xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” เดินเกมขัดขาเพื่อน อ้าง 4 กกต.ดึงสันติบาลช่วยไม่ผ่าน สตช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สมชัย” แจกจ่ายหนังสือคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทุจริตของ กกต. อ้างตนเองมีอำนาจเปลี่ยนตัว คกก.สอบสวน หรือตั้งเพิ่มหากมีความจำเป็น แถมประสานผ่าน สตช. มีการตรวจเช็คความเป็นกลางของ ตร.ก่อนให้มาทำหน้าที่ ขณะที่มติตั้งสันติบาลเข้าร่วมงาน เป็นเพียงมติ 4 กกต. “อภิชาต”เซ็นตั้งเอง โดยที่การขอตัว ตร.สันติบาลกว่า 700 คนไม่ผ่านศูนย์ปฏิบัติงานเลือกตั้งของ สตช.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ ( 3 ม.ค.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยได้ นำเอกสารเกี่ยวกับการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้ง ให้เจ้าหน้าที่นำมาแจกต่อสื่อมวลชน โดยเอกสารดังกล่าวมี 3 ฉบับ ประกอบด้วย 1. มติ กกต. ครั้งที่ 98/2550 ลงวันที่ 13 พ.ย. 2550 มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการสรรหาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในการเลือกตั้ง ส.ส. โดย กกต.ได้พิจารณาเรื่องสรรหาบุคลากรตามที่ผู้แทนด้านสืบสวนสอบสอนและวินิจฉัยโดยเห็นชอบให้แต่งตั้งตำรวจจำนวน 1,200 นาย เป็นคณะกรรมการสืบสวนมีหน้าที่สืบสวนเรื่องคัดค้านในพื้นที่เขตเลือกตั้งและให้คณะกรรมการสืบสวนที่ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

โดยให้รองเลขาธิการด้านสืบสวนและ ผอ.สำนักสืบสวนควบคุมดูแลประสานงานในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวน และในมติ มีการระบุว่า “อนึ่ง ในกรณีมีเหตุจำเป็นที่จะเปลี่ยนตัวคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน หรือแต่งตั้งเพิ่มเติมให้ กกต. (นายสมชัย จึงประเสริฐ) ซึ่งดูแลกำกับด้านกิจการสืบสอนสอบสวนและวินิจฉัย พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม และความจำเป็น” ทั้งนี้ มติดังกล่าว กกต. ลงนาม เพียง 4 คน ขาดเพียงนางสดศรี สัตยธรรม ที่ลาการประชุมในช่วงบ่ายเนื่องจากติดภารกิจ

ส่วนเอกสารฉบับที่ 2 เป็น คำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ 300/50 ลงนามโดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ลงวันที่ 14 พ.ย. 50 ซึ่งเป็นเอกสารคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน ตามมติ กกต. ข้างต้น

ทั้งนี้ ก่อนหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนทั้ง 1,200 นายนั้น ทางด้านกิจการสืบสวนสอบสวน โดย พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ลต 0202/ ว 1043 ลงวันที่ 16 ต.ค. 50 เรื่องการสรรหาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในการเลือกตั้ง ส.ส.อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งเอกสารดังกล่าวส่งถึงประธาน กกต.ทุกจังหวัด และ กทม.เพื่อให้ประธาน กกต.จังหวัดทุกจังหวัดสรรหาบุคลากรในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมและเป็นกลางทางการเมือง จำนวน 3 ชุดประกอบด้วย

1. ชุดสืบสวนสอบสวนพิจารณาสรรหาจากตำรวจชั้นสัญญาบัตร ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน (สป.1-3) หรือพนักงานสอบสวนผู้ที่เคยผ่านการอบรมเป็นอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนที่เคยช่วยปฏิบัติงานในการเลือกตั้ง และเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมเป็นกลางทางการเมือง โดยแบ่งเป็นชุดละ 3 คนต่อ ส.ส. แบบแบ่งเขต 1 คน 2.ชุดป้องปรามและหาข่าวพิจารณาสรรหาจากตำรวจฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และผู้มีความเหมาะสมและเป็นกลางทางการเมือง โดยแบ่งเป็นชุดละสองคนต่อ ส.ส. แบบแบ่งเขต 1 คน และ 3.ชุดประจำศูนย์ประสานงานประจำจังหวัดพิจารณาขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัด ๆ ละ 1 ชุด ชุดละ 5 คน และให้จัดการอบรมแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการคัดเลือกทั้ง 1,200 นาย

