“หมัก” โวไอเดีย “บ้านจัดสรร” ช่วยครูนับแสนล้างหนี้นอกระบบ

“สมัคร” เผยข้อมูลครู 6-7 แสนรายยังอมทุกข์เพราะเป็นหนี้นอกระบบ แนะทำวิจัยสืบหาต้นตอ ก่อนโวใช้ “ระบบบ้านจัดสรร” เป็นต้นแบบแก้ปัญหาให้ข้าราชการ พร้อมดึงธนาคารรัฐทำธุรกิจ โดยผ่อนชำระหนี้แทนประชาชน

วานนี้ (3 มี.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ถึงเรื่อง “ความทุกข์เพราะเป็นหนี้ และวิธีแก้ทุกข์” ว่าจะพูดถึงเรื่องคนมีหนี้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญญาใช้หนี้ได้ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นหนี้อย่างอื่นก็ขอเอาไว้ก่อน โดยระบุถึงผู้ที่เป็นหนี้โดยเฉพาะข้าราชการว่า เมื่อเป็นหนี้แล้วเชื่อว่าต้องเป็นทุกข์ ฉะนั้นการเป็นทุกข์เพราะเป็นหนี้ โดยเฉพาะข้าราชการครู 6-7 แสนคน เป็นหนี้สารพัดทั้งด้วยความพลาดความพลั้ง เช่น ต้องไปรับผิดชอบแทนเขา หรือบางคนก็ไปเป็นนายหน้า

นายสมัคร ยกตัวอย่างว่า พฤติกรรมการให้กู้ของเจ้าหนี้ที่ร้ายกาจ โดยเฉพาะลูกหนี้ที่พร้อมจะใช้คืนได้ เช่น หนี้ร้อยละ 10 เมื่อกู้ไป 8 หมื่นบาทในวันศุกร์ พอวันจันทร์ก็ต้องมาคืนหนี้ หากไม่ใช้ก็อาจจะถึงตาย เพราะคนเป็นข้าราชการจะเสียทั้งตำแหน่ง และเงินเดือน เมื่อธนาคารไม่ให้กู้ ก็ต้องไปกู้นอกระบบกับคุณนายกับเถ้าแก่ ต้องไปนั่งกราบเท้า กราบอะไรบ้าง พับเพียบกราบ ก็แล้วแต่ตกลง

“หากไม่มีอะไรค้ำ เริ่มต้นเขาให้ทำสัญญากู้ เซ็นสัญญากู้ 80,000 ดอกเบี้ยตามกฎหมาย แต่ความจริงเขาเอาร้อยละ 10 แล้วทำอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเช็คร้ายกาจ เขาจะเขียนเช็ค 1 ใบ 80,000 บาท ไม่ลงวันที่ ให้เจ้าหนี้ถือไว้ และเขียนเช็คลงวันที่ทุกอัน ถ้า 10 เดือนจ่ายก็นั่นหละต้นไปแล้ว หรือถ้าสมุดเช็คไม่มี ก็หาเงิน 10,000 บาทไปเปิดบัญชี เสร็จแล้วก็ได้เช็คมาถึงเขียนเช็คเริ่ม 1 ใบฉีกไปเลย 80,000 ใบละ 8,000 ให้เจ้าหนี้ สัญญากู้อีก จะเอาอะไรให้หมด เขาเอากันอย่างนี้ทั้งนั้น เมื่อเป็นหนี้ก็พอกกันไปพอกกันมา เสร็จแล้วก็กู้อันนี้ไปใช้อันนี้ เผลอประเดี๋ยวเดียวพอกไปพอกมา แล้วจะทำอย่างไร ร้อยละ 10 อีกทีก็ร้อยละ 5” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวถึงแนวความคิดที่ตั้งชื่อไว้แล้วว่า “ทุกข์เพราะเป็นหนี้ และวิธีแก้ทุกข์” แก้ปัญหาเฉพาะผู้ที่มีเงินเดือนเท่านั้นก่อน โดยเฉพาะครูที่มีเงินเดือน 1-3 หมื่นบาท และเมื่อครูมีหนี้เป็นเงินหมื่นเงินแสน อยากจะให้ทำวิจัยจริงๆ ว่าครูที่บอกว่าเป็นหนี้นั้น เป็นหนี้เพราะอะไร และอย่างไร เอาลูกไปเข้าโรงเรียนเสียแปะเจี๊ยเขาหรืออย่างไร หรือเอาไปทำอะไร วันหลังคุณครูสักคนหนึ่งที่เป็นหนี้เยอะๆ เขียนจดหมายส่งมาให้อ่านว่าเป็นหนี้ได้อย่างไร ครู 6–7 แสนคนเป็นหนี้ เมื่อเป็นหนี้แล้วเป็นอย่างไร เงินเดือนออกก็ต้องใช้หนี้ ไม่สอน ต้องลา คนเป็นหนี้หนีเจ้าหนี้ หนีสิ้นเดือน ผลัดเขาสิ้นเดือนๆ มาเอา เงินเดือนออกเปิดหายหนีไปแล้ว

“คนอื่นไม่เท่าไร แต่คนสอนหนังสือแล้วมีหนี้อยู่จะสอนหนังสือเด็กได้อย่างไร ไม่ว่าชายหรือหญิง สอนหนังสือเด็กแต่ว่าเจ้าหนี้มารอ วันเงินเดือนออกก็หนีไป 1 วันแล้ว แต่วันอื่นจะต้องไปหาเงินใช้เขา หนังสือจะสอนต้องทำอย่างไร ไหนจะเรื่องที่ครอบครัวอีก ทุกข์ไหมครับ เพราะฉะนั้นก็คิดกันให้ฟังง่ายๆ ท่านที่อยู่แวดวงคุมการเงินอย่าเพิ่งหัวเราะนะครับ คนที่เขาใช้หนี้จ่ายหนี้ได้ เพราะเหตุว่ามีระบบ” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร ยังเสนอนำประเด็น “บ้านจัดสรร” มาเป็นตัวอย่างเพื่อแก้ปัญหาหนี้ข้าราชการ โดยชื่นชมระบบจัดสรรว่า เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการผ่อนชำหนี้ที่อยู่อาศัย เช่น ตัวอย่างที่เขามีเงิน 80,000 บาท เอามาดาวน์ที่ระบบบ้านจัดสรร แล้วก็ผ่อนชำระเดือนละ 2,310 บาท 10 ปี ได้ที่อยู่ 108 ตารางวา มีเงินดาวน์เงินเดือนแล้วก็ผ่อนส่ง ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน

“ระบบนี้เขาเอาบ้านค้ำประกัน เอาที่ค้ำประกัน ระบบจัดสรรเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด คือ ผ่อนชำระทั้งต้นทั้งดอก ระบบผ่อนชำระทั้งต้นทั้งดอกนี่ละครับ ระบบบ้านจัดสรรที่ทำกันมา ทำให้คนเราสามารถที่ว่ามีเงินเดือนรวมกัน สามีภรรยาแต่งงานกันแล้วมีเงินเดือน 20,000 ผ่อนบ้านเดือนละ 4,000 บาท อย่างนี้พอไหว ลูกเต้ายังไม่มี ผ่อนไป 4,000 บาท นี่คือระบบ เขาให้ผ่อน 20,000 ซึ่ง 25 เปอร์เซ็นต์ คือ 5,000 ผ่อนได้ 4,000 ก็ดี นี่คือตัวอย่าง เอาบ้านค้ำประกันแล้วก็ผ่อนชำระ” นายกฯ ระบุ

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอแนะนำให้ภาคเอกชนช่วยสนับสนุนให้พนักงานนำหนี้เข้าระบบกับธนาคาร โดยระบบราชการหากตรวจสอบแล้วใครมีหนี้ หรือเป็นหนี้จริงรายเดียว สองราย สุดแท้แต่ ซึ่งถ้าจะช่วยกันจริงๆ ก็เก็บมาให้หมด จะเสียเท่าไรมีดอกเบี้ย ก็ตกลงเป็นอันว่าเอามารวมก้อนเดียว เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เอาเงินเดือนค้ำ ถ้าอายุสมมติว่า 15 ปี หากอายุ 45 ปีค้ำด้วยตัวเอง หรือใช้เงินเดือนตัวเองค้ำเลย ให้เขามาหักไปเลย 1,065 บาท หนี้ 80,000 สามารถหมดภายใน 15 ปี ถ้าไม่พอก็เอาลูกมาช่วยค้ำ เอาญาติมาค้ำ สุดแท้แต่ นี่คือระบบราชการซึ่งทำได้แน่นอน

“ขอให้ธนาคารรัฐช่วยแก้ทุกข์ในการผ่อนชำระหนี้ของประชาชน ผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้เชี่ยวชาญให้ดูตัวเลขที่เปลี่ยนแปลง เพราะเดิมทีเงินกู้ 80,000 บาท 15 ปี จ่ายเดือนละ 1,065 บาท เดี๋ยวนี้ถ้าหากว่า 8 เปอร์เซ็นต์ 15 ปี เงิน 80,000 บาท จ่าย 750 บาท เห็นไหมครับ ทำได้แน่นอน ช่วยแก้ทุกข์ได้ทันทีถ้าใครช่วยจัดการให้ 10 ปีร้อยละ 8 ถ้า 10 ปีจ่าย 1,200 ดีไหมครับ 10 ปีจ่าย 1,200 ถ้าเวลาสั้นหน่อยเหลือ 5 ปี ก็จ่าย 1,700 ซึ่งเวลา 5 ปี เพียง 60 เดือนเท่านั้นเองครับ จ่าย 1,700 ดอกเบี้ยเงินกู้เวลานี้เพียงร้อยละ 8” นายกฯ ระบุ

นายสมัคร กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นถ้าแก้ทุกข์กันได้ ก็ขอให้ช่วยกันแก้ ซึ่งแก้ได้แน่นอนโดยเอาเงินเดือนค้ำ ใครมีหนี้เอาหนี้มารวมไว้ให้เสร็จเรียบร้อย ธนาคารไหน หรือธนาคารเอกชนไม่อยากทำ ธนาคารรัฐบาลก็น่าจะต้องช่วยดูแล เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอะไรต่างๆ ถ้าจะทำธุรกิจไม่มีอะไรเสียหาย เพราะเงินเดือนเขาค้ำอยู่