ทหารพราน-ฉก.อรัญฯ ร้องเพลงสยามานุสสติ เดินหน้ากระดานสแกนพื้นที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วหลังทำลายทุ่นระเบิดเสร็จสิ้น เพิ่มความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน เผยพลเรือนปรับท่าที “หนังสารคดี-กระจายเสียง” รอดูกัมพูชา ขณะที่เตรียมสำรวจพื้นที่เหมาะสมเพื่อวางแผนสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัยและแนวป้องกัน
กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 18.00 น. ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ดังนี้ สถานการณ์ด้านความมั่นคงชายแดน จ.สระแก้ว โดยฝ่ายไทย บริเวณ จต.ส.40 บ.หนองจาน พบความเคลื่อนไหวประชาชนและสื่อมวลชน ประมาณ 30 คน ร่วมแสดงกิจกรรมแสดงออกถึงความรักชาติและหวงแหนอธิปไตย
ส่วนฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชา บ.ไปรจัน ประชาชนยังคงใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ยังไม่ได้อพยพออกจากพื้นที่แต่อย่างใด สถานการณ์ทั่วไปเป็นปกติ
การปฏิบัติการที่สำคัญ กกล.บูรพา โดย ฉก.อรัญประเทศ รายงานการจับกุมชาวไทยลักลอบข้ามแดนเข้าไทยผิดกฎหมาย จำนวน 15 คน (ชาย 6 คน และหญิง 9 คน) ซึ่งได้รับการติดต่อให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ปอยเปต ฝั่งกัมพูชาและต้องการกลับมายังฝั่งไทย โดย จนท.ชุดจับกุมได้ลาดตระเวนมาตรวจพบขณะลักลอบเข้าไทยตามช่องทางธรรมชาติ และแสดงตัวจับกุมในพื้นที่บ้านเนินสมบูรณ์ ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ และดำเนินการส่งให้กับ จนท.สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับการฉายสารคดีและการกระจายเสียง ได้รับการประสานจากฝ่ายพลเรือนว่าอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนท่าทีตามมาตรการกดดันชาวกัมพูชา
สำหรับภารกิจการเก็บกู้ระเบิด กกล.บูรพา ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ยังคงเดินหน้าดำเนินการตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วเข้าสู่วันที่หก โดยวันนี้ไม่พบทุ่นระเบิดเพิ่มเติม
สรุปผลการเก็บทุ่นระเบิดตกค้างในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 68 ถึงปัจจุบันนี้ สามารถตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวม 9 ทุ่น (POMZ-2 จำนวน 2 ทุ่น, PMN จำนวน 6 ทุ่น และ MN79 จำนวน 1 ทุ่น) โดยได้ดำเนินการคืนพื้นที่ปลอดภัยครอบคลุม บ.หนองหญ้าแก้ว แล้ว 100%
ทั้งนี้ ฉก.อรัญประเทศ และทหารพรานที่รับผิดชอบในพื้นที่ร่วมแสดงพลังการปกป้องผืนแผ่นดินไทย พร้อมร้องเพลง “สยามานุสสติ” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ ตามที่กองทัพบกได้รับการสนับสนุนจาก “กองทุนหทัยทิพย์” ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อดำเนินการก่อสร้างบังเกอร์ หลุมหลบภัยและแนวป้องกันขอบเขตบริเวณเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชานั้น กองทัพภาคที่ 1 และ กกล.บูรพา ได้เข้าร่วมประชุมหารือกับคณะทำงานโครงการสนับสนุน "กองทุนหทัยทิพย์" กองทัพบก เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งวางแผนการก่อสร้างให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามความประสงค์ของกองทุนฯ ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 และ กกล.บูรพาอยู่ระหว่างวางแผนลงพื้นที่สำรวจความเหมาะสมและความปลอดภัยในการก่อสร้างดังกล่าว