อีกทั้งภายหลังจากที่ได้รับรายชื่อคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนจากทางจังหวัดทั้ง 1,200 นายแล้ว ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนยังมีคำสั่งให้ตรวจสอบในทางลับว่า คณะกรรมการสืบสวนที่ได้รับการเสนอชื่อนั้นมีความสัมพันธ์กับผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่

ทั้งนี้ การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนตามคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าว ในช่วงก่อนวันเลือกตั้งไม่กี่วัน ถูก กกต. 4 คนมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ มีการยกคำร้องจำนวนมากผิดปกติ จึงได้ขอกำลังจากตำรวจสันติบาลมาช่วยทำให้นายสมชัยไม่พอใจ เพราะเห็นว่าการเข้ามาของตำรวจสันติบาลไม่ถูกต้อง ทำให้ต่อมาเมื่อมีการเสนอสำนวนทุจริตเลือกตั้งโดยตำรวจสันติบาล นายสมชัยก็จะไม่เข้าประชุม

สำหรับมติที่ กกต.ให้ตำรวจสันติบาลเข้ามาสนับสนุนงานของก กต. มีรายงานว่า เป็นมติวันที่ 18 ธ.ค.50 ระบุว่าที่ประชุม กกต.เห็นว่า สันติบาลมีกำลังอยู่ทั่วประเทศ และปฏิบัติงานในทางลับได้ น่าที่จะสนับสนุนภารกิจในการสืบขาวการทุจริตการเลือกตั้ง โดยให้แต่งตั้งสันติบาลจนำวน 708 นาย ให้เป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือการปฏิบัติงานเลือกตั้ง เพื่อสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดและมติดังกล่าวมี กกต.เพียง 4 คนร่วมประชุม โดยขาดนายสมชัยซึ่งต่อมานายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ก็ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งตำรวจสันติบาลเข้ามาสนับสนุนงาน กกต.ในวันที่ 20 ธ.ค.50

การขอกำลังตำรวจสันติบาลมาช่วย กกต.เพิ่มเติมในครั้งนี้ มิได้ผ่านความเห็นชอบของนายสมชัย ทั้งๆ ที่ มติ กกต. ครั้งวันที่ 13 พ.ย.ระบุให้นายสมชัยเป็นคนรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า วันที่ 21 ธ.ค.ทางสำนักงาน กกต.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลเกี่ยวกับการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติสันติบาลที่ช่วยปฏิบัติงาน โดยอ้างคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 358/2550 เรื่องการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ระบุให้ ทางตำรวจสันติบาล ที่ได้รับการแต่ตั้ง ไปรายงานตัว ทั้งนี้ หนังสือยังระบุว่าได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติผ่านผู้อำนายการศูนย์การรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบโดยตรงส่วนหนึ่งแล้ว

เมื่อหนังสือมาถึงมือ พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผบช.ส. ในวันที่ 27 ธ.ค. 2550 ทาง ผบช.ส.ก็ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง พล.ต.อ.วิเชียรพจน์ โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร). ทันที โดยมีเนื้อหาระบุว่า การแต่งตั้ง ตำรวจจากสันติบาลมาช่วยนั้นดังกล่าวไม่มีการเซ็นรับทราบจาก ผอ.ศรส.ลต.ตร.แต่อย่างใด ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่จึงไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์ดังกล่าว แต่เป็นการหารือร่วมกันระหว่าง กกต. และ ตำรวจสันติบาลโดยตรง
กำลังโหลดความคิดเห็น