“ไพศาล พืชมงคล” จี้ กกต.รีบเคลียร์ข้อครหา 3 เรื่อง ตั้งแต่เอกสารลับรั่ว-การสร้างสำนวนหลักฐานให้อ่อนจนมีการยกคำร้องกว่าพันเรื่อง และพวกสามหนาที่ยังแผงตัวอยู่ เตือน กกต.ไม่ใช่สักแต่จัดการเลือกตั้งให้เสร็จ แต่ต้องคำนึงถึงความสุจริตและเที่ยงธรรมด้วย
วานนี้ (9 ม.ค.) นายไพศาล พืชมงคล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าขณะนี้มีข่าวคราวที่ไม่เป็นมงคลแก่ กกต.ถึง 3 เรื่อง และแพร่หลายแก่สื่อมวลชนโดยทั่วไปแล้ว คือ
เรื่องแรก คือ ข่าวที่สำนวนการสอบสวนซึ่งเป็นเอกสารลับทางราชการหลุดรั่วออกไปถึงมือนักการเมืองบางพรรค ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และเป็นเรื่องที่เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ กกต. เพราะถ้าเป็นจริงก็หมายความว่ามีหนอนบ่อนไส้ขายสำนวนสอบสวนของ กกต. จึงต้องรีบเคลียร์โดยเร็วที่สุดว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริง กกต. ก็ต้องรีบสอบสวนและดำเนินการ รวมทั้งกำหนดมาตรการที่ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำความผิดกระทำความผิดซ้ำอีก หรืออย่างน้อยต้องไม่ให้เกี่ยวข้องกับสำนวนอีก
เรื่องที่สอง คือ ข่าวที่มีการฮั้วกันสร้างสำนวนการสอบสวนที่ทำหลักฐานอ่อน และเป็นเหตุให้มีการสั่งยกคำคัดค้านถึง 1,000 เรื่อง ในระยะเวลาเพียง 7 วันทำการ ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยในหมู่ประชาชนว่าเป็นการล้มสำนวน และทำให้การตรวจสอบคะแนนว่าได้มาโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่เป็นปัญหา ต้องรีบเคลียร์โดยเร็วว่ามีการทำสำนวนแบบนี้จำนวนมากขนาดนี้จริงหรือไม่ ถ้าจริงจะรื้อฟื้นอย่างไร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้น
เรื่องที่สาม คือ ข่าวที่อดีต กกต.ที่มีพรรคพวกอยู่ในสำนักงาน กกต.แอบบริหารจัดการเลือกตั้ง แล้วทำให้การเลือกตั้งมีปัญหาขึ้น
“ทั้งสามเรื่องนี้สร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนโดยทั่วไป มีเสียงสะท้อนเข้ามายังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติมากมาย และสื่อมวลชนก็ได้ขยายผลข่าวคราวดังกล่าวออกไป ทำให้เกิดความไม่สบายใจ กกต. จึงต้องรีบเคลียร์เรื่องนี้โดยเร็วที่สุดก่อนที่ปัญหาและความไม่เชื่อมั่นจะขยายไปมากกว่านี้” สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าว
นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่า หน้าที่สำคัญของ กกต. คือการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งหมายความว่า กกต. ไม่ได้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้เสร็จๆ ไปอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องให้การเลือกตั้งนั้นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมด้วย ถ้าการจัดการเลือกตั้งไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรมก็ใช้ไม่ได้ เพราะคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้แล้วว่า ถ้าการเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็ไม่มีทางที่จะได้รัฐบาลตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง ดังนั้นจึงขอวิงวอน กกต. ว่าอย่าคิดสักแต่ว่าให้การเลือกตั้งเสร็จๆ ไป เพราะนั่นไม่สำคัญเท่ากับความสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นความหวังของประชาชน