พระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดัง ประกาศหาเจ้าของทรัพย์สินหลายล้านบาท หลังจากที่มีผู้ใจบุญลืมไว้ในเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้ หัวเตียง ที่นำบริจาคให้กับวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี เผยทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล ทั้งเงินสด ทอง นาฬิกายี่ห้อดัง รวมถึงระเบิดก็มี ให้เวลา 1 เดือน ไม่มีเจ้าของจะเอาไปบริจาคสร้างโรงเรียน พร้อมเตือน พวกหัวใสที่แอบอ้างจะเป็น “เปรต”
วานนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.00 น.พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 ปี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิวัดสวนแก้วได้ออกตระเวนรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนผู้ใจบุญในย่านพระโขนง และสุขุมวิท เพื่อนำไปปรับปรุงก่อนที่จะไปขายให้กับประชาชนหาเงินเข้ามูลนิธิ พบหัวเตียงที่ทำจากไม้สักแบบโบราณมีช่องลับไว้เก็บของ ซึ่งมีผู้ใจบุญโทรศัพท์ ให้ไปรับ แต่เจ้าหน้าที่จำไม่ได้ว่าไปรับจุดไหน เพราะขณะนั้นมีเตียงคล้ายๆ กันที่มีผู้บริจาคประมาณ 10 หลัง จากนั้นนำไปกองไว้ที่วัด เมื่อถูกฝนถูกแดดไม้ก็เกิดแตกร้าวขึ้น นายอำนาจ เกื้อรัมย์ เจ้าหน้าที่ของวัด ได้เข้าไปรื้อเพื่อนำเศษไม้ที่อาจจะใช้ประโยชน์ได้ ไปพบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท สร้อยคอทองคำหนัก ไม่ต่ำกว่า 8-10 บาท และพระเลี่ยมทองอีก 5 องค์ จึงมาแจ้งให้ตนทราบ ทางวัดได้รอให้เจ้าของมารับ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงความจำนงเข้ามา คาดว่า เจ้าของอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวต่อว่า นอกจากรายนี้แล้ว ทางวัดยังพบทรัพย์สินอื่นๆ อีก มีทั้งเงินสดรวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท ทองคำอีก 30-40 บาท นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน พระเครื่องอีกหลายปี๊บ ที่เจ้าของลืมทิ้งไว้ในสิ่งของที่บริจาคให้กับวัด เช่น ตู้ เตียง โดยบางรายเจ้าของนึกได้มาติดต่อขอคืนไปแล้วก็มีมากมาย ที่เหลืออยู่ทางวัดได้นำไปเก็บไว้ที่ธนาคาร โดยจะต้องแบกรับภาระเสียเงินเช่าตู้นิรภัยให้กับธนาคารปีละ 2 พันบาทอีกด้วย นอกจากทรัพย์สินต่างๆ เหล่านี้แล้ว ทางวัดยังพบลูกระเบิด อาทิ เอ็มอาร์ 2 ระเบิดมือ หัวลูกปืน ค ซึ่งเป็นของทหาร หรือตำรวจ ที่นำไปซุกซ่อนแล้วลืมไว้อีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ของวัดได้แจ้งให้กับตำรวจนำไปเก็บแล้วหลายครั้ง จึงอยากจะขอเตือนผู้ใจบุญทั้งหลาย ก่อนที่จะนำสิ่งของมาบริจาคให้กับวัด ควรตรวจสอบทรัพย์สินที่อาจจะหลง หรือซุกซ่อนอยู่ให้รอบคอบยิ่งขึ้น
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนทรัพย์สินที่เหลืออยู่ขณะนี้ ขอให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนำหลักฐานมารับได้ที่วัดสวนแก้ว อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันนี้ หากไม่มีผู้แสดงเป็นเจ้าของจะนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปบริจาคสร้างโรงพยาบาล หรือโรงเรียน โดยทำพิธีกรวดน้ำ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้ต่อไป นอกจากนี้ ขอเตือนผู้ที่หัวใสแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้ว่า อย่าทำตัวเป็นเปรตจะตกนรกหมกไหม้
วานนี้ (19 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.00 น.พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 ปี หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิวัดสวนแก้วได้ออกตระเวนรับบริจาคสิ่งของจากประชาชนผู้ใจบุญในย่านพระโขนง และสุขุมวิท เพื่อนำไปปรับปรุงก่อนที่จะไปขายให้กับประชาชนหาเงินเข้ามูลนิธิ พบหัวเตียงที่ทำจากไม้สักแบบโบราณมีช่องลับไว้เก็บของ ซึ่งมีผู้ใจบุญโทรศัพท์ ให้ไปรับ แต่เจ้าหน้าที่จำไม่ได้ว่าไปรับจุดไหน เพราะขณะนั้นมีเตียงคล้ายๆ กันที่มีผู้บริจาคประมาณ 10 หลัง จากนั้นนำไปกองไว้ที่วัด เมื่อถูกฝนถูกแดดไม้ก็เกิดแตกร้าวขึ้น นายอำนาจ เกื้อรัมย์ เจ้าหน้าที่ของวัด ได้เข้าไปรื้อเพื่อนำเศษไม้ที่อาจจะใช้ประโยชน์ได้ ไปพบเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท สร้อยคอทองคำหนัก ไม่ต่ำกว่า 8-10 บาท และพระเลี่ยมทองอีก 5 องค์ จึงมาแจ้งให้ตนทราบ ทางวัดได้รอให้เจ้าของมารับ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงความจำนงเข้ามา คาดว่า เจ้าของอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวต่อว่า นอกจากรายนี้แล้ว ทางวัดยังพบทรัพย์สินอื่นๆ อีก มีทั้งเงินสดรวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท ทองคำอีก 30-40 บาท นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน พระเครื่องอีกหลายปี๊บ ที่เจ้าของลืมทิ้งไว้ในสิ่งของที่บริจาคให้กับวัด เช่น ตู้ เตียง โดยบางรายเจ้าของนึกได้มาติดต่อขอคืนไปแล้วก็มีมากมาย ที่เหลืออยู่ทางวัดได้นำไปเก็บไว้ที่ธนาคาร โดยจะต้องแบกรับภาระเสียเงินเช่าตู้นิรภัยให้กับธนาคารปีละ 2 พันบาทอีกด้วย นอกจากทรัพย์สินต่างๆ เหล่านี้แล้ว ทางวัดยังพบลูกระเบิด อาทิ เอ็มอาร์ 2 ระเบิดมือ หัวลูกปืน ค ซึ่งเป็นของทหาร หรือตำรวจ ที่นำไปซุกซ่อนแล้วลืมไว้อีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ของวัดได้แจ้งให้กับตำรวจนำไปเก็บแล้วหลายครั้ง จึงอยากจะขอเตือนผู้ใจบุญทั้งหลาย ก่อนที่จะนำสิ่งของมาบริจาคให้กับวัด ควรตรวจสอบทรัพย์สินที่อาจจะหลง หรือซุกซ่อนอยู่ให้รอบคอบยิ่งขึ้น
เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนทรัพย์สินที่เหลืออยู่ขณะนี้ ขอให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนำหลักฐานมารับได้ที่วัดสวนแก้ว อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน นับแต่วันนี้ หากไม่มีผู้แสดงเป็นเจ้าของจะนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปบริจาคสร้างโรงพยาบาล หรือโรงเรียน โดยทำพิธีกรวดน้ำ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้ต่อไป นอกจากนี้ ขอเตือนผู้ที่หัวใสแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินเหล่านี้ว่า อย่าทำตัวเป็นเปรตจะตกนรกหมกไหม้