ผู้จัดการรายวัน 360 – “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่ง มอลล์” หรือ ILM เดินแผนขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่อง คว้าสิทธิ์แฟรนไชส์รายเดียวในไทยของแบรนด์ร้านไลฟ์สไตล์ “Flying Tiger Copenhagen” จากโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก เบื้องต้นทุ่ม 200 ล้านบาท ปููพรม30 สาขาภายใน 3ปี คาดหวังรายได้ 800 ล้านบาท
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM กล่าวว่า อินเด็กซ์ฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “INDEX NEXTPERIENCE & BEYOND + SUSTAINABLE FUTURE” ตามที่ได้วางนโยบายกรอบแผนงาน 3 ปี (2567-2569) ยึดแนวคิด Triple Bottom Line สูตร 3 P ‘Performance –People –Planet’ เพื่อสร้างการเติบโตทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่ “Beyond Core Business”
การเดินหน้าขยายขอบเขตจากผู้นำธุรกิจ Living Lifestyle Mall ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทาย รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งความต้องการของผู้บริโภคและภูมิทัศน์ทางธุรกิจ โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอด Business Diversification ที่ยัง Synergy กับธุรกิจหลัก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับพอร์ตโฟลิโอสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง
ล่าสุดบริษัทได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ในไทยเพียงรายเดียวร้าน “Flying Tiger Copenhagen” (ฟลายอิ้ง ไทเกอร์ โคเปนเฮเกน) แบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศเดนมาร์ก ของบริษัท Zebra A/S โดยมีสัญญาเบื้องต้นนาน 5 ปี
บริษัทฯ วางแผนการขยายสาขา 3 ปี (2568-2570) งบลงทุน 200 ล้านบาท เปิด “Flying Tiger Copenhagen” 30 สาขาทั่วประเทศ มองเป้าหมายไปที่ศูนย์การค้าชั้นนำ และ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในรูปแบบ shop in shop พื้นที่ 150–250 ตร.ม. เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้า 'เอ็มสเฟียร์' ซึ่งมีกำลังซื้อสูงจากกลุ่มคนทำงานเป็นไพร์มแอเรีย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยพื้นที่ 160 ตร.ม. และในปีนี้เตรียมเปิดอีก 5 สาขา ได้แก่ ILM สาขาพัทยา, แฟชันไอส์แลนด์, ซีคอนสแควร์, แพลทินัม แฟชันมอลล์ และ เดอะมอลล์ บางกะปิ
“การแตกไลน์แบรนด์ใหม่ Flying Tiger Copenhagen ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดค้าปลีกในไทย แต่ยังสร้างสีสันความหลากหลายและขยายตลาดให้กับธุรกิจค้าปลีกสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ให้ใหญ่ขึ้น เรามองเห็นช่องว่างในตลาดที่ผู้บริโภคกำลังมองหาสินค้าที่เข้าถึงได้ง่าย เราขยายอาณาจักรค้าปลีกใหม่ในเซ็กเมนต์ใหม่จากที่เป็นผู้นำธุรกิจ Living lifestyle mall ร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้านและของตกแต่งบ้าน ซึ่งด้วยศักยภาพและกลยุทธ์ Flying Tiger Copenhagen ที่มีความเด่นชัดด้านไอเดียสินค้าที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ มีความสนุก ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่เหนือกว่าการช้อปปิ้งทั่วไป ในราคาที่ไม่แพง เชื่อมั่นว่า Flying Tiger Copenhagen จะเป็นหมุดหมายแห่งการช้อปสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกGen โดยวางเป้าหมาย 3 ปี Flying Tiger Copenhagen ทำรายได้ 800 ล้านบาท” นางสาวกฤษชนก กล่าว
ข้อมูลจาก Euromonitor, Statista, NielsenIQ, Market Estimates (2024) ระบุว่า ตลาดร้านค้าปลีกกลุ่มของขวัญและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 30,300 ล้านบาทในปี 2567 และเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 7% จากปีที่ผ่านมา ตอกย้ำว่ากำลังซื้อสินค้าประเภทนี้เติบโตโดดเด่นในเมืองใหญ่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา รวมถึงร้านค้าแฟรนไชส์ ไลฟ์สไตล์ที่เติบโตสูงสุดถึง 66.7% ทำให้เห็นถึงความต้องการที่ชัดเจนของตลาด จึงเป็นโอกาสในการขยายตลาดค้าปลีก รวมทั้งช่องว่างสินค้าที่มีความยูนีคสไตล์เดนิช
