“เพ็ญ” สะบัดหนีพันธมิตรฯฮึ่ม จีบปากพูดไม่ใช่นักสู้ข้างถนน

“จักรภพ” เดินสายกร่าง จัดระเบียบสื่อรัฐโชว์ นำร่องกรมกร๊วกตามเคย ชี้กลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมเคลื่อนไหว อ้างไม่มีเหตุผล เผย มีคนพยายามโหมไฟให้ลุกขึ้น ลอยแพอดีตแกนกลุ่มม็อบไข่แม้ว หลังได้ดิบได้ดี ไม่ขอเกี่ยวข้อง หากมีการเผชิญหน้า เพราะไม่ใช่นักสู้ข้างถนน

วันนี้ (25 ก.พ.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เดินทางไปยังกรมประชาสัมพันธ์เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานและมอบนโยบายให้สื่อภาครัฐ จากนั้นเวลา 17.15 น.นายจักรภพ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้นโยบายกับช่อง11 ว่า 1.ช่อง 11 มีสถานีศูนย์ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ แต่ละสถานีมีการหารายได้ 3 ล้านบาทต่อเดือน และต้องส่งรายได้บางส่วนเข้ากรมประชาสัมพันธ์ด้วย ตนจึงขอให้ยกเลิกนโยบายนี้ เพื่อขอให้สร้างช่อง 11 เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ รวมทั้งจะมีการจัดตั้งทีวีกีฬา ที่ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยจะหาคลื่นความถี่ที่มีอยู่แล้วมาดำเนินการ ซึ่งจะไม่มีการเปิดคลื่นความถี่ใหม่ 2.ช่อง11 ควรมีฝ่ายข่าวของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมามักรับข่าวจากสำนักข่าวอย่างเดียว หากมีฝ่ายข่าวก็จะยกระดับการทำงานและมีศักดิ์ศรี อีกทั้งในเดือน ก.ค.2551 ประเทศไทยจะได้รับเกียรติเป็นประธานรัฐมนตรีข่าวสารอาเซียนเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง โดยตนจะทำหน้าที่ดังกล่าว ฉะนั้น ต้องมีโครงการต่างๆ มารองรับในเรื่องนี้ อีกทั้งโทรทัศน์อาเซียนต้องสำเร็จในปีนี้ 3.ระบบเทคโนโลยี ตนขอให้กรมประชาสัมพันธ์เตรียมตัวไปสู่ยุคดิจิตอล เพราะกรมประชาสัมพันธ์มีเครื่องมือที่พร้อมและทันสมัยที่สุด โดยตนให้ศึกษาระบบ WiMax ที่จะมาแทนที่ระบบ WiFi และยังเน้นว่าอย่าเพิ่งรีบซื้อเครื่องมือแบบเดิม ควรชะลอไว้ก่อน เพื่อรอระบบเทคโนโลยีทันสมัย

นายจักรภพ ยังกล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศรวมตัวชุมนุมคัดค้านการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า แม้ตนเคยเป็น นปก.แต่ตอนนั้นบ้านเมืองไม่ใช่ประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องชุมนุม แต่ตอนนี้บ้านเมืองเข้าสู่ประชาธิปไตยแล้ว รัฐบาลเพิ่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และกำลังจะทำงาน จึงเชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้จะมีพลังต้านทานและไม่ต้องมาต่อสู้บนท้องถนน อย่างไรก็ดี แม้ นปก.ขัดแย้งกับ คมช.แต่ตอนนี้ คมช.ก็สลายไปแล้ว แต่ตอนนี้มีคนจงใจโหมไฟให้ลุกโชนอีกทั้งรัฐบาลก็ไม่มีช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ แม้จะมีเชื้อเพียงก้นบุหรี่ขึ้นมาอีก ตนไม่ห่วงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้น เพราะเรามีภารกิจเยอะ และไม่จำเป็นต้องสร้างภารกิจบางอย่างที่ไม่จำเป็นขึ้นมาหรือสร้างแนวรบเพิ่ม

เมื่อถามว่า แกนนำ นปก.บางคนอาจรวมตัวต้านการชุมนุม นายจักรภพ กล่าวว่า หากมีการรวมตัวจริงไม่เกี่ยวกับรัฐบาล รวมทั้งเราไม่มีนโยบายและไม่ใช้ความรุนแรง

ถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์ว่ารุนแรงหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ใช่ ส่วนความเป็นห่วงตอนนี้ ครม.เป็นห่วงอาการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มากกว่าที่โหมทำงานหนักจนป่วย

เมื่อถามว่า พันธมิตรฯระบุชัดว่า ไม่ยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ นายจักรภพ กล่าวว่า เป็นสิทธิของคนไทยที่จะชุมนุมตามกรอบของกฎหมาย และเป็นสิทธิของคนไทยอีกคนที่มีสิทธิเดินทางกลับประเทศ ฉะนั้น เรื่องนี้ขอให้ประชาชนตัดสินโดยสื่อมวลชนต้องเสนอข่าวทั้ง 2 ด้าน และป้องกันไม่ให้ปัญหาขยายตัว

เมื่อถามว่า มองเหตุผลพันธมิตรฯ ว่าสมควรชุมนุมหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผล สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้เศรษฐกิจกำลังเดือดร้อน รัฐบาลมีเวลาทำงานน้อย หากเลือกได้ตนก็ไม่อยากให้มีปัญหาการเมืองซ้อนขึ้นมาอีก หากเลือกไม่ได้นั้นขอย้ำว่าตนยึดระบบประชาธิปไตย

ถามว่า เหตุการณ์จะบานปลายหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่บานปลาย เพราะรัฐบาลจะไม่สร้างเงื่อนไขให้เหตุการณ์บานปลาย รัฐบาลจะเร่งทำงานเพื่อให้ประชาชนพิสูจน์

ถามว่า จะมีการสนับสนุนแบบลับๆ ให้ นปก.หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า จะไม่มีการสร้างเงื่อนไขที่รุนแรง และไม่มีการใช้กลไกรัฐสนับสนุน ขอย้ำว่า ตนไม่เห็นด้วย ที่ผ่านมา นปก.ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ตอนนี้รัฐบาลก็ยึดหลักประชาธิปไตยเพื่อเยียวยาสังคม