กกต.แจกอีก 4 ใบเหลือง 3ว่าที่ส.ส.เขต 1 อุดรธานี และ 1 ว่าที่ส.ส.เขต 1เพชรบูรณ์ “ประพันธ์” เผยแม้หลักฐานเตรียมซื้อเสียง 1.3 ล้านจะชัดเจน แต่คะแนนเสียงลงมติไม่สามารถได้ 4 ใน 5 ได้ หวยจึงออกแค่ใบเหลือง ด้าน”วรวัจน์”หอบหลักฐานยืนยันไม่ได้จัดปราศรัยช่วงวันเฉลิมพระชนม์พรรษา แถมไม่ได้แจกซีดี
วันนี้ (7 ม.ค.)ภายหลังการประชุมกกต.ช่วงเช้า นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า กกต.มีมติสั่งเลือกตั้งใหม่ กรณีนายสุทัศน์ จันทร์แสงสี ว่าที่ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ จ.เพชรบูรณ์ และกรณี.เขต 1 จ.อุดรธานี ประกอบด้วย พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ และ นายอนันต์ ศรีพันธ์ จากพรรคพลังประชาชน ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดเรื่องของวันเลือกตั้งใหม่ที่แน่นอน หากไม่ทันวันที่ 13 ม.ค. ก็สามารถเลือกตั้งในวันที่ 19-20 ม.ค.ได้
เมื่อถามว่า เหตุใดที่ เขต 1 เพชรบูรณ์ จึงเป็นเพียงใบเหลืองเท่านั้น ทั้งที่พยานหลักฐานชัดเจน นายประกพันธ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนการลงมติ มีกกต. 3 เสียงที่เห็นว่าสมควรสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่อีก 2 เสียง เห็นว่าสมควรสั่งเลือกตั้งใหม่เท่านั้น ดังนั้นเมื่อคะแนนเสียงที่สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ถึง 4 ใน 5 ตามที่กฎหมาย กำหนดจึงเป็นเพียงใบเหลืองเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ จ.เพชรบูรณ์เขต 1 นั้นเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับหัวคะแนนของนายสุทัศน์ พร้อมเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท พร้อมด้วยเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร ขณะที่ กรณีของ จ.อุดรธานี เขต 1 เป็นเรื่องการกล่าวหาว่าแจกเงินซื้อเสียง
วันเดียวกันนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นางปานหทัย เสรีรักษ์ และนายแพทย์ นิยม วิวรรธดิฐกุล ว่าที่ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชนเ ได้เข้าชี้แจงกับฝ่ายสืบสวนสอบสวนของกกต. เพื่อแก้ข้อกล่าวหากรณีถูกร้องคัดค้านว่า มีการแจกเงินในการจัดปราศรัยวันที่ 4 ธ.ค. มีการแจกจ่ายวีซีดีเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 50 ทั้งนี้นายวรวัจน์ กล่าวว่า ที่กล่าวหาว่าพวกตนแจกเงินในการปราศรัยเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวทางพรรคฯขอให้ผู้สมัครงดกิจกรรมเพราะเป็นช่วงวันเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และที่กกต. กล่าวอ้างถึงบุคคลที่ 3 คือ นาง ทิพวรรณ ศรีวัฒนะ ว่าเป็นผู้จัดปราศรัย และพูดปราศรัยจูงใจ พร้อมมอบเงินแก่ผู้มาฟังคำปราศรัยคนละ 2,000 บาทนั้น ที่บ้านของนายวิโรจน์ หรือพันธ์ณรงค์ พอจิต ที่ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ นั้น ในวันที่มีการกล่าวหา นางทิพวรรณ ก็เดินทางมากรุงเทพ และสถานที่ที่อ้างว่ามีการจัดปราศรัย ก็เป็นพื้นที่ติดถนน 4 เลน ซึ่งไม่สามารถจัดกิจกรรมปราศรัยได้
ส่วนกรณีแจกวีซีดีนั้นในวันดังกล่าวพวกตนเดินทางไปงานฌาปนกิจของนาย แปลง จันตา ตั้งแต่เวลา 12.30 น. มีพยานยืนยัน ทั้งตำรวจติดตาม ที่ค่อยรักษาความปลอดภัย ผู้นำหมู่บ้าน กำนัน และพระสงฆ์ผู้ประกอบกิจ ในวัน และเวลาดังกล่าวนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ พวกตนจะไปเดินแจกซีดีที่บริเวณบ้านเลขที่ 333 หมู่ที่ 3 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ตามที่ กกต. ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้เชื่อว่า กกต.กลาง จะให้ความยุติธรรมแก่ตน และว่าที่ส.ส.ทั้ง 2 คนที่ได้รับความไว้วางใจ จากประชาชน จังหวัดแพร่
ด้านๆ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้สมัครส.ส.เขต 1 พังงา พรรคพลังประชาชน เดินทางมายืนหนังสือสอบถามกรณีการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ยื่นหนังสือกรณีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ คือนางกันตวรรณ ตัณเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ และนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฎ์ ว่าที่ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากในเอกสารแนะนำตัวที่แจกตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีการพิมพ์เอกสารคล้ายบัตรเลือกตั้ง ระบุหมายเลขผู้สมัคร และมีเครื่องหมายกากบาทไว้เรียบร้อย โดยในส่วนของผู้สมัครสัดส่วนก็มีชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ในหมายเลข 4 ซึ่งถือเป็นการชักนำจูงใจให้ประชาชนลงคะแนนให้อย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อร้องไปยังกกต.จังหวัดและมีการเสนอเรื่องมายังกกต.กลาง แต่อยู่ๆกลับมีการประกาศรับรองส.ส.ทั้ง 2 คนแล้ว จึงจำเป็นต้องมาสอบถาม ซึ่งทางกกต.ระบุว่าจะนำสำนวนการสอบสวนชี้แจงมายังตนภายใน 30 วัน
“สิ่งที่เกิดขึ้นน่าสงสัยมาก ผมเคยสอบถามกกต.จังหวัดว่าสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำไปนั้นได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ ผิดกฎหมาย แต่ทำไมสิ่งที่ผิดกฎหมายตามที่กกต.จังหวัดบอกไปกลับไม่มีการสอบสวน แต่กลับมีประกาศรับรองผลเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งผมจะดูช่องทางต่อไปเพื่อยื่นฟ้องร้องต่อศาลที่มีขอบเขตอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป”