“พล.อ.สมเจตน์” ลุยตรวจสอบม็อบ “ยี้ห้อยนคร” - สั่งคุมเข้มความปลอดภัยกกต.บุรีรัมย์

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.อ.สมเจตน์” หัวหน้าสำนักงานเลขาฯ คมช.ลุยพื้นที่บุรีรัมย์ ตรวจติดตามม็อบ “ยี้ห้อยนคร” ขับไล่-ข่มขู่ กกต.จังหวัด หลัง 3 ว่าที่ ส.ส.พลังแม้วเขต 1 เจอใบแดงยกทีม เชื่อ กกต.บุรีรัมย์ปฏิบัติหน้าที่โดยเที่ยงธรรม พร้อมสั่งกองกำลังสุรนารี และ ตร.ภาค 3 เฝ้าระวังพวกก่อม็อบสร้างสถานการณ์ และดูแลความปลอดภัย กกต.บุรีรัมย์ เต็มที่ ด้าน ปธ.กกต.บุรีรัมย์ ย้ำนักการเมืองใหญ่อยู่เบื้องหลังม็อบ ล่าสุด 3 ชายฉกรรจ์บุกข่มขู่ภรรยาถึงบ้านพัก

วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เดินทางด้วยเฮลิปคอปเตอร์ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองและกลุ่มมวลชนในพื้นที่ หลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลาง มีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน (พปช.) เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.บุรีรัมย์

จนนำสู่เหตุการณ์ความวุ่นวายในพื้นที่หลายครั้ง โดยเฉพาะการชุมนุมของประชาชนที่ไม่พอใจมติของ กกต.ในการแจกใบแดง จนนำมาซึ่งการชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อล่ารายชื่อถอดถอนประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ และ กกต.จังหวัดฝ่ายสืบสวนสอบสวน
โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ได้ร่วมประชุมลับกับแม่ทัพภาคที่ 2, ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, รองผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการประเมินสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ซึ่งใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

ต่อมาเวลา 16.50 น.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พร้อมคณะที่ได้ประชุมร่วมกันที่ จทบ.บุรีรัมย์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี นายเกษม วัฒนธรรม ประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล กกต.จังหวัดฝ่ายสืบสวน และ นายสุรฉัตร สนทอง กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับก่อนที่จะมีการประชุม เพื่อรับฟังการสรุปสถานการณ์จากประธาน กกต.จังหวัด

นายเกษม วัฒนธรรม ประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ภายหลังจากมีการให้ใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.เขต 1 ว่า มีการชุมนุมของประชาชนที่ไม่พอใจการให้ใบแดงของ กกต.ขึ้น 3 ครั้ง โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ประชาชนจากหลายอำเภอได้มีการชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากแนวคิดของประชาชนโดยตรง ผู้ชุมนุมบางส่วนถูกหลอกว่าให้เดินทางมาลงนามร่วมไว้อาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

บางส่วนถูกหลอกว่าให้มาฟังการปราศรัยของผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ ทั้งหลอกให้มาร่วมชุมนุมแล้วจะได้รับเงิน และบางส่วนถูกหลอกว่ามาชุมนุมเพราะผู้สมัคร ส.ส.ถูกกลั่นแกล้งจาก กกต.และสายข่าวยังรายงานอีกว่าผู้ที่มาชุมนุมได้รับเงินรายละ 300 บาท เจ้าของรถที่นำมาได้รายละ 500 บาท พร้อมค่าน้ำมัน

ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมล้วนเป็นผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูกใบแดง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน และหัวคะแนน นักการเมืองท้องถิ่นกลุ่ม นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งประเมินว่าการชุมนุมครั้งนี้ มีมูลเหตุเคลือบแคลงมุ่งเป้าโจมตีมาที่ประธาน กกต.และ กกต.ฝ่ายสืบสวน เพราะทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบคดีใหญ่ 4 คดีที่นักการเมือง และผู้มีอิทธิพลภายในจังหวัดเข้าไปเกี่ยวข้อง และคดีดังกล่าวกำลังจะถึงที่สุด จึงมีความพยายามย้ายตน และ พ.ต.อ.สังวรณ์ ออกนอกพื้นที่

นายเกษม กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ตนถูกข่มขู่นั้น ได้รับการบอกเล่าว่า มีนักการเมืองที่มีอิทธิพลในพื้นที่คนหนึ่งพูดว่า ตนอยากไปอยู่ที่ไหนจะส่งไปอยู่ที่ชอบๆ นอกจากนี้ ยังมีรถตู้สีทองไปจอดเฝ้าหน้าบ้านพักตน และล่าสุด วันนี้ (8 ม.ค.) มีชายฉกรรณ์ 3 คน เข้าไปในบ้านพัก เข้าไปถามภรรยาตนว่าจะเอาน้ำดื่มหรือไม่ ทั้งที่บ้านพักไม่เคยสั่งซื้อน้ำดื่มเลย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ยังถูกผู้ชุมนุมประท้วงคุกคามอีกด้วย

ต่อจากนั้นประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดวีซีดี บันทึกภาพเหตุการณ์การชุมนุมประท้วง และการปราศรัยบนเวทีของแกนนำผู้ชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้น 3 ครั้ง ภายหลังจากที่มีการแจกใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ ให้หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและคณะดู

ด้าน พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า หลังได้รับทราบจากรายงานและข้อมูลหลักฐาน อีกทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ลงความเห็นชอบมีมติเป็นเอกฉันท์ ยืนตามมติ กกต.กลาง การให้ใบแดง 3 ว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต 1 จ.บุรีรัมย์ เชื่อได้ว่า กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ทำงานตามหน้าที่ ด้วยความบริสุทธิ์ และเที่ยงธรรมไม่ได้เอนเอียง กลั่นแกล้ง หรือวางตัวไม่เป็นกลางตามที่ถูกกล่าวหาจากบุคคลบางกลุ่มที่เสียประโยชน์และไม่พอใจ

ส่วนการออกมาชุมนุมประท้วงกดดัน และข่มขู่ กกต.นั้น ได้ฝากให้กองกำลังสุรนารี และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เฝ้าดูแลความเคลื่อนไหวกลุ่มบุคคลที่จะมาชุมนุมสร้างสถานการณ์ และดูแลความปลอดภัย กกต.จังหวัดอย่างเต็มที่ ไม่ให้เหตุกาณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

“ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสกัดกั้นกลุ่มผู้มีอิทธิพลไม่ให้มีอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย รวมทั้งขอให้นักการเมืองเคารพกฎกติกาไม่ควรใช้พลังมวลชนมากดดัน กกต.สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง ซึ่งอาจจะทำให้พรรคการเมืองที่สังกัดอยู่เสียหาย เพราะสังคมยังเฝ้าติดตามดูอยู่” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว