xs
xsm
sm
md
lg

“หมัก” ไม่สำนึก จวกสื่อ “บ้าหรือเปล่า” เหิมเด้ง ขรก.สนุกมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สมัคร” ไม่ลดราวาศอก ใช้สื่อรัฐระบายอารมณ์จวกสื่อ “บ้ากันหรือเปล่า” เสี้ยมเขาชน “นายใหญ่” ไร้เหตุผล ยืดอกรับประกันความชอบธรรม ยัน 1 สัปดาห์ เด้ง 4 ขรก.ถือเป็นเรื่องเล็กน้อย

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ สนทนาประสาสมัคร


วันนี้ (2 มี.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาตามประสาสมัครทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ว่า บ้านเมืองนี้แปลกเพราะสื่อมวลชนผิดเพี้ยนรายงานข่าวแบบเสี้ยมให้ชนกัน พร้อมยกตัวอย่างกรณีวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศเพื่อมาขี้นศาลต่อสู้ทางคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ไปรายงานว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงกลับมาแล้ว ทั้งคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์รายงานกันยกใหญ่ จะบ้าหรือเปล่า ความจริงรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้ง ตนดูแลพรรคพลังประชาชนมาตั้งแต่ต้น ทุกอย่างเรียบร้อยดี และต้องบริหารกันไปอีก 4 ปี ดังนั้น การโยกย้ายข้าราชการระดับสูง ไปแค่ 4 คน ใน 1 สัปดาห์ จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา เพื่อให้การบริหารงานราบรื่น นอกจากนี้ยังได้กล่าวตำหนิสื่อมวลชนบางฉบับที่เคยระบุว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งโผคณะรัฐมนตรีว่าไม่จริง เพราะทุกตำแหน่งตนได้จัดวางบุคคลมากับมือ และยืนยันว่าในช่วงนี้ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด

นายสมัคร ยังได้กล่าวในโอกาสไปเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากลาวมั่นคงเราก็มั่งคงเพราะสถานภาพการลงทุนใกล้เคียงกันวันนี้ ไทยลงทุนด้านเหมืองแร่เหล็กมากที่สุดวันนี้ราคาพุ่งไปถึง กก.ละ 32 บาท สุดท้ายก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องเดินทางไปชมตลาด โดยมี รมต.เกษตรและป่าไม้มาทำหน้าที่มให้การต้องมาต้อนรับ แต่ภาพรวมก็เหมือนกับตลาดไทยทั้งด้านชนิดและราคาสินค้า

รายละเอียด คำต่อคำ"หมัก"บริภาษสื่อ

"ผมก็อยากจะบอกให้ฟังนิดหนึ่งเรื่องของภาคที่ 2 การแสดงความคิดเห็น คือเรื่องการแสดงความคิดเห็นอะไรต่างๆ นี่ มันก็พอแสดงได้แต่บางครั้งแสดงกันผมคิดว่าไม่เข้าใจ บอกว่าสมัครตบะแตก ตบะแตกแล้วจะไปรับเงิน 50,000 ได้ที่ไหน ผมบอกให้ฟังว่าวันที่ผมถามย้ำผมไม่ได้ตบะแตกแล้ว วันที่ผมจะไปที่สุวรรณภูมิ ก็ถามผมเรื่องนายกฯ สองคน นายกฯ ซ้อน หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ทำเก้าอี้นายกทักษิณนั่งข้างผม นั่งเบียด อะไรต่างๆ ประหลาด วันอดีตนายกฯ กลับมา ก็กลับมาผมยินดีไหม ผมก็บอกว่ายินดี กลับมาขึ้นศาลท่านบอกว่ากลับมาขึ้นศาล คนไปรับมาก บอกว่าไปรับมากจะมีปัญหา รับน้อยหน่อยก็ดีปลอดภัยดี ก็ไปรับกันพอสมควร พองดงาม

ก็จบทุกอย่างได้ดี ก็ท่านขึ้นศาล ศาลก็ได้กรุณาก็ให้จัดการเรื่องมีการประกัน เสร็จเรียบร้อยหมดกลับสู่สถานะปกติ แต่ท่านพวกรายงานข่าวไม่ปกติครับ วิพากษ์ วิจารณ์กัน ผมเห็นสมควรต้องพูดกันตรงนี้หน่อยว่า ความจริงนายกรัฐมนตรี ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีท่านก็ไม่ได้มายุ่งอะไร ท่านบอกว่าท่านไม่ยุ่งท่านไม่เกี่ยวท่าน ท่านบอกว่า ท่านเลิกแล้ว ผมก็จะทำหน้าที่ของผม

เสี้ยมกันจริง เสี้ยมกันเลยอย่างโน้นอย่างนี้ ท่านอดีตนายกฯ มานายกฯ ปัจจุบันเดินเหมือนคนแก่ ผมถึงต้องย้อนไปอบรมกันนิดหน่อยว่า อะไรกันคุณคิดได้แค่นี้หรือ ผมย้ำสัก 5 หนว่าคุณคิดได้แค่นี้ อะไรไม่เห็น ทุกอย่างมันเสร็จ เข้าที่จะเอกกันท่าเดียว

ที่ประหลาดที่สุดก็คือว่าเหตุที่นายกฯ กลับ เพราะว่าพรรคพลังประชาชน ที่ผมดูอยู่นี่ เกิดความแตกแยกนายสมัครเอาไม่อยู่ต้องตามอดีตนายกฯ มาถึงจะเอาอยู่ คิดอะไรกันไม่เข้าท่าเลย จะอยู่หรือไม่อยู่อย่างไร ผมก็อยู่กันมาอย่างนี้ ผมอยู่กันเรียบร้อย ครม.เก่าอยู่มาเกือบเดือน แต่ว่าเรามี 21 คน ไม่ได้นั่งพูดจากันเลยว่าจะเอาอย่างไรยังไง

ผมบอกว่าวันก่อนจะไป.ก็มาซักซ้อมกันหน่อย หมายความว่า มากินข้าวกันตอนเย็น จะเอาเดือนละหนแปลว่าถอดเสื้อนอกเลย เป็นใครก็ถอดได้นั่งสั่งอาหารมากิน 6 โมงเย็น 2 ทุ่มเลิก ก็คุยกันก็ได้ประโยชน์ครับ ผมกันปรับทุกข์ปรับร้อนว่าใครเป็นอะไร ทางกระทรวงเกษตร ทางกระทรวงสาธารณสุข

ไม่น่าเชื่อ เขาบอกว่ากระทรวงเกษตรบอกเลี้ยงหมูเลี้ยงอะไรบอกแทบแย่ส่งมา พอฆ่าขึ้นเขียงปั๊บไปสาธารณสุข เขาก็พูดกันหัวเราะ พูดจากันเรื่องปุ๋ย คุยกันเรื่องปุ๋ย เรื่องรัฐมนตรี คุยให้ฟังก่อนจะอภิปรายกันในสภา ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ ดีนะครับ ผมได้รับรู้เรื่องอะไรต่ออะไรเยอะแยะ แต่ว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีเขารู้เรื่องปุ๋ยเขาก็พากัน ให้รัฐมนตรีฟังว่ามันเป็นอย่างนี้ๆ

พอเสร็จก็คุยกันดี ก่อหน้านั้นว่าไง คนนั้นๆ ภรรยาท่านอดีตท่านนายกฯ สั่งให้มีการประชุม ครม.จะปรับ ครม. ผมว่าคนออกข่าว ออกตัววิ่งตัวโทรทัศน์ ไม่บอกช่องเดี๋ยวท่านจะว่า สั่งเลยจะให้ปรับ ครม. ต้องใช้คำว่าบ้าหรือเปล่าๆ ตั้ง ครม.มาเดือนหนึ่งภรรยาอดีตท่านนายกฯ สั่งให้เรียกประชุมเพื่อจะปรับ ครม.อย่างนี้

ผมต้องตำหนิผมไม่มีการเก็บไว้ จะได้เป็นบทเรียนว่าออกข่าวอะไรกันแบบนี้ ออกข่าวอะไรกันไม่เข้าท่าอย่างนี้ ประหลาดตรงที่ว่าผมทำหน้าที่ของผมถูกต้อง ผมก็ตัดสินใจดำเนินการทั้งสองท่านก็ไม่ได้เกี่ยวทั้งท่านอดีตนายกรัฐมนตรีก็พูดย้ำให้เข้าใจ ท่านระมัดระวังรักษา ผมก็ระมัดระวังรักษาท่าทีของผมทำหน้าที่ของผม

ทหารก็ยังระมัดระวัง ทหารบอกว่ารัฐบาลไม่เคยออกปากขอแรง ใครจะดูแลอย่างไรเขาก็มีหน้าที่ดูแลทั้งหมด ทุกอย่างทำหน้าที่แต่คนที่ไม่ทำหน้าที่คือบรรดาคอลัมน์ทั้งหลาย สื่อสารมวลชนบางประเภท เที่ยวถาม เที่ยวแส่และอ้างว่าต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่พูดจะได้เรื่องหรือต้องพูด ผมเป็นคน ผมไม่เก็บไว้ พูดให้เข้าใจเสียว่าอะไรเป็นอะไร จะได้ไม่พูดจาเรื่องนี้อีก ผมก็จะทำงานของผม ผมกำลังดำเนินการ.ต่างๆ เรื่องอย่างนี้ก็ขอบอกว่าได้ช่วยกรุณาชั่งน้ำหนัก

ยุคก่อนสมัยก่อนตอนมีการเปลี่ยนแปลงอันนั้นเขาเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างไร หุบปากกันหมด ไม่มากันเลยเงียบกันหมด ไม่วิพากษ์วิจารณ์ เขามาจากเลือกตั้ง มีการปรับปรุงแก้ไข พูดกันฉับๆ จะเป็นจะตาย

ไม่หรอกครับเรารู้ว่าเราขอบเขตมีแค่ไหน ทำกันได้แค่ไหน และทำอะไรกันอย่างไร ทำไมคนมาจากเลือกตั้งเป็นรัฐบาลแล้ว จะทำหน้าที่อะไรอย่างไรบ้างไม่ได้หรือครับ ที่พูดกล่าวไปทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะกลุ่มจะพรรคการเมืองอะไรต่างๆ ที่วิพากษ์วิจารณ์นะ อะไร ผมเลือกตั้งกลับมาแล้ว ทำอะไรทิ้งไว้ ผมต้องมานั่งทนอย่างนั้นหรือครับ

ถ้าอย่างนั้นต่อไปอีก 4 ปี มีคนเขาตั้งไว้ให้เสร็จ แตะต้องไม่ได้ ถ้าพวกนั้นโยกย้ายต่างๆ หุบปากไม่เคยมีวิพากษ์วิจารณ์ แต่ทำไมคนมาจากเลือกตั้งมาบริหารบ้านเมืองหยิบตรงนั้น หยิบตรงนี้ ทุกคนต้องรับผิดชอบ รัฐมนตรีนี้ท่านต้องชี้แจงว่าท่านทำตรงนั้นทำไม และรัฐมนตรีต้องชี้แจงว่าเป็นอย่างไร เวลาชี้แจงไม่ค่อยฟัง ว่ากล่าว คนนั้นนับ 1 นับ 2 นับ 3 ก็พึ่งนับได้ 4 เท่านั้นเอง

และทั้งหมดมีเท่าไหร่ แต่ก่อนนี้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ แล้วถามซิครับว่าต่างประเทศที่อเมริกาเวลาเขาเลือกตั้งนี่ เขาเลือกตั้งวันอังคารต้นเดือนพฤศจิกายน เลือกตั้งเสร็จแล้ว รู้ผลเสร็จแล้ว ก็ทิ้งไว้ทำไม ทิ้งไว้ตั้งแต่อังคารต้นเดือนพฤศจิกายนทำหน้าที่รับตำแหน่ง วันที่ 20 มกราคมปีถัดไปรวมเกือบ 2 เดือน 2 เดือนกว่าเขาทำอะไรทราบไม่ เขาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่เท่านั้น เท่านี้ออก ชุดนี้ออกๆ ชุดนี้ต้องเปลี่ยน เขาทำกันอยู่....นั้นแหละครับ

เขาทำกันมา 200 ปีแล้วแบบนั้นครับ ของเรานี่มีความเปลี่ยนแปลง 16 เดือนที่แล้ว ไม่มีใครว่าอะไรเลย พอเสร็จแล้วจะเล่าว่ามาจากการเลือกตั้งจะมาปรับปรุงหน่อย คอยปากยื่น ปากยาว ผมว่าอย่างนี้ตรงๆ ผมเป็นคนพูดจาตรงไป ตรงมา ก็ให้รู้กันไว้เท่านั้น ถ้าไม่พูดก็ไม่ว่า บอกว่าพูดทำไมจะให้เป็นคนดี แต่นี่ไม่ใช่คนเลวนะครับ นี่พูดในฐานะพูดดี

ผมแน่ใจว่าผมคิดถูกจึงได้อธิบายความให้รู้เสียว่าอะไรเป็นอะไรอย่างไร แล้วก็ต่อว่าเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่ข่าวที่บิดไปบิดมาผมต่อว่าไปแล้ว แต่ว่าจะต้องต่อว่าอีกเพราะว่าผมแถลงข่าวเมื่อวันที่ออกมานี่ ตกๆ หล่นๆ ท่านที่ดูโทรทัศน์ ก็ดีนะครับ โทรทัศน์เขาออกหมด ผมอธิบายชัดเจนเรียบร้อยหมดแต่ข่าวมาออกขัดๆ วิ่งๆ กระโดดๆ เมื่อเช้าผมมาฟังข่าว มาดูโทรทัศน์ออกข่าวเรียบร้อย แต่ว่าหนังสือพิมพ์อะไรข่าวกระโดดๆ จะว่าผมเรื่องมากไหม เสนอข่าวแบบฟังไม่สับจับไปกระเดียด

อย่างนี้คนให้สัมภาษณ์เสียหาย ผมไม่ออกรายละเอียด ไปตรวจดูก็แล้วกัน เอาข่าวโทรทัศน์มาดูว่าผมพูดว่าอย่างไร ผมแน่ใจว่าผมคบเพื่อนถูกต้อง แต่เสนอข่าวกันออกมาแล้ว.สับไปสับมาเหมือนกับว่าเวลาทำอะไรจดข่าวอะไรต่างๆ คุยกันไปคุยกันมาหรือว่าไปแลกเปลี่ยนข่าวกัน หรือไปขอข่าวใครเขามาสับสนนะครับ บอกไว้ติเพื่อก่อ ถามพูดทำไมพูดเพื่อให้ว่าต่อไปจะได้ดีขึ้น"

คลิกที่นี่! ชมรายการ"สนทนาประสาสมัคร" 2 มี.ค.51
กำลังโหลดความคิดเห็น