xs
xsm
sm
md
lg

“ยามฯ” อัด “เติ้ง” ทรยศ-ยอมผสม “พลังแม้ว” ทั้งที่ยังจาบจ้วง “ป๋า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำนูณ สิทธิสมานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
“ยามเฝ้าแผ่นดิน” ติง “หญิงอ้อ” ดอดเข้าประเทศช่วงถวายอาลัย “พระพี่นางฯ” ไม่เหมาะ เชื่อหวังทดสอบพลังปูทางให้ “แม้ว” อัด “บรรหาร” คนทรยศ เคยบอกไม่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวัง แต่กลับเข้าร่วมผสมพันธุ์ พปช.ทั้งที่ไม่ได้ยอมรับ 5 เงื่อนไข แถม “สมัคร” ยังเหน็บแนม ขณะที่ลิ่วล้อทักษิณยังอาฆาตมาดร้าย “ป๋าเปรม” ผ่านเว็บไซต์ไม่หยุด

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย คำนูณ สิทธิสมาน, จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย  คำนูณ สิทธิสมาน, จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 2

รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 7 มกราคม นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และนางสโรชา พรอุมดศักดิ์ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวถึงกรณีคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีทุจริตที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีว่า การกลับมาต่อสู้คดีนั้นถือว่าถูกต้อง เราก็เรียกร้องให้กลับมา แต่หากเลือกกลับมาในเวลานี้ถือว่าไม่ถูกต้อง

ทำไมคุณหญิงพจมานไม่เลือกที่จะเดินทางกลับประเทศก่อนถูกออกหมายจับ ทำไมต้องมาเลือกกลับตอนที่พรรคพลังประชาชนกำลังใกล้จะเป็นรัฐบาล ที่สำคัญการถวายอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก็ยังไม่ครบกำหนด 7 วัน รวมการประกาศไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน ของรัฐบาลอีก ทำให้การกลับมานั้นดูจะไม่เหมาะสมมากนัก

ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่า คุณหญิงพจมานนั้นมีทั้งคนรักคนเกลียด จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนไปให้กำลังใจกันถึงศาล ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง คล้ายๆ กับการชุมนุมคัดค้านการให้ใบแดงว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.บุรีรัมย์ ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง จ.บุรีรัมย์ เป็นการชักนำคนให้ออกมาชุมนุม เป็นการชุมนุมของคนที่ไม่มีจิตสำนึก อยากฝากถามไปถึงคนที่มาชุมนุมว่า เป็นคนไทยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินรายการยังเชื่อว่า การเดินทางกลับประเทศของคุณหญิงพจมานนั้น เป็นการกลับมาเพื่อทดสอบ เป็นบันไดอีกขั้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การมานั้นไม่เหมาะสมกับกาลเทศะ แม้แต่พรรคการเมืองยังงดกิจกรรมทางการเมืองเป็นเวลา 7 วัน เพื่อร่วมถวายความอาลัย แล้วคุณหญิงพจมาน คิดถึงสิ่งเหล่านี้บ้างหรือไม่ การกลับหรือไม่กลับถือเป็นสิทธิ์ เพียงแต่ว่าการมาแต่ละครั้งนั้น จะต้องมีการระดมคนมาเชียร์ให้กำลังใจกันอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

**แนะ ขรก.ไทยเอาแบบอย่าง “เกษม”

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ มีมติเป็นเอกฉันท์ ยืนตาม กกต.ที่ให้ใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุว่า ความเห็นของ กกต.เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและเที่ยงธรรม ว่า หากว่าตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้ายการเลือกตั้ง ส.ส.โดยหลักการถือว่าจบไปแล้ว ทั้งนี้หากมองปัญหาที่เกิดขึ้นในจ.บุรีรัมย์ ต้องชื่นชมการทำงานของนายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์ ในฐานะประธาน กกต.จ.บุรีรัมย์ โดยเฉพาะการที่ท่านเอ่ยปากขอให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ลงมาดูแลในพื้นที่ ดีกว่าเอาเวลาไปเดินป่า ซึ่งถือเป็นคำพูดที่ตรงใจมาก

