xs
xsm
sm
md
lg

“พปช.อีสาน” สุดทน! ทวงโควตา-บีบ “หมัก” เพิ่มเก้าอี้ ปธ.กมธ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลุ่ม ส.ส.อีสาน นัดถกเก้าอี้ ปธ.กมธ.จันทร์นี้ จี้ “สมัคร” ดูแลเพิ่มตำแหน่งสำคัญให้เป็นธรรม พร้อมส่ง “เนวิน” คุมเกมดึงโควตา 4 พรรคร่วม ขณะที่ “พปช.เหนือ-กลาง” คึกคักแบ่งเค้กกันคึกคัก “รณฤทธิชัย-ไชยยศ” ตีคู่นั่ง ปธ. ขณะที่ “ฐานิสร์-สรวงค์” จ่อนั่ง ปธ.กมธ.กีฬา

วานนี้ (22 ก.พ.) แหล่งข่าวจาก กลุ่ม ส.ส.ภาคอีสาน พรรคพลังประชาชน เปิดเผยภายหลังจากที่ประชุมตัวแทนพรรคการเมืองได้มีมติการพิจารณากำหนดเลือกคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 32 คณะเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชนได้ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ 14 คณะ โดยมีการแบ่งสัดส่วนในพรรค ซึ่งภาคอีสานได้ 7 คณะ ภาคเหนือได้ 3 คณะ ภาคกลาง 3 คณะ และภาค กทม.ได้ 1 คณะ จากการพูดคุยกันของกลุ่ม ส.ส.อีสาน

“เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มภาคอีสานได้สัดส่วนโดยจะพิจารณายึดหลักเกณฑ์ ความรู้ ความสามารถ และมีความอาวุโสที่เคยเป็น ส.ส. 3 สมัย ซึ่ง ส.ส.ภาคอีสานจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดให้เกิดปัญหา แต่เบื้องต้นได้นัดประชุมหารือเพื่อคัดเลือกบุคคลในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.นี้ เพื่อให้ได้ข้อสรุป เพื่อนำมติเข้าเสนอในทีประชุมพรรคในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ก่อนเสนอรายชื่อผู้ที่จะเป็นกรรมาธิการในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 27 ก.พ.นี้ เพื่อมีมติเห็นชอบต่อไป” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่ม ส.ส.อีสาน 40 คน ได้เคยเข้าไปพูดคุยกับนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ได้ทำความเข้าใจในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีที่ภาคอีสานได้สัดส่วนน้อย รวมถึงได้รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณาเรื่องตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ เพราะที่ผ่านมาในการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาฯ และที่ปรึกษา รมต. ผู้ที่เป็น ส.ส.ถูกกฎหมายห้ามไว้ว่าไม่สามารถไปดำรงตำแหน่งได้ ทำให้เปิดโอกาสนำอดีต ส.ส. และอดีตผู้สมัครในภาค กทม.และภาคกลาง เข้าดำรงตำแหน่งไปกันหมดแล้ว แต่ภาคอีสานซึ่งเป็นฐานเสียงหลัก เพราะมี ส.ส.จำนวนมาก ควรดูแลให้เหมาะสมให้เกิดความเป็นธรรมด้วย ไม่ใช่ดูตามสัดส่วนอย่างเดียว

สำหรับคณะกรรมาธิการที่ กลุ่ม ส.ส.ภาคอีสาน มีความต้องการที่จะเป็นประธาน กมธ. อาทิ กมธ.กิจการสภาผู้แทนฯ, กมธ.คมนาคม,กมธ.แรงงาน, กมธ.ปกครองส่วนท้องถิ่น, กมธ.การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นต้น โดยผู้ที่เสนอตัวจะมาเป็นประธานฯ อาทิ นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ส.ส.บุรีรัมย์

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการจัดสรรของภาคอีสาน ได้ส่งให้นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เข้ามาช่วยดู รวมทั้งนายทรงศักดิ์ ทองศรี ประธานคณะกรรมการประสานงานภาคอีสาน ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิดนายเนวิน ช่วยดูแล แต่ที่เป็นปัญหาคือ รายชื่อที่เสนอเข้ามามีจำนวนมากกว่าตำแหน่งที่ได้รับโควตา จึงยื่นข้อเสนอให้นายเนวิน ประสานเพื่อเจรจาดึงโควตาจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 4 พรรค ให้เป็นของภาคอีสาน โดยอ้างเหตุผลว่า พรรคขนาดเล็กได้ ส.ส.มาน้อย และได้ตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้ว อีกทั้งยังได้ตำแหน่งเลขาฯ และที่ปรึกษา รมต.

