xs
xsm
sm
md
lg

“หมัก” เดือดกฎหมาย 7 ชั่วโคตร ส่อ ครม.วุ่นยกพวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครม.หมักส่อวุ่นยกพวง เจอพิษ กม.เจ็ดชั่วโคตร “หมัก” ลั่นประหลาด ไม่เข้าท่า ตีความ กม.แห่งความเกลียดแค้น เตรียมส่ง ส.ส.สัดส่วนทดลองยา ก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

วันนี้ (8 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นว่า ลืมไปว่าเป็นวันศุกร์ จะขึ้นรถอยู่แล้ว เขาก็เตือนว่าวันนี้วันศุกร์ก็เลยต้องมาทำหน้าที่ตามที่ได้สัญญาไว้ วันนี้ตั้งใจจะประชุม ครม.สัก 1 ชั่วโมง แต่ก็กลายเป็น 2 ชั่วโมงครึ่งเพราะว่ามีเรื่องที่ไม่น่าคาดคิดเลย คือเรื่องรัฐธรรมนญที่เขาทำไว้ ซึ่ง ป.ป.ช.มาชี้แจงกลายเป็นเรื่องใหญ่เลย เป็นปัญหา ไม่น่าเชื่อเลยไปเขียนไว้ทำลายครอบครัวเขา ครอบครัวเขาอยู่กันมาดีๆ มันเสียหายครอบครัวเขาหมด เขาทำกันมาดีๆ เขาทำไม่ได้เลย หมายความว่าคนเราจะเลือกอาชีพที่ตั้งใจไม่ได้เพราะอย่างนี้ เพราะความเกลียดแค้น ชิงชัง ไม่ชอบ มันอยู่ในรัฐธรรมนูญหมด แต่ก่อนเป็นระเบีบบนั้นระเบียบนี้ นี้เป็นรัฐธรรมนูญเลย โอ๊ย! ต้องด้วยความระมัดระวังเลย

นายสมัคร กล่าวต่อว่า เฉพาะเรื่อง ป.ป.ช.ก็เป็นชั่วโมงเลยที่พูดคุยกัน เพราะเราไม่เคยคิดเป็นอันตรายเลย แต่มันเป็นอันตรายมากเลย แล้วเบื้องต้นก็มีปัญหาเลยต้องให้กฤษฎีกาตีความ รวมทั้งเรื่องที่ ส.ส.ทำงานเป็นเลขาฯ ไม่ได้ พรรคการเมืองเขาก็ยังสงสัย จะส่งไปให้ตุลาการก็ไม่มีเหตุ ก็เลยต้องให้กฤษฎีกาตีความด้วย ถ้าเผื่อตัดสินออกมาไม่ได้ก็แปลว่าไม่ได้ ซึ่งก็อยากจะทดลอง โดยใช้คนจริงๆ ทดลองจะเอา ส.ส.จากระบบสัดส่วนลองตั้งเป็นเลขาฯ คนหนึ่ง เสร็จแล้วถ้าหากวินิจฉัยออกมาถ้าไม่ได้ก็ต้องยอมเสีย พอมาถึงจุดนี้ก็มีคนส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ถึงจะทำได้ ก็ต้องทดลองกันแบบนี้ ที่เกิดเหตุอย่างนี้ทำให้ยุ่งยากไปทั้งหมด ต้องระมัดระวังไปหมด