“คนอย่างท่านเกษมเป็นที่ต้องการของสังคมไทยในวันนี้มาก เมื่อยามบ้านเมืองกำลังวุ่นวาย ก็มีแต่พวกแต่งน้ำกลางทะเลทราย ท่ามกลางความว้าเหว่ ความสับปลับปลิ้นปล้อนของนักการเมือง ต้องเข้าใจว่า ท่านเกษม อยู่ในเขตพื้นที่อิทธิพล ความกล้าหาญที่ท่านจะยืนหยัดในความถูกต้อง ถือว่าน่าชื่นชมมาก อยากให้ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเอาเป็นแบบอย่าง หากข้าราชการไทยเป็นอย่างท่านเกษม สัก 10-20 คน บ้านเมืองก็จะน่าอยู่ไปกว่านี้อย่างแน่นอน”

**จวก “บรรหาร..ผู้ทรยศ”

ในช่วงที่ 2 ของรายการ นายคำนูณได้กล่าวถึงบทความเรื่อง “บรรหาร...ผู้ทรยศ” ซึ่งได้เสนอทางเว็บไซต์ www.manager.co.th และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 8 ม.ค.50 ว่า ตนรู้สึกเจ็บปวดที่ต้องเขียนบทความนี้ ซึ่งเป็นการต่อว่านายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย แต่เป็นเพราะจำเป็นจริงๆ ที่ต้องเขียนบทความนี้ เพราะคำพูดของนายบรรหารที่ว่า “จะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่คบกันมา 30 ปีต้องผิดหวัง” ซึ่งคำว่า “ผู้ใหญ่” นั้นทุกคนก็รู้ว่าคือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้นายบรรหารได้อ่านบทความนี้เป็นอย่างมาก

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า อยากให้ย้อนไปวันที่ 31 ธ.ค.50 ที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ 3 พรรคเล็ก ซึ่งนายสมัครได้อ้างถึงมือที่มองไม่เห็นซึ่งเป็นอำนาจภายนอก มากดดันการออกใบเหลืองใบแดงให้กับว่าที่ ส.ส.พปช.เพื่อพลิกเกม แล้วนายสมัครก็โยงไปถือหนังสือที่ชื่อ “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ที่นายสมัครอ้างว่าไปเห็นที่ต่างจังหวัดในขณะไปหาเสียง และให้นักข่าวไปหาอ่านเอาเองว่าหมายถึงใคร

นายคำนูณกล่าวต่อว่า สำหรับบทความเรื่อง “ก้อนกรวดในรองพระบาท” นั้น ไม่ได้มีวางขายตามต่างจังหวัด แต่มีการแจกจ่ายในที่ชุมนุมต่อต้าน คมช.และสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งกลุ่ม นปก.หรือกลุ่มอื่นๆ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นบทความเขียนโดย “นายประดาบ” ในเว็บไซต์ “ไฮทักษิณ” โดยเริ่มเผยแพร่ทางเว็บดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.50 มีเนื้อหามุ่งโจมตีกล่าวร้าย พล.อ.เปรมโดยตรงและรุนแรง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ นปก.ที่พุ่งเป้าโจมตี พล.อ.เปรม มีการเคลื่อนไหวไปที่บ้านสี่เสาจนเกิดจลาจลย่อย ๆ เพื่อสร้างความวุ่นวายให้มีการเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง หลังจากนั้น ก็ปรากฏว่าแกนนำม็อบบางคน ไปสมัคร ส.ส.ในพรรค พปช.จนได้เป็น ส.ส.มา 1 คน

ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า การโจมตี พล.อ.เปรม ทั้งโดยออกชื่อและไม่ออกชื่อนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2549 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เมื่อเดือน มิ.ย. ต่อจากนั้น หลังจากการยึดอำนาจก็เป็นการเคลื่อนไหวของ นปก. มาจนถึงบทความเรื่อง “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ซึ่งรุนแรงมาก ถึงขั้นกล่าวหาว่า พล.อ.เปรมทำให้สถาบันเบื้องสูงเสื่อมเสีย

