หากกล่าวกันเฉพาะหน้า หรือพูดอีกอย่างว่าเรื่องราวที่เราจะเอ่ยอ้าง นับเฉพาะปัจจุบัน ไวรัสอีโบลาที่กำลังระบาดหนักอยู่ที่แอฟริกาตะวันตก คร่าชีวิตผู้คนในโลกไปแล้วเกือบ 100 ศพ ขาด-เกิน ไม่น่าจะหลักสิบ
แม้เจ้าไวรัสร้ายที่มีต้นสายมาจากค้างคาวจะแสดงฤทธิ์เดช ส่งผลให้ผู้คนใน 3 ประเทศ อันได้แก่ กินี เซียร์รา ลีโอน และไลบีเรีย เสียชีวิต รวมทั้งติดเชื้อเป็นจำนวนชวนขนหัวลุก แต่ว่ากันตามจริง ทั้งๆ ที่ 3 ประเทศ อยู่ห่างไกลจากประเทศไทยชนิดหลายคนหลับตาจินตนาภาพไม่ออกว่ามันไกล ไกล๊ ไกลแค่ไหน แต่ก็กลับมีคนไทยจำนวนไม่น้อยกริ่งเกรงว่าอีโบลา อาจจะแอบย่องเบาเข้ามาถึงประเทศไทยด้วยความเงียบแฝงอภิมหามรณะเรียบร้อยแล้ว
อย่างน้อยอย่างหนึ่งก็คนไข้ที่เมืองจันท์ ซึ่งนายแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลต้องรุดออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าว
ยืนยันว่า ไม่มีคนไข้ติดเชื้อร้ายอีโบลา
ทว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองไทยยังไม่วายเฝ้าระวัง-ติดตาม คนบางคนที่อาจกลายเป็น “พาหะนำโรค” อย่างไม่คลาดสายตา โดยเฉพาะคนที่เพิ่งผ่านทางไป หรือมาจากกินี เซียร์รา ลีโอน และไลบีเรีย
ข้อมูลหนึ่งซึ่งพอจะทำให้คนไทยอุ่นใจได้คือ มีรายงานว่าอีโบลา ไม่ร้ายเท่าไข้หวัดซาร์ส ที่เมื่อไม่กี่ปีก่อนระบาดมาจากจีน กับฮ่องกง
ทั้งจีน กับฮ่องกงอยู่ใกล้ไทยมากกว่า 3 กระบวนการสาธารณสุขของไทยยัง “เอาอยู่” สำมะหาอะไรกับอีโบลาที่อยู่ไกลแทบจะคนละขอบฟ้าก็ว่าได้
เหนือยื่งสิ่งใด กลับยังมีเชื้อร้ายประเภทหนึ่งซึ่งยังคงดำรงอยู่ในทุกอณูของเมืองไทย ไม่แปรเปลี่ยน
ถูกต้อง...เชื้ออีโง่!?!
เชื้ออีโง่ หาได้มีต้นตอจากสัตว์สายพันธุ์ไหน เพราะมันอุบัติออกมาจากคนตระกูลหนึ่งอันส่งทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
ไม่เว้นกระทั่งข้าทาสบริวาร เป็นวงจรหายนะเยี่ยงเดียวกับแดร็กคูล่า
สิริรวมแค่ 2 ปีกว่า เชื้ออีโง่ ทึ้งชีวิตคนไทยไปกว่า 200 ศพ สาหัสงอมพระรามอีกไม่รู้กี่พันคน
แล้วจนบัดยี้ยังไม่มีการระบุให้อุ่นใจว่า มีการพบวัคซีนป้องกัน หรือทำลายล้างเชื้ออีโง่ได้
แม้ช่วงยามนี้เชื้ออีโง่เจอวัคซีนพิเศษสะกดจุดไว้ กลับมิได้หมายความว่า มันจะไม่ย้อนรอยมาระบาดอีก
เนื่องเพราะเชื้ออีโง่ถูกกระจายไวรัสอยู่ทั่วทุกแห่งหนบนผืนแผ่นดินไทย แล้วโดยในความเป็นจริงมันสิงสู่อยู่ในประเทศไทยมาไม่ต่ำกว่าสิบปี ขณะที่อีโบลา ยังอยู่กันคนละขอบฟ้า
คุณจะไม่ถามตัวเองสักประโยคหรือว่า ระหว่างอีโบลา กับอีโง่ เชื้อร้ายตัวไหนน่ากลัวกว่ากัน?!?