โดยมีสินค้ามากกว่า 1,700 SKU รวม 14 กลุ่มสินค้า เช่น แกดเจ็ต เกมส์ ของใช้ในบ้าน และเครื่องครัว ไอเทมสำหรับงานอดิเรก สำหรับกิจกรรมยามว่าง เครื่องเขียน อุปกรณ์จัดงานเลี้ยงและปาร์ตี้ ของเล่นเด็ก อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์สำนักงาน ของขวัญและสินค้าตามเทศกาล ฯลฯ สินค้าถูกออกแบบจากทางโคเปนเฮเกนก่อนที่จะส่งต่อให้แหล่งผลิตในหลายประเทศผลิต
ปัจจุบัน Insight ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่ม Millennials และ Gen Z มีความชื่นชอบและให้คุณค่ากับสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีความสนุกสนาน แปลกใหม่เน้นดีไซน์ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า การมาเลือกช้อปสินค้าไลฟ์สไตล์ ราว 70% เข้ามาในร้านเพื่อมองหา ‘อะไรใหม่ๆ’ หรือ ‘สินค้าที่คาดไม่ถึง’ และอีก 50% จะเลือกช้อปของขวัญชิ้นเล็กๆ หรือของที่ระลึก และ 45% มองหาสินค้าที่ทำให้ชีวิตประจำวันสนุกมากขึ้น โดยการช้อปของกลุ่ม Gen Z (อายุ 15-25 ปี) จะเลือกสินค้าที่สนุก แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เน้นให้รางวัลกับตัวเอง ใช้จ่ายเฉลี่ย 200-350 บาทต่อครั้ง, กลุ่มวัยทำงาน (Young Professionals - อายุ 25-35 ปี) เน้นเลือกของแต่งบ้าน, ของขวัญ, และของใช้ไลฟ์สไตล์อื่นๆ จะใช้จ่ายเฉลี่ย 400-700 บาทต่อครั้ง ส่วนกลุ่มครอบครัวมีเด็ก (อายุ 30-45 ปี) เน้นของเล่น, ของใช้สำหรับจัดปาร์ตี้, และของตกแต่งตามเทศกาล ใช้จ่ายเฉลี่ย 500-1,000 บาทต่อครั้ง
นาย Martin Jermiin ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Zebra A/S ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์ Flying Tiger Copenhagen กล่าวว่า “Flying Tiger Copenhagen” วางแผนสร้างการเติบโตด้วยโมเดลแฟรนไชส์ เพื่อขยายสาขาสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงเฉพาะในทวีปยุโรปเท่านั้น ยังรวมถึงตะวันออกกลางโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง
ประเทศไทยเป็นเป้าหมายที่เรามองเห็นศักยภาพ และมุ่งมั่นที่จะเข้ามาทำตลาดและขยายธุรกิจอย่างยาวนาน จากการมองเห็นโอกาสจากหลายปัจจัย ทั้งธุรกิจร้านค้าปลีกวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของเมือง การเข้าถึงเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์และสินค้าที่มีดีไซน์แปลกใหม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ที่จะมาช่วยเติมเต็มความสุขให้กับทุกคน และด้วยความตื่นเต้นยินดีและความเชื่อมั่นอย่างยิ่งที่เราจึงได้ก้าวไปอีกขั้นร่วมกับ Index Living Mall ในครั้งนี้
Mr. Jens Aarup Mikkelsen (เยนส์ อารุป มิกเกลเซน), CEO International of Flying Tiger Copenhagenกล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง Flying Tiger Copenhagen กับ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นเป้าหมายแผนขยายการเติบโตของแบรนด์ที่จะสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ให้ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงอีกหนึ่งตลาดสำหรับเรา แต่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญในการเติบโต บริษัทฯ พร้อมที่จะนำเสนอสินค้าไอเดียใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและรับกับวัฒนธรรมของคนไทย ด้วยไอเทมที่สนุกและสร้างสรรค์ และประสบการณ์ช้อปด้วยสินค้าวาไรตี้และไลฟ์สไตล์ในสไตล์เดนิชที่แรกในไทย
ในฐานะที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีประสบการณ์และความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน เกี่ยวกับสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้าน รวมทั้งมีธุรกิจค้าปลีกในเครือ ซึ่งถือว่ามีความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตทางธุรกิจร่วมกันได้ และจะเข้ามาเปลี่ยนการช้อปและการใช้ชีวิตของหลายคนให้สนุก และสร้างสรรค์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภายใต้แบรนด์ ‘Flying Tiger Copenhagen’