กกต.ยันทำงานเต็มที่ “ประพันธ์” ชี้ “ทั่นยุทธ” ถ้าผิดก็สอยร่วง

กกต.ยันทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ไม่กลัวถูกฟ้องภายหลัง “ประพันธ์” ย้ำเดินหน้าสอบสำนวนที่ถูกร้องคัดค้านหลายสำนวนต่อไป ไม่เว้นคดี “ทั่นยุทธ” ลั่นถ้าผิดก็ถูกสอยร่วงได้ ขณะเดียวกัน เร่งชี้ขาดสถานะ “ประชัย” หลังถูกดองนานกว่า 2 สัปดาห์

วันนี้ (24 ม.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่ นายชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ออกมาระบุว่าการที่ กกต.ให้ใบเหลืองหรือใบแดงแก่ว่าที่ ส.ส.อาจทำให้ กกต.เสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องได้ เนื่องจากกฎหมายมีความซับซ้อนว่า กกต.ทำทุกอย่างตามระเบียบอยู่แล้ว และทำงานกันอย่างรอบคอบ ประกอบกับต้องมีการหารือเรื่องข้อกฎหมายเสมอ โดย กกต.ไม่ได้ทำงานตามใจชอบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากมีคำวิจารณ์ออกมาเราพร้อมจะรับฟัง

“แม้ว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้วจำนวน 477 คน สำหรับ ส.ส.ที่ยังมีสำนวนร้องคัดค้านค้างอยู่ กกต.ยังสามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปได้ เพียงแต่เปลี่ยนผู้กลั่นกรองในชั้นสุดท้าย จาก กกต.เป็นศาลฎีกาเท่านั้น” นายประพันธ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายชิงชัย ระบุว่า กกต.ไม่มีความเด็ดขาดพอที่จะตัดสินลงโทษ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความเด็ดขาดหรือไม่เด็ดขาด แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสำนวนว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอหรือไม่ เพราะการให้ใบเหลืองหรือใบแดงนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้ง 2 ฝ่าย เช่น ฝ่ายที่ถูกให้ก็จะโวยวายว่าสาเหตุใดจึงถูกให้ และหาก กกต.ไม่ให้ใบแดง อีกฝ่ายจะโวยวายเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องดูที่พยานหลักฐานเป็นสำคัญ

“การสอบสวนสำนวนนายยงยุทธ กกต.ยังคงพิจารณาไปตามปกติ แม้ว่านายยงยุทธจะดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ก็ตาม ทั้งนี้ ไม่ว่าบุคคลนั้นๆ จะดำรงตำแหน่งอะไร จะเป็นรัฐมนตรีหรืออะไรก็ตาม กกต.ต้องพิจารณาไปตามเดิม และหากศาลฎีกามีคำสั่งออกมาแล้ว บุคคลผู้นั้นต้องออกจากตำแหน่งเหล่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่ใช่เรื่องของ กกต.” นายประพันธ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายประพันธ์ยังกล่าวถึงการวินิจฉัยสถานภาพการเป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่าเรื่องนี้ยังคงสอบพยานอยู่ เนื่องจากได้ทราบว่าไม่มีเอกสารลาออกตัวจริงของนายประชัยแล้วจึงต้องสอบสวนพยานบุคคลแทน ซึ่งจะพยายามเร่งให้ดำเนินการโดยเร็ว และต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่าทำอะไรอยู่ เพราะเรื่องนี้เข้ามายัง กกต.นานประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว

/0110