"ชูวิทย์" ฝากถึง "เท้ง" ไม่ใช่เวลาหาเสียง หลังออกมาท้วงติงรัฐบาลปมปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่นนักการเมืองควร “ปิดปาก” ปล่อยทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย
วานนี้ (9 ธ.ค. 2568) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถึงกรณี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ออกมาแสดงความเห็นท้วงติงรัฐบาลในการแก้ปัญหาสงครามชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ...
นักการเมืองหยุดหาเสียง
การเมืองมีฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน
โดยปกติฝ่ายรัฐบาลทำอะไร ฝ่ายค้านต้องคอยแย้งไม่เห็นด้วย
ในช่วงนี้ที่ นายกฯ อนุทิน ทิ้งการเจรจา และให้รบปะทะกับเขมร
ได้ใจประชาชน
แล้วก็มีฝ่ายค้านอย่างคุณเท้ง พรรคประชาชน บอกว่าต้นตอการปะทะครั้งนี้ และทุกครั้งเกิดจากฮุนเซนต้องการปกป้องสแกมเมอร์
ล่าสุดที่ ปปง.อายัดเงินหมื่นล้านของ เบน สมิธ ก๊กอาน ยิมเลียก เฉินจื้อ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปหยกๆ
คุณเท้งยังบอกว่าฮุนเซนเบี่ยงประเด็น พลิกสถานการณ์ที่โลกล้อมกัมพูชาเรื่องสแกมเมอร์ ให้กลายเป็นโลกมาล้อมไทยที่รังแกรุกรานประเทศที่อ่อนแอกว่า
และสรุปว่า “หยุดเดินอ้อม ต้องพุ่งเป้าสู่แกนกลางปัญหา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหยุดชนชั้นนำที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
หยุดสร้างสงครามเพื่อกลบเกลื่อนอาชญากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ โดยใช้เลือดเนื้อของทหาร และประชาชนเป็นตัวประกัน”
นี่คือสิ่งที่นักการเมืองอย่างเท้ง พยายามจะหาเสียงเสียมากกว่า
หยุดความเห็น และตั้งสมมติฐานที่แตกต่างเสียก่อน
เพราะมันไม่ใช่เวลาหาเสียง หรือขัดแย้งกันเอง
ณ เวลานี้ ประเทศต้องการความสามัคคีอันแน่วแน่
ในเมื่อกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มยิงมาก่อน
ภาวะผู้นำอย่างอนุทิน ขณะนี้ไม่มีทางเลือกมากนัก
นอกจากย้ำว่า "ปกป้องอธิปไตย"
แม้เข้าใจได้ว่า "สงครามจะสร้างวีรบุรุษ ให้นักการเมืองใช้ในการหาเสียง"
แต่มันย่อมไม่ใช่เวลาที่จะมาท้วงติง
เพราะมันเป็นเวลาที่จะต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อต่อต้านผู้รุกรานอธิปไตยเสียก่อน
พรรคประชาชนในสมัยพิธาหาเสียงก็บอกประชาชนว่า
“ไม่มีการรุกรานประเทศที่อยู่ใกล้ๆ กัน มันไม่มีทะเลาะกันแล้ว บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพแล้วด้วย”
สิ่งที่พิธา พรรคก้าวไกล เคยพูดไว้ กับตอนนี้ที่ เท้ง พรรคประชาชนเพิ่งพูดไป
ผมว่าหยุดพูดก่อนดีกว่า
เป็นเวลาที่นักการเมืองควร “ปิดปาก” ไว้
และปล่อยให้ทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย


