“จตุพร” อ้างเหตุผลพิลึก แขวะ “พันธมิตร” มาประท้วงในยุคประชาธิปไตย ตรงกันข้ามกับ นปก.ที่ประท้วงในยุคเผด็จการ พร้อมตั้งข้อสังเกต กกต.จงใจควักใบแดง “ทั่นยุทธ” ดักหน้า “นายใหญ่” กลับเมืองไทย เหมือน กรณีตำรวจจับแกนนำ นปก.ในวันเกิด “ทักษิณ”
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์รายการ “เวทีความคิด” ทางช่อง 9 อสมท เมื่อบ่ายวันที่ 29 ก.พ.ว่า กรณีที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลนั้น อยากให้พิจารณาให้ดี เพราะตนไม่ยากให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
นายจตุพร กล่าวว่า หากจะเทียบกับการเคลื่อนไหวของแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) นั้น นปก.เกิดขึ้นในยุคที่บ้านเมืองมีปัญหาไม่เป็นประชาธิปไตย แต่พันธมิตรฯ กลับยุติบทบาททันทีที่มีการรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.แล้วมาเกิดใหม่อีกครั้งในยามที่บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว
อดีต แกนนำ นปก.กล่าวอีกว่า ถ้าการเคลื่อนไหวไม่มีความชอบธรรม อยากจะบอกว่านรกมันมีจริง และขอให้ดูโพลที่ออกมาว่าประชาชนคิดถึงผลงานความดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากกว่าเรื่องคดีความ
นายจตุพร ให้ความเห็นกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติตัดสิทธิเลือกตั้งหรือให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย ว่า ทางพรรคพลังประชาชนจะต่อสู้คดีร่วมกับ นายยงยุทธ เรื่องนี้มันบอกอยู่แล้วว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะเมื่อกรรมการบริหารพรรคทำให้เกิดใบแดงแล้ว อีก 2 สัปดาห์ กกต.จะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เห็นว่าศาลฎีกาเห็นแย้งกับ กกต.
นายจตุพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ด้วยความเป็นศาล น่าจะได้ฟังหลักฐานจากนายยงยุทธ ให้ครบถ้วนก่อนที่จะตัดสินประหารชีวิตทางการเมือง แต่ถ้าศาลยืนตามมติ กกต.ทาง กกต.ก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณารยุบพรรคพลังประชาชน เช่นเดียวกับที่ทำกับพรรคชาติไทย และ พรรคมัฌชิมาธิปไตย ซึ่งยุบทั้ง 2 พรรคก็จะได้รับผลกระทบหนักพอสมควร เพราะมีกรรมการบริหารพรรคหลายคน ขณะที่พรรคพลังประชาชนมีกรรมการบริหารไม่มากนัก แต่ก็ถือว่านี่เป้นการทำลายระบบพรรค และจะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง
ในการสู้คดีใบแดง นายงยุทธ นั้น นายจตุพร กล่าวว่า จะต่อสู้เพื่อให้ศาลดูหลักฐานให้ครบถ้วน เพราะคดีนี้ถือเป็นการประหารชีวิตทางการเมือง ซึ่งมีผลกระทบมาก เหมือนกับตอนยุบพรรคไทยรักไทย ทำให้สมาชิก 14 ล้านคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้รับผลกระทบไปด้วย
“มันเป็นหนังเรื่องเก่า เหมือนเรื่อง “จำเลยรัก” จะสร้างใหม่กี่ครั้งบทก็เป็นแบบนี้ จากนี้ไปทั้งพรรคพลังประชาชน และอีก 2 พรรค ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ผมเป็นห่วงเส้นทางในอนาคต เพียงแต่ว่า ท่าน สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคท่านบอกว่าอย่าเพิ่งวิพากษ์วิจารณ์ แต่ผมก็อดเป็นห่วงไมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไม่มีการสอบพยานเพิ่ม ผมอยากรู้ว่ามีเหตุรีบร้อนอันใด จึงไม่สืบพยานให้ครบตามที่คุณยงยุทธเสนอ หรือแม้แต่การให้ใบเหลืองในเขต 3 เชียงราย มี ส.ส.2 คน แต่กลับให้ใบเหลืองคนเดียว คือ คุณละออง ติยะไพรัช น้องสาวคุณยงยุทธ แต่คุณอิทธิเดช แก้วหลวง ไม่ได้ เรื่องนี้ผมไม่ได้ยกขึ้นมาเพื่อที่จะว่าคุณอิทธิเดชที่เป็นพวกเดียวกันเอง แต่เรื่องนี้ กกต.จะต้องมีมาตรฐาน”
นายจตุพร กล่าวต่อว่า กรณีนี้เหมือนการฉายหนังม้วนเก่า ตอนที่ นปก.ชุมนุมกันอยู่หลายเดือน ไม่เห็นเป็นปัญหา แต่ไปเลือกวันจับให้ตรงกับวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือ วันที่ 26 กรกฎาคม เหมือนเป็นการจับเพื่อเป็นของขวัญวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ตอนนี้ที่ให้ใบแดงนายยงยุทธ เหมือนต้องการทำให้เห็นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม เรื่องทั้งหมดนี้ นายยงยุทธ จะไปต่อสู้ในศาลฎีกา
อนึ่ง สำหรับการเคลื่อนไหวของ นปก.นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน 2550 ก่อนที่จะถูกจับกุมหลังจากไปก่อความวุ่นวายหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 โดยมีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่และทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทำให้แกนนำทั้งหมดถูกจับกุมดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม แกนนำหลายคนได้เข้าร่วมงานในรัฐบาลชุดนี้ โดยนอกจาก นายจตุพร แล้ว ยังมี นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกรัฐบาล นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน เป็นต้น
