“เหลิม” ส่งเสียงเชียร์ “ยุทธ ตู้เย็น” เชื่อไม่ได้กระทำผิด กม.เลือกตั้ง ตามข้อร้องเรียน มั่นใจใครสั่ง กกต.ไม่ได้ การันตีม็อบเชียงรายแค่แฟนการเมืองกดดัน กกต.ไม่ได้ หนุน “หมัก” นั่งนายกฯ ปัดนอมินี “แม้ว”
วันนี้ (7 ม.ค.) บรรดา ส.ส.ที่ กกต.ประกาศรับรองแล้ว ยังคงเดินทางมารับหนังสือรับรอง โดยมีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ นายสมพล เกยุราพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 5 พรรคพลังประชาชน(พปช.) บิดาของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง โดย นายสมพล ได้นั่งรถเข็นมารับใบรับรอง และมีบาดแผลจากการเข้ารับน้ำเกลือที่ข้อมือด้านขวาด้วย นายสมพล กล่าวสั้นๆ “ผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเพื่อมารายงานตัว เพราะไม่รู้ว่าถ้าไม่มาวันนี้ก็ไม่รู้จะได้มาอีกหรือเปล่า” ทั้งนี้ นายสมพล ได้เข้าโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อตรวจสุขภาพ เนื่องจากมีโรคประจำตัวเป็นเส้นเลือดตีบ
จากนั้นเวลา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน กล่าวภายหลังรับหนังสือรับรองถึงกรณีที่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนกว่า 60 คนว่า ถือเป็นอำนาจของ กกต.แต่เชื่อว่าคะแนนจะพลิกผันไม่มาก ซึ่งในพื้นที่ที่ถูกร้องเรียนเป็นพื้นที่เป้าหมายของ พปช.หากถูกสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคะแนนก็ไม่ได้ไปไหน เพราะจะยังวนเวียนอยู่กับพรรคที่กำลังร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปช.อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า กกต.จะรับรอง ส.ส.ไปก่อน เพื่อให้ทันต่อการเปิดประชุมสภาและส่งเรื่องที่ยังค้างอยู่ให้ศาลฎีกาพิจารณา “ไม่มี กกต.ที่ไหนในโลกที่จะตั้งหน้าตั้งตาให้ใบเหลือง-ใบแดง กกต.มีหน้าที่กำกับดูแลการเลือกตั้ง”
สำหรับกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า พปช.จะถูกใบแดงถึง 60 ใบ เรื่องนี้ตนไม่กล้าตอบโต้ เพราะกลัวว่า นายสุเทพ ได้ยินชื่อผมแล้วจะสะดุ้ง โดยเรื่องนี้อาจเป็นความบังเอิญ เพราะตัวเลขใกล้เคียง บางทีอาจจะเป็นหมอดู หมอเดา หรือฟลุ๊ก อาจไม่จริงก็ได้ แต่บางคนอาจจะบอกว่านายสุเทพมีข่าวแน่ชัด แต่ผมเชื่อว่าคนอย่างนายสุเทพ สั่ง กกต.ไม่ได้
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะเชิญ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้า พปช.ว่าที่ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 1 มาชี้แจงในวันที่ 8 ม.ค.ว่า ไม่น่ากังวล เพราะนายยงยุทธเป็นนักการเมืองอาวุโสที่เข้าใจกฎเกณฑ์เป็นอย่างดี และนายยงยุทธ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิด
เมื่อถามว่า แสดงว่า ผู้สมัครพรรคชาติไทย ที่ร้อง นายยงยุทธ ต้องการกลั่นแกล้งพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอตอบ เพราะกลัวถูกฟ้องหมิ่นประมาท และไม่อยากแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่เป็นการขัดแย้งกัน แต่เชื่อว่า กกต.ทำงานไปตามหน้าที่ แต่ตนกลัวว่าคนที่ไปหาข้อมูลมาเสนอต่อ กกต.ไม่ชอบพรรคพลังประชาชน อาจจะส่งผลให้เกิดความไม่เป็นกลางได้ กลัวจะเป็นการมองเหรียญด้านเดียว เพราะถ้ามองเหรียญสองด้านก็จะคลายความกังวลในความบริสุทธิ์ของ กกต.
ส่วนที่มีข่าวว่า จะมีการนำประชาชนจาก จ.เชียงราย มากดดัน กกต.นั้น ความจริงแล้วในระบบประชาธิปไตยมีแฟนการเมืองที่ผู้สนับสนุนอาจจะมีความรู้กังวล ว่า อาจจะถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ จึงไม่อยากให้มองว่า แฟนการเมืองเหล่านั้นมากดดัน เชื่อว่า กกต.จะพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน กกต.คงไม่ยอมให้ใครมากดดัน
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบบุรีรัมย์ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มีความชอบธรรมที่จะลงไป เพราะถือว่าภารกิจของ คมช.ยังไม่เสร็จสิ้น ภารกิจจะจบเมื่อมีการตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว เมื่อเกิดความไม่สงบสุข ก็ถือเป็นเรื่องปกติที่จะลงไปตรวจสอบ แต่หลังจากตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว คมช.ต้องหมดอำนาจ
“เป็นเรื่องดีที่ พล.อ.สมเจตน์ จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ เพราะจะได้รู้ว่าประชาชนที่มา มาด้วยความรักและห่วงใย และ กกต.บุรีรัมย์ ก็มีข่าวต่อเนื่องมายาวนาน ว่า ไม่มีความเป็นกลาง ดังนั้น เราต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ทองแท้ไม่ต้องกลัวแพ้ไฟ เพราะถ้าประกายแวววับบางครั้งก็ไม่ใช่ทองเสมอไป ผมไม่ได้มองว่าการเดินทางไปครั้งนี้จะเป็นการเข้าไปแทรกแซง เพราะการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ถ้ามองอย่างนั้นก็เถียงกันไม่จบ”
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคชาติไทย ยังไม่ประกาศตัวเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการนั้น เรื่องนี้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เพราะไม่มีหน้าที่ในการประสานจัดตั้งรัฐบาล เดี๋ยวจะผิดคิว ส่วนกรณีการฟอร์มทีมรัฐบาล และมีชื่อตนได้รับการเสนอชื่อเป็น รมว.มหาดไทย ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะเป็นกระทรวงใหญ่ และตนก็เพิ่งเข้ามาในพรรค พปช.ถือเป็นพระบวชใหม่ หากพูดไป นายสุเทพ อาจจะสะดุ้งอีกก็ได้
เมื่อถามว่า ช่วงนี้ได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผย แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์อันดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ขนาดตนเข้าพรรค พปช.เขาก็แอบเชียร์ ทั้งนี้ ก็มีคนชอบพูดไปเรื่อยว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้า พปช.เป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ตามกฎหมายแล้วคำว่านอมินีจะต้องเป็นตัวแทนที่ระบุอย่างชัดเจน เช่น ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในเมืองไทยก็ต้องมีนอมินี เพื่อให้มีตัวแทนโดยชอบธรรมทางการเมืองจะบอกว่ามีนอมินีได้อย่างไร และนายสมัคร ก็มีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าพรรคไม่ใช่นอมินี