“เทพไท เสนพงศ์” เตือนพรรคร่วมรัฐบาล หารือโควตารัฐมนตรีให้ได้ข้อยุติก่อนโหวต “สมัคร” เป็นนายกฯ ตั้งข้อสังเกตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทำข้อตกลงกับ “พ.ต.ท.ทักษิณ” อย่างไร จึงบอกว่าอยู่ไม่นาน เหน็บการจัดตั้งรัฐบาล กลับไปคึกคักที่ฮ่องกง
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำว่า อยากเสนอพรรคร่วมรัฐบาล หากจะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ควรจะคุยเงื่อนไขตำแหน่งรัฐมนตรีให้ได้ข้อยุติก่อนที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะหากมีการโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วเชื่อว่าโดยธรรมชาติของพรรคพลังประชาชนคงไม่ยอมและไม่อ่อนข้อให้กับพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเสียเปรียบ
“เปรียบเสมือนพรรคพลังประชาชนถือด้ามมีด พรรคร่วมรัฐบาลกุมคมมีด คิดว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เปรียบอย่างแน่นอน ดังนั้นต้องตัดสินใจให้เสร็จก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี” นายเทพไท กล่าว
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวนายสมัคร สุนทรเวช อาจจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่นานว่า เป็นการส่งสัญญาณ ที่อาจจะกระทบต่อประเทศชาติ คือความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ ตนเห็นว่าหากนายสมัครพูดในเรื่องดังกล่าวจริง มีเหตุผลใดกันแน่ที่นายสมัครจะอยู่ในตำแหน่งไม่นาน หรือว่าไปทำข้อตกลงใดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไว้ และอาจจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง ที่มีคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม และอีกไม่นานศาลก็จะตัดสินคดี นายสมัครอาจประสบชะตากรรมที่ไม่ดีก็ได้
“สิ่งที่น่าสังเกต คือ ตั้งแต่จะมีรัฐบาล และจะมีนายกรัฐมนตรี ชื่อนายสมัคร ซอยที่บ้านพักหมู่บ้านโอฬารกลับเงียบเหงา แต่ไปคึกคักที่ฮ่องกง ผมจึงแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลไทย จึงไปตั้งกันที่ฮ่องกง หรือว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลอินเตอร์ เพราะดูแล้วเป็นรัฐบาลเมดอินฮ่องกง เพราะคนจัดตั้งรัฐบาลอยู่ที่นั่น” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า วันที่ 30 ม.ค. - 1 ก.พ.51 พรรคจะจัดสัมมนา ส.ส.ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีช รีสอร์ต พัทยา วันที่ 30 ม.ค. พรรคจะออกเดินสายขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี ที่เลือก ส.ส.ของพรรคยกจังหวัด ส่วนการสัมมนาจะเป็นการหารือการทำหน้าที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน จะมีการสร้าง ส.ส.ของพรรคให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการตั้งกระทู้ การตรวจสอบรัฐบาลรวมถึงการทำงานในกรรมาธิการ นอกจากนี้ยังจะหารือถึงแนวทางการสร้างพรรคประชาธิปัตย์ การลงพื้นที่ การขยายจำนวนสมาชิกเพื่อก้าวไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
