กรุงเทพฯ - นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเตือนประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนกต่อข่าวการพบผู้ติดเชื้อไข้ไวรัสซิกาในไทย เพราะไทยเคยผ่านไวรัสซิกามาหลายครั้งหลายหน โดยมีขนาดหัวสมองของเหล่านักการเมืองไทยเป็นข้อสังเกต
หลังมีข่าวน่าตื่นตระหนกว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาแถวสาทรถึง 20 ราย และยังมีผู้อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวัง 36 ราย สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้แก่เหล่าผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และเหล่าสามีภรรยาผู้กำลังผลิตลูกกันอย่างเมามัน ด้วยว่าเจ้าไวรัสซิกานี้ จะทำให้ทารกในครรภ์มีหัวสมองเล็กกว่าปกติ และมีพัฒนาการทางสมองช้าอย่างมาก เมื่อทราบข่าวดังกล่าว ทางทีมงานผู้จัดกวนจึงส่งป๋าบัญ นักข่าวนักกวีศรีพระอาทิตย์ไปสัมภาษณ์ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นการด่วน
‘ทางกระทรวงมีแผนรับมือไวรัสซิกาอย่างไรบ้างครับ’ ป๋าบัญยิงคำถามทันทีที่เข้าพบท่านรัฐมนตรี ‘ทางเราคงไม่ต้องซีเรียส ซึ่งทางกระทรวงก็ได้ออกหมาย และออกประกาศให้ประชาชนทราบว่าอย่าได้ตื่นตระหนก เพราะตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเราได้เผชิญต่อไวรัสซิกามาเป็นช่วงๆ และรับมือได้ในระดับหนึ่ง’ ท่านรัฐมนตรีตอบอย่างมั่นใจด้วยรอยยิ้มอบอุ่นตามนิสัย
‘ไทยเราเคยเจอไวรัสซิกามาแล้วหรือครับ เพิ่งรู้นะเนี่ยถ้าท่านรัฐมนตรีไม่บอก’ ป๋าบัญสวนไปด้วยความประหลาดใจ ‘ใช่ครับ คุณคงรู้ว่าไวรัสที่ติดมากับยุงลายนี้ จะทำให้ทารกในครรภ์มีหัวสมองเล็กกว่าปกติ และมีพัฒนาการทางสมองช้าอย่างมาก อย่างที่ทราบ’ ท่านรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมต่อไปด้วยมาดนิ่ง และนิ่ม ‘ถ้าท่านสังเกตคนในวงการเมืองจะเห็นมีผู้เคยติดเชื้อซิกากันเกลื่อนกลาด แสดงความมีสมองเล็กแคระแกร็น และไม่มีพัฒนาการทางสมองอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าอดีตผู้นำบางคนที่โชว์โง่ตลอดอย่าง เจ๊แทงกิ้วทรีไทม์ หรือหนูเอาอยู่ หรือเจ้าของวลี น้ำรอระบาย หรือนัการเมืองอาวุโสเจ้าของรถบรรทุก 28 ตัน ดูสิ แต่ละคนสมองเล็กจิ๋วหลิว พัฒนาการทางสมองก็ต่ำมั่กๆ แสดงว่าบุคคลเหล่านี้ล้วนผ่านการติดเชื้อไวรัสซิกามาแล้วทั้งนั้น’ ท่านรัฐมนตรีกล่าวอย่างมั่นใจ
‘ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกให้มาก และจงใช้ชีวิตชิลๆ แต่เพิ่มความระมัดระวังอย่าให้ยุงลายกัด เพื่อจะได้ไม่มีสมองเล็กไร้พัฒนาการอย่างนักการเมืองที่เห็นๆ กันอยู่’ ท่านรัฐมนตรียิ้มพร้อมกล่าวทิ้งท้ายกับป๋าบัญ