xs
xsm
sm
md
lg

“นาม” สุดเซ็ง! เช็กบิลรถดับเพลิงฉาวส่อเค้าไม่ทันอายุ คตส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“นาม” สุดหน่าย หลัง “คดีรถดับเพลิงฉาว” ส่อเค้าลากยาวเสร็จไม่ทันอายุ คตส. เปรยคดีวนเหมือนเครื่องบินหาทางลงไม่เจอ ด้าน “แก้วสรร” ฉุนขาดโดนตีกลับบ้านเอื้อฯ เตรียมเข็นทุจริตรังสิตคลอง 9 จัดซื้อที่ดินแพงเกินเหตุ เข้า คตส.ชุดใหญ่ 25 ก.พ.นี้

วานนี้ (19 ก.พ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม.โดยมี นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นประธาน โดยภายหลังการประชุม นายนาม เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด ซึ่งจะย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นของสัญญาว่าเป็นอย่างไร ใครเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ถือเป็นการดำเนินการตามมติของ คตส.ชุดใหญ่ที่มอบหมายมาให้

เมื่อถามว่า การดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลทำให้การไต่สวนคดีนี้มีความล่าช้าหรือไม่ นายนาม กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ เพราะคดีนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก แต่คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และถ้าทำแล้วไม่เสร็จสิ้นในกรอบอายุเวลาของ คตส.ก็คงต้องส่งมอบให้ ป.ป.ช.รับหน้าที่ตรวจสอบคดีนี้ต่อไป

“คดีนี้ทำไปทำมาเหมือนกับวนๆ อยู่ คล้ายกับเครื่องบินที่บินอยู่บนอากาศแล้วหาทางลงไม่ได้ เพราะรายละเอียดมันเยอะ มันยุ่ง แต่เราก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนเหตุผลว่าทำไมตรวจสอบคดีนี้มานานแล้ว เพิ่งจะมีการเข้าไปตรวจสอบเพิ่มอีกนั้น เพราะในการทำงานของคณะอนุกรรมการชุดเก่าไม่ได้ดูรายละเอียดในภาพรวมทั้งหมด อนุกรรมการชุดนี้จึงต้องเข้ามาดูภาพรวม” นายนาม กล่าว

ประธาน คตส.กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 3 ราย คือ คุณหญิงณฐนนท ทวีศิลป์ อดีตปลัด กทม.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. และ นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ซึ่งยอมรับว่ามีการพิจารณาบางคนไปแล้ว แต่บางคนยังพิจารณาไม่เสร็จ

ส่วนการเข้าให้ปากคำของ นายวัฒนา เกี่ยวกับการแลกไก่ต้มสุกกับรถดับเพลิง ในฐานะพยานที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาอ้างถึงนั้น นายนาม กล่าวว่า เบื้องต้น นายวัฒนา ยืนยันว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะการดำเนินการเป็นหน้าที่ของกรมการค้าต่างประเทศที่รับผิดชอบดูแลอยู่

ประธาน คตส.กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเด็นที่ว่า เหตุใดสินค้าจึงต้องเป็นไก่ต้มสุกเท่านั้น นายวัฒนา ได้อ้างว่า เป็นความเห็นจากที่ประชุม ครม.ที่ต้องการจะให้ใช้ไก่ต้มสุก เนื่องจากช่วงนั้นเกิดปัญหาไข้หวัดนกในประเทศไทย แต่ใครจะเป็นผู้เสนอแนวคิดในที่ประชุมนั้น ไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากรายงานบันทึกการประชุม ครม.มีการระบุเพียงรายชื่อผู้เข้าประชุม แต่ได้บันทึกว่าใครเสนอความเห็นนี้ ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายสัก กอแสงเรือง คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการปล่อยเงินกู้ให้กับทางการพม่าของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยความคืบหน้าของการไต่สวน ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการสรุปผลการไต่สวน ซึ่งในคดีนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพียงรายเดียว และจากการพิจารณาคำชี้แจงข้อกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่พบว่ามีเรื่องอะไรใหม่ เป็นข้อมูลที่รับทราบกันอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะสามารถเสนอผลการไต่สวนคดีดังกล่าวให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณาได้ช่วงต้นเดือน มี.ค.นี้

“อย่างไรก็ตาม การไต่สวนคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คตส.ได้มีการพูดคุยกัน และมีความเห็นว่าจะพยายามเร่งรัดการทำงานให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” นายสัก กล่าว

ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบและไต่สวนคดีโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงความคืบหน้าของการไต่สวนคดีนี้ ว่า ในการประชุม คตส.ชุดใหญ่ วันที่ 25 ก.พ.นี้ จะเสนอผลการตรวจสอบคดีบ้านเอื้ออาทร ในส่วนของโครงการรังสิต คลอง 9 ให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งผลการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมือง

ส่วนความคืบหน้าในการไต่สวนคดีบ้านเอื้ออาทร โครงการร่มเกล้าบางพลี นั้น นายแก้วสรร กล่าวว่า ได้เสนอในที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ไปแล้ว แต่ที่ประชุมให้กลับไปปรับปรุงสำนวนการไต่สวนคดีนี้ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นอีกครั้ง ตามความเห็นของที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ ซึ่งเป็นไม้บรรทัดที่ต้องทำตาม เนื่องจากไม่ต้องการให้มีปัญหาขัดแย้งในการทำงาน

รายงานข่าวจาก คตส. แจ้งว่า สำหรับการตรวจสอบคดีบ้านเอื้ออาทร รังสิต คลอง 9 เป็นผลมาจากการร้องเรียนว่ามีการจัดซื้อที่ดินเพื่อจัดทำโครงการบ้านเอื้ออาทรในราคาสูงเกินจริง ซึ่งเบื้องต้น คณะอนุกรรมการตรวจสอบฯ ได้ตรวจสอบ และพบข้อเท็จจริงว่า การเคหะแห่งชาติได้ซื้อที่ดินขนาด 99 ไร่ จากบริษัทผู้ประกอบการ โดยจัดซื้อที่ดินในราคาสูงเกินจริงเป็นเงินประมาณ 39 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของการเคหะฯ และบริษัทผู้ประกอบการ โดยพบการปลอมแปลงเอกสารการประเมินราคาที่ดินทำให้การเคหะฯ รับซื้อที่ดินในราคาที่ผิดปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น