เจาะลึกเบื้องหลังการจัดซื้อจัดจ้าง ซีเกมส์ 2568 ความเร่งรีบหรือการเตรียมการที่แนบเนียน
ท่ามกลางความยินดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568) กลับมีกลิ่นไม่ชอบมาพากลโชยออกมาจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการ "การจัดพิธีเปิด-ปิด" มูลค่ากว่า 142 ล้านบาท เมื่อพบว่าไทม์ไลน์การทำงานของภาครัฐมีความรวดเร็วผิดปกติ จนนำไปสู่การตั้งคำถามจากสังคมถึงความโปร่งใส และการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 อย่างเคร่งครัดหรือไม่
"วิธีคัดเลือก" กับเวลา 2 วันมหัศจรรย์
จากการตรวจสอบเอกสารและไทม์ไลน์ที่ปรากฏ พบความผิดปกติวิสัย คือ:
• 1 ธ.ค. 2568: ประกาศราคากลาง และออกหนังสือเชิญ 4 บริษัท
• 2 ธ.ค. 2568: ยื่นซอง, พิจารณาผล, และตรวจสอบเอกสาร (มูลค่างาน 142 ล้านบาท)
• 3 ธ.ค. 2568: ประกาศผู้ชนะ คือ บมจ. อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ
ข้อสังเกตทางกฎหมาย: การใช้ "วิธีคัดเลือก" (Selection Method) ตามมาตรา 56 (1) ของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 นั้นจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุผลพิเศษ เช่น เป็นพัสดุที่ต้องซื้อโดยตรงจากผู้ผลิต หรือมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจคาดหมายได้ แต่ในกรณีนี้ไทยรับไม้ต่อเป็นเจ้าภาพมานานถึง 2 ปี เหตุใดจึงปล่อยเวลาล่วงเลยจนต้องเร่งรัดกระบวนการเหลือเพียง 2 วัน?
หากความเร่งด่วนเกิดจากความล่าช้าของหน่วยงานรัฐเอง การใช้วิธีคัดเลือกอาจเข้าข่ายการบริหารงานบกพร่อง และอาจไม่สามารถอ้างเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วนตามกฎหมายได้
งานเอกสารระดับ "ซูเปอร์เอ็กซ์เพรส"
ความน่าสงสัยอยู่ที่ความเป็นไปได้ทางปฏิบัติหลายประการ:
1. การส่งหนังสือเชิญ: การส่งไปรษณีย์หรืออีเมลถึง 4 บริษัท และบริษัททำเล่มเสนอราคา (Proposal) มูลค่าร้อยล้านเสร็จภายใน 1 วันทำการ เป็นเรื่องที่ท้าทายวิสัยความสามารถปกติอย่างยิ่ง หากไม่มีการ "เตรียมการ" มาก่อน
2. หลักค้ำประกันสัญญา: ปกติธนาคารใช้เวลา 3-4 วันทำการในการออกหนังสือค้ำประกัน (Bank Guarantee) แต่กรณีนี้กลับดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับวันหยุด
3. ส่วนลด 0.10%: ราคาที่ชนะประมูลต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อยมาก เป็นตัวเลขทางสถิติที่มักพบในกรณีที่มีการแข่งขันน้อยราย หรือมีการกำหนดเพดานราคาที่รู้กันเฉพาะกลุ่ม
"ใบสั่ง" ล่วงหน้า? การเข้าพื้นที่เตรียมงานก่อนประกาศและการลงนามในสัญญา
ข้อมูลเชิงลึกระบุว่า มีการเข้าติดตั้งโครงสร้าง เวที ระบบไฟฟ้า และสระน้ำ ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งเกิดขึ้น ก่อนวันประกาศราคากลาง (1 ธ.ค. 68) และก่อนการลงนามสัญญา
ข้อกฎหมายที่ต้องระวัง: การอนุญาตให้เอกชนเข้าทำงานก่อนลงนามในสัญญา เป็นความเสี่ยงมหาศาลของผู้มีอำนาจ
• ระเบียบกระทรวงการคลังฯ: ห้ามมิให้ก่อหนี้ผูกพันก่อนได้รับอนุมัติเงินประจำงวดและลงนามในสัญญา
• ความรับผิดทางละเมิด: หากเกิดความเสียหาย หรือสัญญาไม่ได้รับการอนุมัติ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้ว?
งานบกพร่องจากการ "ลักไก่"
เมื่อการติดตั้งเกิดขึ้นก่อนแบบรูปรายการ (Detailed Design) จะได้รับอนุมัติ ส่งผลให้ช่วงวันที่ 4-8 ธ.ค. 2568 ซึ่งมีการติดตั้งระบบแสงสีเสียง พบข้อผิดพลาดของเนื้องานจำนวนมาก สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า "การตรวจรับพัสดุ" อาจไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะไม่มีแบบที่ผ่านการอนุมัติเป็นเกณฑ์ในการตรวจ (Reference)
บทสรุป
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความ "เร็ว" แต่เป็นเรื่องของ "ความชอบด้วยกฎหมาย" (Legality) และ "เจตนา" (Intent)
ในฐานะสื่อมวลชน เราไม่ได้ตัดสินว่า บมจ.อินเด็กซ์ฯ หรือเอกชนรายใดกระทำผิด เพราะเอกชนมีหน้าที่ทำธุรกิจ แต่เรากำลังตั้งคำถามต่อ "คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง" และ "ผู้มีอำนาจอนุมัติ" ของหน่วยงานเจ้าของโครงการว่า:
1. เหตุผลแห่งความจำเป็น: ท่านจะอธิบายต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อย่างไร เรื่องการปล่อยเวลา 2 ปี ให้สูญเปล่า จนต้องมาใช้วิธี "เผา" ขั้นตอนใน 2 วันสุดท้าย?
2. นิติกรรมอำพราง: การเข้าทำงานก่อนสัญญาเซ็น เป็นการเอื้อประโยชน์ (Conflict of Interest) หรือมีการตกลงกันนอกรอบ (Collusion) หรือไม่? ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) มาตรา 11 และ 12
3. มาตรฐานความปลอดภัย: งานที่ทำไปก่อนแบบอนุมัติ หากเกิดอุบัติเหตุในวันจริง ใครจะรับผิดชอบชีวิตผู้ร่วมงาน?
ถึงเวลาที่องค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช.และ สตง.ต้องก้าวเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินและไทม์ไลน์เอกสารอย่างละเอียด ก่อนที่ "มหกรรมกีฬาแห่งชาติ" จะกลายเป็น "มหกรรมกินรวบแห่งชาติ"


