คอลัมภ์ : ป๋าบัญพาก๊วนยวนบ้านคนดัง
ถ้าเขาสองคนไม่กล้าตัดสินใจแทนคนไทยเกือบค่อนประเทศว่าด้วยเรื่องชกหน้าอาจารย์วรเจตน์ หัวโจกนิติเรด เชื่อว่าป่านนี้ทั้ง “สุพจน์-สุพัฒน์” แห่งเมืองปทุมธานี คงไม่มีรูปถ่ายลงในหนังสือพิมพ์ และไปโผล่โทรทัศน์ทุกช่องของประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาสองคนกลายเป็นฮีโร่ไปโดยปริยาย ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นปรปักษ์ของแฟนคลับทักษิณควบคู่ไปด้วย
ทันทีที่คู่แฝดสยบภัย - มหาภัยบินกลับจากฮาวาย กระทาชายนายบักแหลมรุดไปเยี่ยมเยือนสุพจน์กับสุพัฒน์ที่บ้านชานเมืองปทุม ก่อนเก็บเอาความในใจมาให้ชาวผู้จัดกวนรับรู้ร่วมกัน
“ผมยืนยันว่าสาเหตุที่ชกหน้าไอ้คุณอาจารย์วรเจตน์วรเจี๊ยกอะไรนั่นมันยังไม่สำมะคัญเท่ากับภารกิจที่หลงเหลืออยู่ เอ้า! คุณดูโปรแกรมการชกของผมสองคนคร่าวๆ ไว้ล่วงหน้าก่อนก็ได้” สุพจน์บอก
“ฮ้า! บักแหลมตาค้าง “ขนาดนี้เลยรึเนี่ย”
“ครับ ตอนแรกผมไม่คิดว่าเราสองคนจะมีรายการชกมากถึงขนาดนี้ แต่ทันทีที่ไฟต์แรกของพวกผมผ่านพ้นไป คือชกหน้าอาจารย์วรเจตน์เปรี้ยงเดียวเท่านั้น มีโปรโมเตอร์ที่แจ้งชื่อบ้าง ไม่แจ้งชื่อบ้าง โอนสตางค์ค่าจ้างการชกไฟต์หน้าตลอดทั้งเดือนมาใส่ในบัญชีของผมสองคนอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่าเดือนนี้ทั้งเดือนและอาจยันถึงต้นปีหน้า ผมกับพี่ชายแทบไม่มีวันไหนว่างเลย ต้องชกโชว์เกือบทุกวัน”
“รู้หรือเปล่าว่าผิดกฎหมาย” บักแหลมจับไหล่สองฝาแฝดป้อนคำถามดังๆ
“รู้ครับ แต่พวกเราจำเป็นต้องทำ ไม่เห็นแก่ค่าจ้าง แต่เห็นว่าเป็นเรื่อง สมควร เพราะคนที่พวกเรามีโปรแกรมจะชกด้วย คนเหล่านี้ก็ละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น นั่นคือผิดกฎหมายเหมือนกัน”
“บางคนในปฏิทินเหลือร้ายไม่ใช่เล่น” บักแหลมน้ำเสียงเป็นห่วง
“ขอบคุณครับที่เตือน ผมสองคนรู้ดีว่ามีอันตรายรออยู่ข้างหน้า แต่ผมเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีนักชกโนเนมอย่างผมเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย ผมไม่ได้อยากเห็นคนไทยกลายเป็นนักชกข้างถนน หรือทำร้ายกันเอง เพียงแต่กุ๊ยทรงเกียรติมันเยอะมาก ดังนั้นต้องใช้วิธีหนามยอกต้องใช้หนามบ่ง ไม่งั้นบ้านเมืองก็ถูกคนหางแดงครองเมืองหมดเท่านั้น” ฝาแฝดยืนยันก่อนขอตัวไปฟิตซ้อมเพื่อไฟต์เกียรติยศที่ยังคงรออยู่อีกบานตะไท