xs
xsm
sm
md
lg

"แม่ทัพเติ่ง-ผบ.ทหารภาค 4 กัมพูชา" ลงนามแผนปรับกำลัง-ถอนอาวุธหนัก 3 เฟส เริ่ม 1 พ.ย.วัดใจเขมรถอนจรวดหมายลำกล้องหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ทัพภาคที่ 2 ไทย - ผบ.ภภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชาลงนามแผนปฏิบัติการปรับกำลังและถอนอาวุธหนัก 3 เฟส หลังคุย RBC วาระพิเศษ วัดใจ”กัมพูชา” ดีเดย์ 1 พ.ย. ถอนจรวดหลายลำกล้อง โชว์ AOT เผยหากฝ่ายใดปกปิดหรือบิดเบือนจำนวนหรือประเภทของอาวุธ ถือว่าไม่จริงใจ


เมื่อวันที่ 31 ต.ค.68 ที่ด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกแถลงข่าวการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) พิเศษ ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักและอาวุธทำลายล้างสูง ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย

โดยการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยพิเศษ ว่าด้วยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และกองทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย จัดขึ้น

โดยมี พล.ท.โปว เฮง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พล.ท.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 แห่งราชอาณาจักรไทย เป็นประธานร่วม และมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) จากทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา เข้าร่วมสังเกตการณ์ในที่ประชุม

สำหรับการประชุมจัดขึ้นตามผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 และอยู่ภายใต้แนวทางและหลักการของ ถ้อยแถลงที่ได้ลงนามในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ต.ค.68 โดยนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ไทย และมาเลเชีย ร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมันร่วมกันของทั้งสี่ประเทศในการส่งเสริม ความโปร่งใส


การสร้างความไว้วางใจ และการบริหารจัดการกำลังทางทหารอย่างมี ความรับผิดชอบในภูมิภาค ทั้ง 2 ฝ่าย จึงได้ตกลงร่วมกันในการดำเนินการถอนอาวุธหนักเป็นระยะ (Phased Removal) และมาตรการสร้างความไว้วางใจร่วมกัน เพื่อเสริมสร้าง ความเชื่อใจระหว่างกันและ เสถียรภาพตามแนวชายแดนไทย - ก้มพูชา

โดยได้นิยามและการจำแนกอาวุธ 3 ประเภท ดังนี้

1 ประเภท A หมายถึง ระบบจรวดหลายลำกล้องที่มีตั้งแต่ 2 ลำกล้องขึ้นไป

2 ประเภท B หมายถึง ระบบปืนใหญ่ทุกประเภท ประกอบด้วยระบบปืนใหญ่ลากจูงและปืนใหญ่อัตราจร รวมถึงปืนใหญ่ขนาด 105 มม. 122 มม. 130 มม. 152 มม. และ 155 155 141

3 ประเภท C หมายถึง รถหุ้มเกราะ โดยเฉพาะรถถัง ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีการเคลื่อนที่ที่ได้รับการปกป้อง อำนาจการยิงที่เหนือกว่า และกำลังสนับสนุนโดยตรง

ทั้งสองฝ่ายยืนยันเจตนารมณ์ที่จะเคารพซึ่งกันและกัน และปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ไทย - กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 และหลักการในถ้อยแถลงที่ได้ร่วมลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างเคร่งครัด เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน

โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการถอนอาวุธทั้งสามประเภท (ประเภท A ประเภท B และประเภท C) โดยแบ่งเป็นระยะ ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT ตามแผนปฏิบัติการ

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่ จะอำนวยความสะดวกการตรวจสอบ จัดทำเอกสาร และสังเกตการณ์ของ AOT ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะออกแถลงข่าวเพื่อรายงานความคืบหน้าและการตรวจสอบ กระบวนการถอนอาวุธ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณะ ทั้งสองฝ่ายตกลงว่า หากฝ่ายใดปกปิดหรือบิดเบือนจำนวนหรือประเภทของอาวุธ ถือว่า การกระทำดังกล่าวสื่อถึงความไม่จริงใจในการคืนสู'สภาวะปกติ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

การถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ประเภท A) ภายใต้ระยะที่ 1 จะดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 - 21 พ.ย.68 ภายใต้การสังเกตการณ์ และตรวจสอบของ AOT การประชุมฝ่ายเลขานุการ RBC เพื่อวางแผนและดำเนินการสำหรับระยะที่ 2 จะจัดขึ้นวันที่ 15 พ.ย.68 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT

โดยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในระยะที่ 2 (ประเภท B) จะดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. - 12 ธ.ค. 68 ภายใต้การสังเกตการณ์และ ตรวจสอบของ AOT การประชุมฝ่ายเลขานุการ RBC เพื่อวางแผนและดำเนินการระยะที่ 3 จะจัดขึ้นในวันทีทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันต่อไป ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT

โดยการถอนอาวุธหนักและอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในระยะที่ 3 (ประเภท C) กำหนดให้ ดำเนินการเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที 13 - 31 ธันวาคม 2568 ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOTการประชุมฝ้ายเลขานุการ RBC อาจจัดผ่านระบบออนไลน์หรือในสถานที่ร่วมกัน ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลง ภายใต้การสังเกตการณ์และตรวจสอบของ AOT เพื่อให้เกิด การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ การปรึกษาหารืออย่างทันท่วงที และการดำเนินการถอนอาวุธและตรวจสอบที่มีประสิทธิผล

กองทัพภาคที่ 2 ยืนยัน ทุกก้าวแห่งการปฏิบัติ อยู่บนพื้นฐานของอธิปไตยผลประโยชน์ของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน




ขณะที่สำนักข่าว "เฟรชนิวส์" สื่อออนไลน์ ชื่อดังของกัมพูชา นำเสนอข่าว มีเนื้อหาระบุว่า กองทัพบกกัมพูชา ภาค 4 และกองทัพไทย ภาค 2 เห็นด้วยกับแผนเฉพาะ เพื่ออํานวยความสะดวกทั้งถอนอาวุธหนักอย่างเป็นขั้นตอน ภายใต้การสังเกตและการตรวจสอบของ อท.

ในภาพ จะเป็นผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่4กัมพูชา และ พล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้ตกลงแผนการเฉพาะเจาะจงในการ อํานวยความสะดวกในการถอนอาวุธหนักทั้งสองฝ่ายตามขั้นตอนภายใต้การสังเกตการณ์และการตรวจสอบของกลุ่มผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)

มีการทําข้อตกลงในการประชุม RBC ชนบทกัมพูชา-ไทย บ่ายวันที่ 31 ตุลาคม 2025 ณ ประตูชายแดนออสแมค จ.อุดดาร์ มีเชย นําการประชุมโดย พลเอก โปวเฮง ผู้บัญชาการกองทัพหมู่บ้านที่ 4 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พลเอก วีระยุทธ รักษ์ สิงห์ ผู้บัญชาการกองทัพบกที่ 2 แห่งราชอาณาจักร ประเทศไทย โดยการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ในกัมพูชา และ ประเทศไทย เพื่อติดตาม ตรวจสอบ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าการหยุดยิงอย่างเต็มที่ ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

การประชุมสิ้นสุดเวลา 15:47 ผลที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบและลงนามในบันทึกร่วมกันเกี่ยวกับ "อาวุธหนักและการแก้ไขผู้ทําลายหนัก"

ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่นอนที่จะนําเอกสารความสําเร็จที่สําคัญนี้ไปใช้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ในเวลาเดียวกัน กัมพูชาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าก้าวที่ดีนี้จะมีส่วนร่วมในการร่วมของทั้งสองประเทศเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และกลับสู่สภาวะปกติในอนาคตอันใกล้






กำลังโหลดความคิดเห็น