบด้วยกันในวันนั้น โดยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นโต๊ะเก้าอี้และเตียงโบราณที่เป็นแบบไม้ประกอบ และมีหัวเตียงแยกออกจากกันได้

ต่อมาเมื่อ นายมนตรี นำสิ่งของที่ได้จากการรับบริจาคดังกล่าวมาถึงที่วัดแล้ว ทางกลุ่มคนงานได้ช่วยกันแบกสิ่งของลงจากรถนำมากองไว้รวมทั้งหัวเตียงไม้โบราณดังกล่าว ปรากฏว่า ระหว่างที่คนงานช่วยกันแบกหัวเตียงลงจากรถ ก็พบว่า มีเสียงสิ่งของที่อยู่ภายในหัวเตียงไหลขลุกขลักมากระทบกัน กลุ่มคนงานจึงได้เปิดหัวเตียงที่มีช่องเก็บของออกมาตรวจสอบดู ก็พบว่า มีธนบัตรใบละ 100 บาทจำนวนมาก มัดกันเป็นฟ้อนๆ ซุกอยู่ในหัวเตียง ประมาณนับล้านบาท รวมทั้งถุงผ้าแบบสมัยก่อนที่บรรจุพระเลี่ยมทองหลายองค์ และทองคำรูปพรรณอีกหลายรายการ ท่ามกลางความตกตะลึงของกลุ่มคนงาน ก่อนที่ตนจะตัดสินใจรวบรวมสิ่งของมีค่าที่พบทั้งหมดไปให้หลวงพ่อดำเนินการต่อไป

นายมานิต กล่าวอีกว่า นับตั้งแต่ตนมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายรับบริจาคที่วัดสวนแก้ว ประมาณ 4 ปี ก็มักจะพบเจอสิ่งของมีค่าที่ติดตามมากับของรับบริจาคเป็นประจำ ซึ่งการพบเจอในครั้งนั้นถือได้ว่ามีค่ามากที่สุดเท่าที่เจอมา นอกนั้นมาก็จะพบเจอแหวนเพชรบ้าง ทองคำบ้าง พระเครื่องบ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าครั้งนั้น ซึ่งของส่วนใหญ่ที่พบเจอก็จะนำไปให้หลวงพ่อทั้งหมด ไม่เคยคิดเก็บไว้เอง เนื่องจากตนเองเชื่อในคำสั่งสอนของหลวงพ่อที่สอนตนไว้ว่า ให้ขยัน ซื่อสัตย์ และอดทน

เพราะที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้น ตนเองเข้ามาทำงานที่วัดสวนแก้วใหม่ๆ ที่วัดนั้น หลวงพ่อก็เมตตาให้ตนเองไปทำงานที่สวนภายในวัด จนกระทั่งต่อมาเมื่อทางหัวหน้าคนงานฝ่ายรับบริจาคของวัดได้ลาออกไป ทางหลวงพ่อได้คัดเลือกคนที่จะไปทำหน้าที่แทน หลวงพ่อก็พิจารณาเลือกตนไปทำหน้าที่แทนคนเก่า ดังนั้น ตนเองจึงต้องปฎิบัติงานอย่างซื่อสัตย์ตามที่หลวงพ่อได้ให้ความไว้วางใจ ซึ่งทุกวันนี้ตนเองได้เงินเดือนจากทางวัดเดือนละ 6 พันบาท มีข้าวให้กิน มีที่ให้อยู่ ชีวิตตนก็มีความสุขดีแล้ว

นายมานิต กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ในแต่ละวันจะมีผู้เดินทางนำสิ่งของมาบริจาคให้กับทางวัดสวนแก้ว วันละไม่ต่ำกว่าร้อยราย ซึ่งสิ่งของที่นำมาบริจาคส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นข้าวของเครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์เก่าทั่วไป ซึ่งสิ่งของมีค่าที่พบส่วนใหญ่ตนเอง คาดว่า น่าจะเป็นสิ่งที่สามีแอบซุกซ่อนไม่ให้ภรรยารู้ หรือภรรยาแอบไม่ให้สามี รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าที่คนแก่คนเฒ่าแอบซ่อนเก็บไว้ไม่ให้ลูกหลานรู้ ก็เป็นไปได้ นอกจากนี้ ทางฝ่ายรับบริจาคยังเคยเจออาวุธปืน และระเบิด ติดมากับสิ่งของรับบริจาคในบางครั้งก็มี

“พระพยอม” พบกรุสมบัติของเก่านับล้าน ประกาศหาเจ้าของ!


กำลังโหลดความคิดเห็น