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า รู้สึกผิดหวังนายบรรหารที่เคยบอกว่าจะไม่ทำให้ผู้ใหญ่ที่นับถือกันมา 30 ปีผิดหวัง ซึ่งตอนที่นายบรรหารพูดนั้นรู้สึกชื่นชม เพราะคิดว่านายบรรหารจะเข้าใจสถานการณ์การต่อสู้ทางการเมืองในปัจจุบันว่า ไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองที่มีนโยบายต่างกันเท่านั้น แต่มันเป็นการต่อสู้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อาจ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ผมชื่นชมหลักการ 5 ข้อที่คุณบรรหารเสนอเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะ 2 ข้อแรกที่ให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อ 2 ต้องไม่ก้าวล่วง พล.อ.เปรม แต่สุดท้าย พปช.ไม่ได้ตอบรับ แถมคุณสมัครยังแถลงข่าว เอารูปถ่ายมาโชว์บอกให้คุณบรรหารแหงนหน้าขึ้นไปดู เขาไม่ตอบรับ แถมยังอาฆาตมาดร้ายเหมือนเดิม”

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญคือนายสมัครยังพูดถึงบทความ “ก้อนกรวดในรองพระบาท” ซึ่ง “เปลว สีเงิน” บอกว่าเป็นบทความอันตราย นอกจากนั้น หลังจากนายบรรหารยื่น 5 เงื่อนไขแล้วนายประดาบยังขึ้นบทความตอบโต้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.50 คัดค้านการให้นายบรรหารเข้าร่วมรัฐบาล พปช. อ้างว่ารับไม่ได้กับเงื่อนไข 5 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 2 ที่ห้ามก้าวล่วง พล.อ.เปรม

นายประดาบเขียนมาในเชิงอาฆาตมาดร้าย พล.อ.เปรม ถึงขั้นบอกว่าไม่ยอมรับนับถือความเป็นรัฐบุรุษของ พล.อ.เปรม และบอกว่าจะเปิดโปง พล.อ.เปรมไปต่อเนื่อง ต่อให้ตายไปแล้วก็ต้องตรวจสอบยิ่งกว่า ปชป.ตรวจสอบสัญชาติเตี่ยนายบรรหาร และถือว่า พล.อ.เปรมเป็นศัตรูของประชาธิปไตยที่อยู่คนละข้างกับประชาชน และต้องสู้กันจนตายไปข้าง

นายคำนูณกล่าวว่า อยากให้นายบรรหารได้อ่านบทความของนายประดาบในเว็บไฮทักษิณด้วย และนายบรรหารต้องไม่ปฏิเสธว่านายประดาบไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชาชน ถ้านายบรรหารยังมีสำนึก นี่คือการเกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก นายบรรหารบอกว่าไม่ทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวัง แต่นี่คือการทรยศ

“ถ้าเป็นการทรยศต่อผู้ใหญ่คนหนึ่งก็ไม่ว่า แต่การทรยศครั้งนี้มันมีค่าไม่ต่างจากการทรยศต่อระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขในเนื้อหาสารัตถะที่แท้จริง”นายคำนูณกล่าว และว่า พล.อ.เปรมนั้น เป็นมนุษย์อาจมีดีมีเสีย แต่การเป็นประธานองคมนตรีนั้นเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนที่จะเชื่อมโยงถึงสถาบัน การวิพากษ์วิจารณ์ถ้าไม่มีกรอบมีเกณฑ์ มันจะกระทบชิ่ง

พล.อ.เปรม ท่านเป็นรัฐบุรุษ ไม่ใช่ยกย่องกันมาเอง แต่เป็นประกาศพระบรมราชโองการ ถ้านายประดาบไม่ยอมรับ พล.อ.เปรม ก็เท่ากับไม่ยอมรับพระบรมราชโองการ ในหลวงทรงต้องการให้ พล.อ.เปรมเป็นตัวอย่างของการทำความดีอันยิ่งใหญ่ ถ้านายประดาบไม่ยอมรับตรงนี้ ก็ไม่ต่างจากไม่ยอมรับพระบรมราชโองการ” นายคำนูณกล่าว
จินดารัตน์ เจริญชนะผู้ดำเนินรายการ
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1

( 56 k ) | ( 256 K )



คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2

( 56 k ) | ( 256 K )
สโรชา พรอุดมศักดิ์ผู้ดำเนินรายการ



กำลังโหลดความคิดเห็น