นอกจากนี้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนบางส่วนรู้สึกไม่ค่อยพอใจกับการเลือกคณะกรรมาธิการ แม้ว่าจะได้ในคณะที่ตรงกับการบริหารแต่ละกระทรวงของรัฐบาล เพราะคณะกรรมาธิการหลักๆ กลับไปอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล แต่พรรคพลังประชาชนที่ได้เสียงข้างมาก กลับต้องยอมรับเงื่อนไขพรรคร่วมรัฐบาล โดยบางคนต้องการเข้าไปดูแลคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจเพราะเกี่ยวกับปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อน และผลผลิตทางการเกษตรส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นในกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ ได้แนวคิดจะจองเก้าอี้ประธานกรรมาธิการ อาทิ กมธ.คมนาคม,กมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด และ กมธ.ต่างประเทศ ซึ่งล่าสุด ได้มี ส.ส.กว่า 10 คน แสดงความจำนงที่จะเป็นประธาน เช่น นายสุรพล เกียรติไชยากร ส.ส.เชียงใหม่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ เป็นต้น ทั้งที่มีโควตาเพียง 3 ตำแหน่ง ทำให้ทางกลุ่มภาคเหนือได้นัดประชุมในช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.พ.นี้ โดยยึดหลักเกณฑ์พิจารณาจาก ส.ส.ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง และคำนึงถึงความอาวุโส

ขณะที่ กลุ่มภาคกลาง มีแนวโน้มได้ว่าจะตำแหน่งประธาน กมธ.สาธารณสุข กมธ.,การทหาร,กมธ.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่มีบุคคลที่อยู่ในข่ายได้รับการเสนอชื่อ เช่น พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา นายประเสริฐชัยกิจ เด่นนภาลัย ส.ส.สมุทรปราการ เป็นต้น ส่วนภาค กทม.มีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.

ส่วนโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้โควตาในตำแหน่งประธานกรรมาธิการ 2 คณะ คือ กมธ.สื่อสารและโทรคมนาคม กับ กมธ.การอุตสาหกรรมนั้น เบื้องต้น มีบุคคล 2 คนที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการเสนอให้ดำรงตำแหน่ง คือ นายไชยยศ จิระเมธากร ส.ส.สัดส่วน รองหัวหน้าพรรคฯ กับนายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร ส่วนจะเป็นตำแหน่งใดยังไม่มีข้อสรุป แต่มีแนวโน้มสูงที่นายรณฤทธิชัย จะไปเป็นประธาน กมธ.การอุตสาหกรรม แต่ต้องรอการหารือกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค และทางพรรคอีกครั้ง เพื่อความเหมาะสม เพราะในส่วนของนายไชยยศ เดิมถูกวางให้จะเป็นเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม แต่เมื่อไม่สามารถเป็นได้ ก็ต้องมาทำงานในสภา

ในส่วนของพรรคประชาราชที่ได้ 1 คณะ ในตำแหน่งประธาน กมธ.การกีฬา นั้น เป็นโควตาที่พรรคพลังประชาชน เอื้ออาทรเกลี่ยให้ ตามที่เคยได้มีข้อตกลงกันไว้ โดยมีเพียง 2 คนที่คาดว่าจะมาดำรงตำแหน่ง คือ นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และนาย สรวงค์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว ซึ่งรอการประชุมหารือก่อนเสนอรายชื่อต่อที่ประชุมสภาต่อไป

ด้าน นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานเหนือ กล่าวถึงกรจัดสรรโควตาประธาน กมธ.สามัญประจำสภาฯ ว่า ก่อนที่จะมีการประชุมวิปทุกพรรคการเมืองวันนี้ เบื้องต้นได้แบ่งสัดส่วนให้แต่ละพรรคไปแล้ว ทั้งนี้ภาคอีสานได้หารือกับผู้ใหญ่ ซึ่งตน และ ส.ส.ส่วนใหญ่ ได้แสดงความเห็นต่อการจัดสรรโควตาในพรรคว่า ภาคอีสานถือว่ามี ส.ส.ที่ได้การเลือกตั้งเข้ามาจำนวนมาก จึงถือเป็นฐานที่มั่นใหญ่ของพรรค แต่ปรากฏว่าภาคอีสานกลับได้รับตำแหน่งทางการเมืองน้อย โดยรัฐมนตรี 4 ตำแหน่ง เลขานุการ และที่ปรึกษารัฐมนตรีเพียง 6 ตำแหน่ง

“แม้ว่าตำแหน่งนี้ไม่มีอำนาจอะไร เมื่อเทียบกับตำแหน่งอื่น แต่ถือเป็นตำแหน่งที่มีความก้าวหน้าทางหน้าที่การเมืองของ ส.ส. ที่จะทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ และหลังจากวิปมีมติออกมา แต่ละภาคจะต้องไปหารือว่าจะได้ตำแหน่งเท่าไหร่ ซึ่งเบื้องต้นมีการแบ่งไปแล้ว แต่ยังไม่ชัดเจน คงต้องให้ผู้ใหญ่มาพิจารณาชี้ขาดอีกครั้ง” นายไพจิต กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น