รมว.เงายุติธรรม สวน “สมพงษ์” อ้างเหตุผลมั่วเด้ง “สุนัย” นั่ง ป.ป.ท.ฟังไม่ขึ้น จี้ตั้ง คกก.ขุดคดีค่าโง่ทางด่วน ลากคอคนทุจริตรับผิดชอบ
วันนี้ (25 ก.พ.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.เงากระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวกรณีที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม ทำการโยกย้ายนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ไปรักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. และให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองเลขาธิการปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอแทนว่า ตนยังมีความเคลือบแคลงสงสัยกับเหตุผลที่รัฐมนตรีอ้างต่อการโกย้ายครั้งนี้ และอยากเรียกร้องให้ดูแลให้ดี คือ 1.รัฐมนตรีพยายามอธิบายเรื่องความเหมาะสมของการเอา พ.ต.อ.ทวี มารักษาการอธิบดีดีเอสไอ โดยอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มากกว่า เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ 2.สำนักงาน ป.ป.ท.ที่ตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อสอบสวนคดีทุจริต ดังนั้น คนที่มาใหม่จะเชี่ยวชาญกว่าคนเดิมได้อย่างไร เพราะเมื่อมาอยู่ในหน่วยงานนี้จะต้องทำงานการสอบสวนที่มากกว่าการสอบสวนของหน้าที่ดีเอสไอด้วยซ้ำ ซึ่งหากอ้างเช่นนั้น ควรจะย้าย พ.ต.อ.ทวี ไปอยู่ ป.ป.ท.จะเหมาะสมกว่า
รมว.เงายุติธรรม กล่าวว่า คนที่เป็น รมว.ยุติธรรมต้องระวังมากที่สุด คือ เรื่องของภาพลักษณ์การใช้อำนาจ และการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะเรื่องการทำงานที่ต้องสร้างผลงานออกมาเป็นรูปธรรม ต้องทำกระทรวงยุติธรรมให้เป็นกระทรวงของสังคม พึ่งพาได้ในเรื่องของความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายสุนัยถูกเด้งเป็นเพราะทำคดีเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า นายสุนัยได้รับผิดชอบหลายคดี ทั้งเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และคนใกล้ชิด รวมถึงบางส่วนที่ไมได้เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นจะต้องระวัง เพราะการกระทำอะไรอาจจะถูกมองในแง่ลบและอาจก่อให้เกิดความเสียหาย เพราะกรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา ทำอะไรต้องอธิบายได้
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ตนขอฝากรัฐมนตรีทำงานในหลายเรื่องโดยเฉพาะคดีสำคัญเช่น คดีค่าโง่ทางด่วนบางนา-บางพลี-บางปะกง มูลค่า 6,200 ล้านบาท ที่ศาลฎีกาตัดสินออกมาเมื่อต้นปี 2550 ระบุว่าเชื่อว่าความผิดนั้นมูลฐานจากการกระทำผิดและทุจริต จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนหาคนผิดมารับโทษ ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าตนจะไปยื่นหนังสือให้กับ รมว.ยุติธรรมเพื่อให้สอบคดีนี้ โดยต้องการให้กระทรวงยุติธรรมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโดยเฉพาะ และหากรัฐมนตรียังไม่ดำเนินการใดๆ ถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะตรวจสอบควบคู่ไปกับคณะกรรมการชุดนี้ โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วย