“อภิสิทธิ์” เตรียมบุกพบ “บรรหาร” ทวงถามการตัดสินใจทางการเมืองจะเอายังไงแน่ งง “พลังแม้ว” ไม่ยอมพูดถึงการทำงานให้บ้านเมือง แต่กลับพูดให้ “แม้ว” กลับมาเท่านั้น ย้ำจุดยืนเดิมไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง พร้อมรอดูจุดยืนพรรคการเมืองต่างๆ 17 ม.ค.นี้ จี้กกต.คุ้มครองพยานหวั่นถูกคุกคาม ขณะเดียวกัน ปัดวิจารณ์ “พลังแม้ว” เตรียมดัน “เลี้ยบ” นั่งนายกฯ แทน “หมัก”
วันนี้ (13 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบรรยายพิเศษในการสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคว่า ผลการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชนได้รับยังไม่ถือเป็นเสียงข้างมากเด็ดขาด เพราะคะแนนที่ได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของสภาฯ ทำให้ไม่สามารถนำไปเทียบเคียงกับการเมืองในระบบประธานาธิบดีได้ และมีบางประเทศที่พรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ แต่ต้องกลายเป็นฝ่ายค้าน
พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่ได้ประสานงานกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคพลังประชาชน แต่จะรอดูจุดยืนของพรรคการเมืองต่างๆ ในวันที่ 17 มกราคมอีกครั้ง และหลังจากนี้จะพูดคุยกับพรรคชาติไทยที่เคยเป็นพันธมิตรเพื่อสอบถามจุดยืนทางการเมือง แต่ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อตั้งรัฐบาลแข่งกัน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวถึงพรรคพลังประชาชนที่อ้างคะแนนเสียงที่ได้รับถึง 12 ล้านเสียง แต่ไม่ได้เสนอนโยบายใดๆ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ แต่กลับมุ่งเน้นการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศ และการต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งใจแก้วิกฤตของประเทศ ดังนั้น รัฐบาลชุดใหม่จะต้องทำงานหนักและไม่มีช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งพิจารณารับรอง ส.ส.ให้ได้ครบ 95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้สามารถเปิดประชุมได้ แต่หากประเด็นใดยังมีข้อสงสัย ก็ไม่จำเป็นต้องรับรอง พร้อมขอให้ กกต.ทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง และไม่หวั่นเกรงต่อแรงกดดันต่างๆ ส่วนที่มีการเสนอให้เปิดเผยสำนวนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดง เห็นว่าสามารถทำได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีการดูแลพยานไม่ให้ถูกข่มขู่
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ออกมาเปิดทางให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพบปะพูดคุยเพื่อสร้างความสมานฉันท์ว่า ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องต้องออกมายืนยันว่ากลไก กระบวนการยุติธรรมต่างๆ ต้องเป็นไปตามปกติ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง และตามกระบวนการที่ถูกต้อง ก็เป็นการสมานฉันท์ที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน เตรียมดันนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคฯ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังคงจะเฝ้าติดตามการตัดสินใจของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ว่าจะดำเนินการถอนฟ้องในประเด็นการเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่
