xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.สายศาลพร้อมนั่ง ปธ.วุฒิฯ เชื่อสรรหา-เลือกตั้งไม่แตกแยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ประสพสุข” ลั่นพร้อมนั่งประธานวุฒิฯ เชื่อ ส.ว.สรรหา-เลือกตั้งไม่แบ่งฝักฝ่าย เมินแรงกดดันจากซีกการเมือง ขอให้วางตัวเป็นกลาง มั่นใจวาระการดำรงตำแหน่งไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำหน้าที่

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ส.ว.สรรหา และอดีตประธานศาลอุทธรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ถูกคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภาว่า ตนมีความพร้อมที่จะรับการเสนอชื่อและมีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้แทนของวุฒิสภา ทั้งนี้ จากการอยู่ในวงการกฎหมายและเป็นผู้พิพากษามากว่า 30 ปี และยังเป็นกรรมการกฤษฎีกา คิดว่าน่าจะมีคุณสมบัติและพร้อมที่จะทำงานได้ เนื่องจากวุฒิสภาต้องทำงานเกี่ยวกับกฎหมายอยู่แล้ว ตนสอนกฎหมายอยู่ที่เนติบัณฑิตและจุฬาฯ คิดว่าพร้อมที่จะอาสามาเป็นประธานวุฒิฯ วุฒิสภาเป็นสภากลั่นกรองกฎหมายต้องรู้กฎหมาย และยังมีการตรวจสอบถอดถอน ซึ่งต้องมีกระบวนการที่อาศัยกระบวนการของศาล คิดว่าน่าจะอาศัยคุณสมบัติของนักกฎหมายมาทำงานได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะรับมือกับแรงกดดันทางการเมืองได้หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า คิดว่าได้ ถ้าวุฒิสภาทำหน้าที่เป็นกลาง เมื่อมีวิกฤตหรือปัญหาอะไรก็ตัดสินไปโดยไม่มีอคติ ไม่กลั่นแกล้งผู้ใด คงทำหน้าที่ได้ ซึ่งทุกคนต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วน ส.ว.ครั้งนี้มีที่มาที่แตกต่างกันจะมีวิธีการอย่างไรเพื่อไม่ทำให้เกิดความแตกแยก นายประสพสุข กล่าวว่า ส.ว.ไม่ว่าสรรหาหรือเลือกตั้งก็เป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยเหมือนกันตามรัฐธรรมนูญที่ได้เขียนไว้ ส.ว.ทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถและประสบความสำเร็จอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่า ส.ว.สรรหาหรือเลือกตั้งก็ตาม เมื่อมาทำงานร่วมกันแล้วก็สามารถมาพูดคุยทำความรู้จักและหล่อหลอมกันได้ เมื่อตั้งใจมาทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติก็คงไม่มีการแบ่งแยกกัน และคงทำงานร่วมกันได้

สำหรับกรณีที่มีการคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อจากฝั่ง ส.ว.สรรหา รวมทั้งจะมีผู้ได้รับการเสนอชื่อจากฝ่าย ส.ว.เลือกตั้ง รู้สึกหนักใจอะไรหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนไม่หวั่นไหวอะไรเลย เพราะคิดว่าเมื่อได้รับอาสามาแล้วจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด การวินิจฉัยอยู่ที่สมาชิกทั้ง 150 คน ไม่ใช่ตน ถ้าคิดว่าตนทำงานได้ก็เลือกตน ส่วนได้เตรียมการในส่วนของทีมรองประธานแล้วหรือยัง นายประสพสุข กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เตรียมการอะไร เพราะคิดว่าใครได้รับเลือกก็สามารถทำงานร่วมกันได้ สำหรับส่วนผสมของประธาน และรองประธานควรมีสัดส่วนของ ส.ว.สรรหาและเลือกตั้งหรือไม่ เพราะ ส.ว.สรรหาจะอยู่ในวาระ 3 ปี ส่วน ส.ว.เลือกตั้งอยู่ในวาระได้ถึง 6 ปี นายประสพสุข กล่าวว่า โดยหลักการ การดำรงตำแหน่งคงเป็นเช่นนั้น แต่หาก ส.ว.สรรหาและเลือกตั้งมีโอกาสทำงานร่วมกันคงจะดี รวมถึงการเปิดโอกาสให้สุภาพสตรีเข้ามาทำหน้าที่ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรื่องเกี่ยวกับเด็กและสตรีเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า สุภาพสตรีในที่นี้รวมถึง น.ส.รสนา โตสิตระกูล ด้วยหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ตนไม่ได้หมายถึงใคร พูดกว้างๆ เท่านั้นเอง ส่วนแสดงว่ามีการซาวเสียงจากเพื่อนสมาชิกมาก่อนแล้ว จึงออกมาเปิดตัวใช่หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า มีเพื่อนสมาชิกแสดงความเห็นอยากให้ตนเป็น ตนจึงรับว่าทำได้ สำหรับกรณีที่มี ส.ว.สองกลุ่ม หากมีการลงมติแล้วคะแนนออกเป็นสองกลุ่มจะทำอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า อย่ามองว่าเป็นสองกลุ่ม แล้วแต่ความเห็นเพื่อนสมาชิกที่จะเลือก ส่วนการจะเป็นกลุ่มหรือไม่คงเป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า หากเริ่มต้นการทำงานก็มีการแบ่งกลุ่มแล้ว จะมีปัญหาหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า คงไม่มีการแบ่งกลุ่ม เพียงแต่ ส.ว.ทุกคนคงมีคนอยู่ในใจว่าจะให้ใครมาทำหน้าที่ ประธานวุฒิสภาเป็นแค่ตัวแทน ไม่ได้มีอำนาจบังคับบัญชาใครได้ ส่วนได้หารือกับเพื่อนสมาชิกที่ รร.ฟอร์จูน เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.)ด้วยหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ไป เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพูดถึงคุณสมบัติของประธานวุฒิสภา โดยเบื้องต้นมองกันว่าควรมีอาวุโส เป็นนักกฎหมายมีความเด็ดเดี่ยวในการทำงาน ทั้งนี้ในการหารือมีเพื่อนสมาชิกร่วมกันหารือประมาณ 20 คน ส่วนแสดงว่าฐานเสียงมีเพียง 20 คนใช่หรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า คงไม่ได้มีแค่นั้นหรอก คงมีอีกเยอะ

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า การเป็น ส.ว.สรรหา มีกรอบเวลาการทำงานเพียง 3 ปี จะเป็นปัจจัยทำให้สมาชิกอาจไม่เลือกมาทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งคงไม่เกี่ยว หาก ส.ว.สรรหาทำงานดีในช่วง 3 ปี ก็สามารถได้รับเลือกกลับมาทำหน้าที่อีก โดยในวาระที่ 2 ส.ว.สรรหาสามารถอยู่ได้ถึง 9 ปี ไม่ใช่ 6 ปี เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไว้ ดังนั้น หากได้กลับเข้ามาก็ถือว่ามีวาระที่นานกว่า ส.ว.เลือกตั้ง จึงต้องพยายามทำดีเพื่อให้ได้กลับมาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น