นายสมัคร กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้ 15 วาระไม่ใช่เรื่องยาก เจอเรื่องนี้ต้องใช้เวลาเยอะ เมื่อถามว่าเมื่อพบว่ามีปัญหาแบบนี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเร็วขึ้นหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า เราต้องแก้ไขในส่วนของเราก่อน เพราะมันไม่มีทางอื่น ถ้าเราแก้ทางเราได้ เราก็ต้องแก้ทางนี้ก่อน เพราะถ้าไปแก้ที่รัฐธรรมนูญแล้วยังไม่แน่นอน คือบางประเด็นอาจเป็นไปได้ ดังนั้น ถ้าหากจะแก้ก็ต้องแก้ทีเดียว ถ้าจะแก้ก็ต้องแก้ทีเดียวหมด ซึ่งต้องไปรอตอนจบของรัฐบาล ฉะนั้น ตอนนี้เราต้องแบกภาระอันนี้ไปก่อน ต้องหาทางออก เรายังมีเวลาถึงวันที่ 6 มีนาคม คือจะต้องมีการหารือกับ ป.ป.ช.อย่างใกล้ชิดว่าจะทำได้ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีปัญหากับ ส.ส.ของเราหลายคน ซึ่งเวลานี้เขาก็มารับตำแหน่งหน้าที่แล้ว เท่ากับเดินทางมาตั้งครึ่งแล้ว ไอ้ทางที่เขามี เขาเสียหายหมด

เมื่อถามว่า มันเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า “ไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องแจงบัญชีทรัพย์สิน แต่เป็นเรื่องที่ภรรยาเขาทำงานของเขา มีอาชีพของเขาอยู่ ก็ยังทำไม่ได้เลย กฎหมายนี้คุณก็ลองคิดดูสิ แม้แต่จะไปแบ่งหุ้นแยกหุ้นก็ยังทำไม่ได้ แม้กระทั่งถามว่าทำเป็นว่าหย่ากันได้มั้ย เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ได้เพราะรู้ว่าเจตนา เนี่ยก็ยังรู้อีก หย่ายังไม่ได้เลย มันประหลาด มันไม่เข้าท่า”

เมื่อถามว่า ใน ครม.กี่คนที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายนี้ นายสมัคร กล่าวว่า มีอยู่ 2-3 คน คนหนึ่งท่านบอกว่า ได้หย่ากับภรรยามาแล้ว 2 ปี จึงไม่ยื่นทรัพย์สินของภรรยา แต่ท่านยังกลับไปเยี่ยมลูกก็ยังเจอกับภรรยาก็อาจจะมีคนมาบอกว่า ยังมีการเจอกันอยู่ เอามาพูดอย่างโน้นนี้ มันก็มี บางคนก็ยังถือหุ้นอยู่โดยเฉพาะหุ้นบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย และถ้าบริษัท ปูนซิเมนต์ไปได้สัมปทานรัฐมันก็ต้องห้ามเหมือนกัน แต่ยังมีรายใหญ่อีกรายหนึ่งซึ่งเป็นปัญหาสังคมลมโชย อาจจะต้องไปร้องทุกข์กับกรรมการสิทธิมนุษยชน เพราะการเขียนกฎหมายอย่างนี้มันเสียสิทธิ มันได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการคุยกันเรื่องแบ่งงานรองนายกฯ หรือยัง นายสมัคร กล่าวว่า เรื่องนี้จะทำกันข้างนอกแล้วยกไปพูดกันใน ครม.แบ่งกลางห้องไม่ได้ ต้องแบ่งริมห้อง

เมื่อถามว่า การประชุมวันนี้พูดถึงเรื่องนโยบายเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายสมัคร กล่าวว่า เป็นการประชุมหนแรก ยังไม่ได้มีเรื่องเรียกความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจอย่างไร แล้วเศรษฐกิจมันอยู่อย่างไร วันนี้การประชุมก็เรียบร้อยดี วันต่อๆ ไปก็ค่อยประชุมเรื่องนโยบายทยอยออกมา นโยบายก็ต้องเตรียมเสนอสภา จะถามตอนนี้ไม่ได้เร็วเกินไปที่จะพูด

เมื่อถามมอบหมายหลักการการทำงานใน ครม.อย่างไรบ้าง นายสมัคร กล่าวว่า พูดกันไปแล้วในคืนวันที่ 6 ไม่เปิดเผยเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องความเห็นส่วนบุคคล
กำลังโหลดความคิดเห็น