อธิบดีกรมประชาฯ ยัน กม.ทีวีสาธารณะมีผลบังคับใช้แล้ว อดีต พนง.ทีไอทีวีฟ้องไม่ได้ ขณะสัญญาระบุ พ.ร.บ.ประกาศเมื่อไหร่ทุกอย่างสิ้นสุด เล็งตึกเก่าช่อง 11 ถนนเพชรยุรี เป็นที่ตั้งใหม่ทีวีสาธารณะ
วันนี้ (15 ม.ค.) นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงการแต่งตั้ง 5 คณะกรรมการนโยบายชั่วคราวเพื่อกำกับองค์กรกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เพื่อดำเนินการบริหารสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีให้เป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะหารือกันถึงแนวทางการดำเนินงาน หลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 5 คนแล้ว
นายปราโมช กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า นายขวัญสรวง อติโพธิ ตัวแทนคณะกรรมการนโยบายชั่วคราวจะนัดหารือกับกรรมการคนอื่นๆ เป็นเบื้องต้น โดยตนทำหน้าที่ให้ข้อมูลทั้งหมดที่มีรวมถึงรายการที่มีอยู่ พนักงานบุคลากร และสถานที่ กระบวนการต่างๆ และการออกอากาศชั่วคราว ส่วนการออกอากาศรายการปกตินั้นเท่าที่คุยกับคณะกรรมการทั้ง 5 คน ทราบว่าจะดำเนินการโดยเร็ว โดยหน้าที่ทั้งหมดอยู่ที่กรรมการทั้ง 5 แล้ว
นายปราโมช เปิดเผยว่า สำหรับที่ทำการทีวีสาธารณะยังไม่ได้กำหนด เดิมทีทางคณะทำงานได้ดีไซน์ไว้ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หรือสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์เดิม ตั้งแต่เริ่มต้นคงจะใช้ที่นั่นไปก่อน ส่วนวิธีการและขั้นตอนทั้งหมด เป็นอำนาจของคณะกรรมการ ส.ส.ท.ทั้ง 5 คน อย่างไรก็ตาม การหารือร่วมกันคงจะดำนเนินการให้เร็วที่สุด ถ้าวันนี้ (15 ม.ค.) ทันก็ดีเพื่อให้เดินหน้าได้โดยเร็วที่สุด
“วันนี้สถานีโทรทัศน์สื่อสาธารณะเริ่มต้นด้วยพนักงานผู้บริหาร 5 คน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ต้องโอเปอร์เรต เปิด-ปิดสวิตช์เครื่อง ตัดต่อถือกล้องทำไม่ได้หรอก ฉะนั้น ส่วนของพนักงานจะเป็นจุดเร่งด่วนที่สุดที่จะต้องมีคนเข้าไปทำงาน เราต้องการคนที่มีประสบการณ์ ทำงานได้อยู่แล้ว เพื่อให้งานเดินต่อไปได้ นี่เป็นหลักการทั่วไป เราจะทำตรงนี้ เงินที่นำมาจัดจ้างก็มาจากเงินภาษีสรรพาสามิต โดยตั้งไว้ 1,800 ล้าน เดือนละ 150-160 ล้าน” อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กล่าว
กรณีที่อดีตพนักงานทีไอทีวียื่นฟ้องนายปราโมชนั้น นายปราโมชกล่าวว่า แม้จะมีผู้ฟ้องร้องโดยหลักการไม่สามารถฟ้องร้องได้ เพราะเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ทุกอย่างต้องรัดกุมหมด เพราะเป็นเงื่อนไขที่เขียนไว้ในสัญญาว่า กฎหมายประกาศเมื่อใดทุกอย่างสิ้นสุด ตนหมดอำนาจแล้ว ทุกคนก็ทราบล่วงหน้า
