“หมอเลี้ยบ” ไม่ปริปากพูด “หมัก” บิดเบือน อ้างมุมมอง นศ.กับผู้นำสมัย 6 ตุลาฯ ต่างกัน หนุนชำระประวัติศาสตร์โดยเร็วหาคนผิด ย้ำหากผิดต้องขอโทษ เตือนอย่านำมาเป็นประโยชน์ทางการเมือง-ควรหยิบยกในทางสร้างสรรค์ไม่ใช่สร้างปัญหา
วานนี้ ( 22 ก.พ.) น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเรื่อง 6 ตุลาฯ ว่า ตนเคยแสดงความเห็นไว้แล้วกรณีดังกล่าวว่าเป็นกรณีเศร้าสลด เป็นบาดแผลของทุกคน และไม่อยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทย สภาพเหตุการณ์อาจจะยังไม่พูดถึงในปัจจุบันว่าเกิดอะไรขึ้น โดยในช่วงเย็นของวันที่ 5 ตุลาฯ ถึงเช้ามืดวันที่ 6 ตุลาฯ ตนเป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ก็รับรู้ข้อมูลจากมุมมองของนักศึกษา ซึ่งเราประสงค์อยากเห็นข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ใดๆ ที่จะนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาอย่างนี้เกิดขึ้นอีกในสังคมไทย อะไรที่เรียนรู้ว่าเป็นข้อผิดพลาด ก็ต้องไม่ให้ข้อผิดพลาดเหล่านั้นเกิดขึ้นอีก
“กรณี 6 ตุลาฯ วันนี้ ผมอ่านงานวิจัยของเอแบคโพล เห็นชัดเจนว่าประชนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ประสงค์ให้มีการชำระประวัติศาสตร์ แต่ผมมองว่าการเก็บข้อมูลเป็นเรื่องที่ดี และนำมาเป็นบทเรียน แต่ก็สะท้อนว่าประชาชนจำนวนหนึ่งเขาเบื่อหน่ายต่อความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการรวมใจกันแก้ปัญหาของประเทศชาติในปัจจุบัน ขอเรียนว่ากรณี 6 ตุลาฯ หากจะมีการหยิบยกกันขึ้นมาต่อจากนี้ ก็น่าจะเป็นแบบสร้างสรรค์ เพื่อเป็นบทเรียน และป้องกันการสร้างปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหาใหม่”น.พ.สุรพงษ์ กล่าว
ส่วนสาเหตุที่ระบุว่า เกิดจากการบิดเบือน และรัฐบาลก็ไม่ยอมรับว่าบิดเบือนจริงหรือไม่นั้น น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า กรณี 6 ตุลาฯ ขึ้นอยู่กับว่ามองในมุมมองไหน มุมมองนักศึกษาก็เป็นมุมมองหนึ่งอาจจะไม่ครบถ้วนทั้งหมด ข้อมูลผู้เสียชีวิตที่ตนรับทราบ ก็แตกต่างจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ทราบ ขณะเดียวกันข้อมูลที่นายกฯ มี เราเองก็ไม่มีโอกาสรับรู้ ถ้าจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ก็ต้องทำใจให้เป็นกลาง และมีสติ โดยเก็บข้อมูลทั้งหมดทุกด้าน แล้วมาดูว่าใครทำผิดตรงไหนบ้าง ตนเชื่อว่าเหตุการณ์นั้นไม่มีคนผิดคนเดียว คงจะต้องมานั่งพูดคุยหาข้อสรุปว่าเราจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดอย่างนั้นอีกได้อย่างไร
เมื่อถามว่า แล้วจะทำอย่างไรหากฝ่ายค้านไม่ยอมยุติในเรื่องนี้ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าฝ่ายใดจะหยิบยกเรื่องนี้มา ต้องเริ่มต้นด้วยความตั้งใจดี ไม่ให้เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก แต่ไม่ใช่นำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ตรงนี้เชื่อว่าประชาชนไม่เห็นด้วยแน่นอน
ต่อข้อถามที่ว่า ถ้ามีคนผิด ควรมีการขอโทษหรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าหากมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ถ้าใครผิดพลาดอย่างไร โอกาสต่อไปเมื่อข้อมูลชัดเจนแล้ว ผู้ที่ผิดพลาดอย่างนั้นขอโทษ ก็เป็นเรื่องที่ดี เราควรจะมีการมองจากทุกมุม และเชื่อว่าขณะนี้ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด นายกฯ ก็บอกแล้วว่าอยากให้รวบรวมข้อมูลรอบด้าน
