“พลังแม้ว” ชักลอยแพน้าหมัก โยกย้าย ขรก.ตามอำเภอใจ ไม่ขอคำปรึกษา ลั่นไม่ใช่ทนายที่จะต้องแก้ต่างให้ทุกเรื่อง ไม่รับปากแอ่นอกรับกู้หน้าสร้างภาพให้ทุกเรื่อง
วันนี้ (3 มี.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่วิปรัฐบาลมีมติให้ชี้แจงการโยกย้ายข้าราชการต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ ว่า มติวิปไม่ได้ระบุให้ตนเป็นผู้ชี้แจงการโยกย้ายข้าราชการ หากฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามในห้องประชุม แต่เป็นเรื่องที่ตนจะต้องชี้แจงตามรายงานรอบปีของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในเรื่องของการประเมินผลทำงานของราชการไทยต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย ซึ่งเป็นรายงานเดิมของรัฐบาลที่ผ่านมา
“วิปเพียงสนใจว่า หากมีการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมในเรื่องการโยกย้ายข้าราชการจะทำอย่างไร ผมก็บอก ว่าถ้าถามก็จะตอบ แต่ถ้าตอบไม่ได้จะว่าอะไร ไม่ใช่มีมติให้ผมชี้แจง”
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน การโยกย้ายต่างๆ ไม่ใช่เรื่องของ ก.พ.ร.โดยตรง แต่เป็นภาพของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมี พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน พ.ร.บ.ระเบียบราชการพลเรือน ก.พ.ร.ไม่เกี่ยวกับเรื่องใครจะไปใครจะย้าย เพราะประเด็นการโยกย้ายกระทรวงก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง
ทั้งนี้ กรณีที่ ครม.มีมติให้ นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ อย.และมีการทูลเกล้าฯแล้วหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แม้ตนจะกำกับดูแลสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) “การโยกย้ายจะต้องทำเรื่องมายัง สลค.แต่จะให้ผมไปทราบทุกเรื่องได้อย่างไร โดยเฉพาะกระบวนการระงับต่างๆ ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน”
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน กรณีที่ผู้ถูกโยกย้ายจะฟ้องร้องนั้น ผู้เกี่ยวข้องก็จะต้องเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หรือกรณีการโยกย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ก็เป็นเรื่องของคนที่เกี่ยวข้อง จะให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดูหมดก็ตาย เพราะตอนโยกย้ายก็ไม่มีการมาถามตน
“แม้ผมจะกำกับดูแลกฎหมายของรัฐบาล ก็ไม่ได้ดูแลว่าใครจะถูกฟ้องบ้าง ใครถูกฟ้องต้องผ่านผมหมดเป็นอย่างนั้นผมก็ตาย ผู้ที่ถูกฟ้องร้องก็ต้องไปชี้แจงเอง โดยเขาก็จะมีฝ่ายกฎหมายของเขา นิติกรของเขาต่อเหตุผลนั้น เทียบเคียงกับการโยกย้าย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.ที่ถูกย้ายในรัฐบาลที่แล้วที่เขาฟ้องนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี (สลน.) ก็ส่งฝ่ายกฎหมายไปชี้แจงเหตุความจำเป็น ท้ายสุดก็เป็นเช่นนี้”
นายชูศักดิ์ ระบุว่า ตนแม้จะดูกฎหมายของรัฐบาล ก็ดูแค่กฎหมายที่ควรจะแก้ไข กฎหมายใหม่ที่ยืนยัน หรือกฎหมายของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะตนไม่ใช่ทนายที่จะต้องแก้ไขให้กับแต่ละกระทรวง
“ผมไม่ใช่ทนายที่จะต้องไปดีเฟนท์ให้กับทุกกระทรวง” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
